จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 678

ข่าวนี้ย่อมลือไปถึงจวนผิงหนานอ๋องอยู่แล้ว พอผิงหนานอ๋องได้ยินเข้า สีหน้าตึงเครียดยิ่งนัก

เจ้าขี้โรคกู้จิ่วเยวียนนั่นจู่ๆไปแปรพระราชฐานได้อย่างไร แถมยังอยู่ถึงสามวัน โดนหามออกมาอีก หรือว่าพิษกู่ในตัวมัน-----

พอคิดถึงตรงนี้ สีหน้าผิงหนานอ๋องตึงเครียดขึ้นมาก

ตอนนั้นกู้จิ่วเยวียนกล้าหาญองอาจ ปราบกบฏภายใน หากมิใช่มันมาช่วยฮ่องเต้ทันเวลา ตนคงฆ่าฮ่องเต้แย่งบัลลังก์มาได้นานแล้ว

ดังนั้นตอนกู้จิ่วเยวียนบาดเจ็บสาหัสไสลไม่ได้สติ ผิงหนานอ๋องเลยให้คนวางพิษกู่ใส่เขาอย่างเงียบเชียบ ทำให้หลายปีมานี้กู้จิ่วเยวียนร่างกายอ่อนแอ ไม่มีเรี่ยวแรงทำอะไรเลย ประหนึ่งคนพิการ แบบนี้มันก็จะต่อกรกับตนไม่ได้อีก

“ทหาร!”

องครักษ์คนหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอก ถวายบังคมอย่างนอบน้อม “ท่านอ๋อง มีสิ่งใดจะสั่งการหรือขอรับ?”

“เจ้ารีบนำคนไปแปรพระราชฐานเดี๋ยวนี้ สืบให้รู้แน่ชัดว่าสามวันนี้เซ่อเจิ้งอ๋องเกิดอะไรขึ้นที่แปรพระราชฐาน!” ผิงหนานอ๋องสั่งการ

“ขอรับ!” องครักษ์รีบไปจัดการทันที

ผิงหนานอ๋องมองไปนอกหน้าต่าง สายตามีประกายเหี้ยมเกรียมวาบผ่าน

ผ่านมาหลายปีขนาดนี้ ร่างกายของกู้จิ่วเยวียนกับจวินหย่วนโยวโดนพิษกู่ดูดซับธาตุของคนไปหมดแล้ว ต่อให้ถอนพิษกู่ได้แล้วอย่างไรกัน กลายเป็นคนพิการไปนานแล้ว น่ากลัวจะอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว

พ่อบ้านเดินเข้ามาจากด้านนอก “ท่านอ๋อง ท่านอ๋องน้อยฝันร้ายอีกแล้ว”

นับตั้งแต่ครั้งก่อนที่เซียจิ่วเซียวตกใจหวาดกลัว ก็ล้มป่วยครั้งใหญ่ ร่างกายเริ่มอ่อนแอขึ้นเรื่อยๆ ผิงหนานอ๋องเชิญท่านหมอในเมืองหลวงและหมอหลวงในวังไปดูอาการหมดแล้ว แต่ก็ไม่มีประโยชน์เลย

สีหน้าผิงหนานอ๋องตึงเครียดขึ้นหลายส่วน พุ่งตัวไปเรือนเซียจิ่วเซียวทันที พอเห็นเซียจิ่วเซียวที่นอนพึมพำสลบไม่ได้สติอยู่บนเตียง ผิงหนานอ๋องปวดใจยิ่งนัก

เขามีลูกชายโทนคนนี้คนเดียว เหตุใดสวรรค์อยุติธรรมต่อเขาเช่นนี้ ให้เขาต้องมาทนรับความทรมานเช่นนี้ พ่ออย่างเขากลับทำอะไรไม่ได้เลย น่าแค้นใจยิ่งนัก

“ส่งคนไปเชิญองค์หญิงสามมา!”

“ขอรับ” พ่อบ้านรีบรับคำสั่งทันที

เวลาแค่ชั่วหนึ่งก้านธูป เริ่นเซวียนเอ๋อร์ตามพ่อบ้านมายังจวนผิงหนานอ๋อง มุ่งตรงไปยังเรือนเซียจิ่วเซียวทันที

“เสด็จอา!” เริ่นเซวียนเอ๋อร์เรียก

“เซวียนเอ๋อร์มาแล้ว รีบไปดูจิ่วเซียวหน่อยเร็ว เขาเป็นอะไรไปรึ?” ผิงหนานอ๋องพูดด้วยสีหน้าตึงเครียด

“เสด็จอาอย่าร้อนใจไป ข้าขอดูหน่อย” เริ่นเซวียนเอ๋อร์รีบตรวจชีพจรให้เซียจิ่วเซียวทันที จากนั้นสีหน้าตึงเครียดบอก “ชีพจรเขาสับสนวุ่นวาย อารมณ์ไม่มั่นคง ร่างกายอ่อนแอยิ่งนัก น่าจะไม่ได้พักผ่อนให้ดีนานแล้ว ข้าจะจ่ายยาบำรุงประสาทให้เขาสักหน่อย”

“เซวียนเอ๋อร์ เจ้าพูดความจริงกับอานะว่า ร่างกายของจิ่วเซียวเป็นอย่างไรกันแน่?” ผิงหนานอ๋องถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

เริ่นเซวียนเอ๋อร์เหล่มองคนรับใช้ที่หน้าประตูทันที ผิงหนานอ๋องเข้าใจในบัดดล “พวกเจ้าออกไปก่อนเถอะ”

“ขอรับ!” ทุกคนพากันออกไป

“ตอนนี้พูดได้แล้วกระมัง?”

เริ่นเซวียนเอ๋อร์มองมา “เสด็จอา อาศัยที่ท่านยังหนุ่มรับชายารองหรือเมียรองเถอะ ร่างกายของจิ่วเซียวน่ะต่อให้บำรุงดีแล้ว ก็เป็นคนพิการอยู่ดี แต่แค่ตกใจเล็กน้อยก็จะอาการหนัก ดังนั้นขอให้เสด็จอาคิดหาทางอื่นเถอะ”

คำพูดเหล่านี้ประหนึ่งสายฟ้าฟาดลงกลางหัวใจผิงหนานอ๋อง เขาคิดไม่ถึงเลยว่า ลูกชายเพียงคนเดียวของตนจะเป็นเช่นนั้น เขาจะรับได้อย่างไร

“เป็นไปได้อย่างไร เป็นเช่นนี้ได้อย่างไรกัน ก่อนหน้านี้ยังดีๆอยู่มิใช่รึ? เซวียนเอ๋อร์เจ้าต้องช่วยจิ่วเซียวให้ได้นะ เขาจะเป็นเช่นนี้ไม่ได้”

“เสด็จอา ข้าทำเต็มที่แล้ว” เริ่นเซวียนเอ๋อร์ถอนหายใจยาว เขียนใบสั่งยาจากนั้นก็จากไป

ผิงหนานอ๋องมองดูเซียจิ่วเซียวที่อยู่บนเตียงนานมาก สีหน้าเคร่งเครียดยิ่งนัก

พ่อบ้านส่งองค์หญิงสามกลับไป มาเจอท่านอ๋องเข่าอ่อนทรุดอยู่ที่พื้น รีบพุ่งเข้ามาพยุงเขาลุกขึ้น “ท่านอ๋อง ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