ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 303

ฉินหรูเหลียงพูดขึ้นว่า : "ท่านไม่ยอมให้ข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ และตัวข้าเองก็ไม่สามารถจะช่วยเหลืออะไรได้ ในเมื่อไม่มีอะไรให้ทำอยู่แล้ว ทำอาหารสักหน่อยยังพอได้บ้าง ท่านลองชิมดู"

เฉินเสียนเริ่มตักอาหารมาชิม ฉินหรูเหลียงจึงถามขึ้นว่า : "รสชาติพอได้ไหม?"

ในใจของเธอตอนนี้มันไม่ใช่รสชาติ เธอไม่เคยนึกเลย ว่าแม่ทัพใหญ่แห่งอาณาจักรต้าฉู่ ที่เคยเป็นคนที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ทุกอย่าง แต่มาวันนี้เขากลับเข้าห้องครัวเป็น กลิ่นอายจิตสังหารค่อยๆ ถูกกลิ่นควันและกลิ่นน้ำมันในห้องครัวกลบเกลื่อนจนหมด

เฉินเสียนกลืนลงคออย่างยากลำบาก แล้วจึงพูดขึ้นว่า : "ท่านไม่เหมาะกับการทำอาหาร คนทำอาหารจะต้องเป็นคนที่มีจิตใจละเอียดอ่อน ท่านทำเค็มไปแล้ว"

"อย่างงั้นหรือ คราวหน้าข้าจะระวัง"

"ฉินหรูเหลียง" เฉินเสียนถามขึ้นว่า : "ทำไมท่านถึงไม่ยอมให้ซูเจ๋อรักษาแขนของท่านให้หายดี"

"สิ่งที่รับมาจะต้องมีข้อแลกเปลี่ยนเสมอ ข้าไม่อยากจะถูกเขาบงการ" ฉินหรูเหลียงเม้มปากแล้วจึงพูดขึ้นว่า : "คนผู้นั้นโอหังเกินกว่าที่ท่านจะจินตนาการได้ เขานึกว่าตัวเองสามารถควบคุมทุกคนได้ เฉินเสียน คนแบบนั้นน่ากลัวที่สุด"

เฉินเสียนพูดขึ้นด้วยความเข้าใจ : "มิน่าล่ะ เขาถึงบอกว่าต้องให้ท่านเป็นคนตัดสินใจคิดพิจารณาเองให้ดี ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถบังคับใครได้ทั้งนั้น" เธอหันไปมองฉินหรูเหลียง แล้วถามต่อว่า : "เขาไปบงการและควบคุมอะไรท่านหรือ?"

ฉินหรูเหลียงพูดขึ้นว่า : "เขาคิดว่าข้าจะตอบตกลงอย่างง่ายดาย ข้าเพียงแค่ไม่อยากที่จะก้มหัวให้เขา"

บางทีฉินหรูเหลียงอาจจะรู้สึกว่าคนอย่างซูเจ๋อน่ากลัวจริงๆ ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น เพราะแม้แต่เฉินเสียนเองก็เคยมีห้วงเวลาหนึ่งที่รู้สึกว่าซูเจ๋อน่ากลัวและหยั่งลึกไม่ถึง

เขาสร้างกับดักขึ้นทีละกับดัก การคิดการของเขาทั้งลึกซึ้งและกว้างไกลจนผู้อื่นไม่สามารถเข้าถึงได้ เขาวางแผนเสร็จสรรพตั้งแต่แรก รอเพียงคนข้างนอกกระโดดเข้าไปก็เท่านั้น

เฉินเสียนสามารถเข้าใจฉินหรูเหลียงได้ แต่ตอนนี้เพราะเธอได้รักซูเจ๋ออย่างสุดหัวใจ เพราะฉะนั้นเวลานี้เธอจึงรู้สึกว่าถ้าหากเขาจะตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง แล้วเขาจะต้องคิดพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน มันเป็นเรื่องที่ปกติมาก

