“สมน้ำหน้า นายดูเหงื่อบนหน้าเขาสิเหมือนฝนตกเลย ทำไมนายยังไม่ไสหัวออกไปอีก คนที่มีไอคิวแบบนายมาที่แบบนี้ได้ด้วยเหรอ”
เสียงหัวเราะดังเข้าหูไม่หยุด ทุกคนเดินไปต่อข้างหน้า
ดูจากการพูดของพวกเขา ถ้าไม่ใช่เพราะที่นี่ใช้พลังปราณไม่ได้ พวกเขาต้องลงมือกับลู่ฝานแน่ๆ เรื่องซ้ำเติมคนที่กำลังลำบาก พวกเขาชอบทำอยู่แล้ว
จู่ๆ ผู้ชายคนหนึ่งส่งกระแสจิตให้เทียนชิงหยาง “จะให้จัดการเขา......”
เทียนชิงหยางยกมือขึ้น ขยับปากเล็กน้อยแล้วตอบกลับ “สหายซุนจื้อ ไม่รีบ ให้เขาสนุกกับพลานุภาพสร้างความกดดันของเทพบู๊ไปก่อน ลงมือที่นี่เสี่ยงเกินไป ไม่คุ้มค่า ทำไมไม่รอให้เราได้โชคชะตาและโอกาสจากเขาวิถีบู๊มาก่อน จากนั้นค่อยกลับมาเล่นงานลู่ฝานก็ได้ เขาหนีไม่พ้นหรอก!”
ซุนจื้อพยักหน้า ยกยิ้มร้ายกาจที่มุมปาก มองไปทางลู่ฝาน
เทียนชิงหยางละสายตาออกมา เดินต่อไปข้างหน้า ฝีเท้าเร็วขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเร็วยิ่งเหมือนลอยได้
ตอนนี้ในใจของเขา ลู่ฝานกลายเป็นคนตายไปนานแล้ว
ลู่ฝานเมินคนที่ด่าพวกนั้นไปโดยอัตโนมัติ คำพูดแย่กว่านี้เขาก็เคยได้ยินมาแล้ว อีกทั้งยังฟังจนเอียนตั้งนานแล้ว นี่จะนับประสาอะไรล่ะ!
สิ่งสำคัญที่ต้องทำตอนนี้ คือต้องเข้าใจให้ได้ว่าทำไมพลังกดดันที่โจมตีใส่ลู่ฝาน ถึงแข็งแกร่งขนาดนี้ ประสบการณ์ของเขายังไม่พอจริงๆ ดังนั้นจึงทำได้เพียงตะโกนเรียกไอ้เก้าอย่างสุดชีวิตในใจ
แต่วันนี้แปลกมากเลย เรียกอยู่สิบกว่าครั้ง ไอ้เก้าก็ไม่ตอบ
ลู่ฝานก่นด่าในใจว่า “ไอ้เก้า หายหัวตอนช่วงสำคัญ ไปตายที่ไหนแล้ว”
ยังไม่มีคำตอบเหมือนเดิม จู่ๆ ลู่ฝานฉุกคิดขึ้นในใจ “อย่าบอกนะว่าไอ้เก้าก็โดนควบคุมเหมือนกัน”
ลู่ฝานเกิดความตกตะลึงในใจ รีบสะบัดความคิดนี้ทิ้งไปก่อน
เพราะถ้าเป็นเช่นนี้ ครั้งนี้เขาคงลำบากแล้วจริงๆ
ยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น ลู่ฝานเหมือนรูปปั้นหินองค์หนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า