ไม่อย่างงั้นเขาจะเดินอยู่ปลายหน้าผามาจนถึงทุกวันนี้ได้ยังไงกัน

เฉินเสียนพูดขึ้นว่า : "ซูเจ๋อพูดถูก ท่านต้องการเวลาเพื่อพิจารณา ข้ายังหวังอยู่เสมอ ว่าสักวันหนึ่งท่านจะกลับมาเป็นฉินหรูเหลียงคนเดิม"

ฉินหรูเหลียงคิดในใจ คำพูดที่ซูเจ๋อพูดกับเขาตอนอยู่ในรถม้าวันนั้น เฉินเสียนคงไม่รู้สินะ

ซูเจ๋อคนลุ่มลึกอย่างเขา คงจะไม่มีวันยอมเปิดเผยด้านมืดให้เฉินเสียนเห็นอย่างแน่นอน

ฉินหรูเหลียงไม่ได้พูดอะไรมาก เขาพูดเพียงว่า : "รอเวลาผ่านนานไป ท่านจะมองเขาออกได้อย่างชัดเจน เขาซับซ้อนซ่อนเงื่อนเกินกว่าที่ท่านจะจินตนาการได้"

เมื่อฉินหรูเหลียงเดินจากไปแล้ว เฉินเสียนยังนั่งใช้ความคิดอยู่ที่ทางเดินคนเดียว

ซูเจ๋อคนผู้นี้เป็นดังที่เขาพูดไว้ไม่มีผิด ลุ่มลึกและซับซ้อน

แต่คนผู้นี้ตอนนี้กำลังช่วยกันระบายน้ำ ระดมช่วยเหลือผู้ประสบภัยร่วมกับแม่ทัพโฮ้วอย่างไม่หยุดยั้ง

แค่พวกเขามีหัวใจเป็นอันหนึ่งเดียวกัน ยังไม่เพียงพออีกหรือ

วันรุ่งขึ้นในระหว่างที่กำลังระบายน้ำ เฉินเสียนได้ไปติดตามผลลัพธ์และความเคลื่อนไหว

ฝนตกปรอยๆ แม่ทัพโฮ้วได้สั่งการให้เหล่าทหารขุดลอกแม่น้ำ ขาทั้งคู่สวมใส่รองเท้าหนังสีดำเดินเหยียบย่ำอยู่ในโคลนตมไปๆ มาๆ จนดินโคลนสาดกระเซ็น ชุดเกราะสีดำที่สะท้อนน้ำนั่น

พวกเขากำลังสร้างอ่างกักน้ำพื้นที่ราบต่ำในบริเวณที่ไม่มีผู้คน เพื่อที่จะสามารถระบายน้ำส่วนหนึ่งของแม่น้ำเซียงไปยังอ่างกักน้ำนี้

หลังฝนในช่วงสารทฤดูผ่านไป พื้นที่บริเวณใกล้เคียงกับอ่างกักน้ำเริ่มมีการทำการเกษตรใหม่อีกครั้ง และได้ยืมน้ำจากอ่างกักน้ำเพื่อชลประทาน

บวกกับปริมาณดินโคลนที่ไหลเข้าสู่อ่างกักน้ำ เมื่อน้ำถูกระบายและระเหยออกไปจนหมด ไม่เพียงแต่จะสามารถเติมเต็มพื้นดิน แต่กลับเกิดเป็นผืนดินที่อุดมสมบูรณ์ผืนใหญ่

ขณะที่เฉินเสียนไปถึงนั้น ซูเจ๋อกำลังยืนอยู่บนผืนหญ้าตรงขอบ

ผืนหญ้าที่เขียวชอุ่มสองประกายระยิบระยับเพราะโดนละอองน้ำฝน เพียงแต่ปลายต้นหญ้านั้นเปรอะเปื้อนไปด้วยดินโคลน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี