ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 823

อีธานแอบเบ้ปาก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งด้วยสีหน้าไม่เป็นพิษเป็นภัยแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “ต้นกล้าเพิ่งจะออกจากบ้านไปแค่สองชั่วโมงก่อน คุณลุงยังเป็นห่วงเลย คุณพ่อจะเป็นห่วงพวกเราก็เป็นเรื่องปกติ”

“พี่ชายพูดถูก!” เอลล่าพูดด้วยรอยยิ้มพลางชูมือน้อย ๆ ของเธอขึ้น “แต่ว่าคุณพ่อกับคุณลุงไม่เหมือนกันนะคะ เพราะคุณพ่อจะโกรธแค่กับตัวเอง จะไม่ทำให้หนูกับพี่ชายลำบากใจ”

แล้วก็เป็นไปอย่างที่คิด ทันทีที่นิธิศได้ยินคำพูดพวกนี้สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที แต่ว่าเขาก็ไม่สามารถคิดเล็กคิดน้อยกับเจ้าเด็กสองคนนี้ได้ และได้แต่คิดในใจว่าเจ้าเด็กสองคนนี้ขวางหูขวางตาน่ารำคาญ

แม้แต่ญาธิดาเองก็ฟังความหมายอื่นที่แฝงอยู่ในคำพูดของเด็กน้อยทั้งสองคนออกเหมือนกันจนต้องรีบเอ่ยปากปรามพวกเขา “อีธานเอลล่า ห้ามวิจารณ์คุณพ่อตามอำเภอใจนะ อีกอย่าห้ามวิจารณ์ผู้อาวุโสกว่าสุ่มสี่สุ่มห้าเด็ดขาด”

เด็กน้อยทั้งสองตอบรับอย่างเชื่อฟัง ภายในรถเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะชอบใจ

แต่คำพูดเหล่านั้นของอีธานได้เตือนสติญาธิดา ถ้าภวินท์เกิดเห็นนิธิศขึ้นมา เขาอาจจะโกรธแล้วก็หึงหวงขึ้นมาอีกก็ได้

นพเก้าแค่คนเดียวก็ทำให้ปวดหัวมากพอแล้ว ถ้าเกิดมีนิธิศโผล่มาอีกคน ชีวิตในบ้านพักคงจบเห่กันพอดี

ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเพิ่งจะผ่อนคลายลง ตอนนี้ทางที่ดีที่สุดคืออย่าสร้างปัญหาอะไรอีกเลยจะดีที่สุด

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เอก็รีบหันไปมองผู้ชายที่กำลังขับรถอยู่ข้าง ๆ แล้วพูดเบา ๆ ว่า “ที่อีธานพูดก็ถูก คุณจอดให้พวกเราลงตรงสี่แยกข้างหน้าเถอะค่ะ”

“อันที่จริงมันก็อีกไม่ไกลแล้วนะ อีธานกับเอลล่าแค่พูดไปตามประสาเด็ก ทำไมคุณถึงจริงจังกับเรื่องนี้ด้วยล่ะเนี่ย” เขาพูดอย่างไม่รีบไม่ร้อน แถมพูดกึ่งติดตลก

แต่ญาธิดาตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะลงตรงสี่แยกข้างหน้า นิธิศเองก็กลัวว่าถ้าบีบบังคับจนเกินไปจะทำให้เธออึดอัดจึงทำได้เพียงจอดรถตามที่เธอบอก

เด็ก ๆ ลงรถพร้อมกัน ต้นกล้ากางแขนออดอ้อนอยากให้เธอกอดเหมือนอย่างเคย

เธอโอบต้นกล้าเข้ามากอดไว้ในอ้อมแขนด้วยแววตาอ่อนโยนนุ่มนวล “กลับไปแล้วต้องเชื่อฟังคุณพ่อนะ เดี๋ยวไว้วันหลังป้าจะพาไปคุยกับคุณป้าคนสวยดีไหม?”

ต้นกล้าดูเหมือนจะชอบอลิสาไม่น้อย เขาพยักหน้ารับแรง ๆ รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าพร้อมกับขานรับ “ครับ”

เขาพูดน้อยมาก ๆ ก่อนที่จะเจอกับญาธิดาหลายคนต่างคิดว่าเขาเป็นใบ้ด้วยซ้ำ ญาธิดาเองก็ได้ยินเขาพูดแทบจะนับครั้งเหมือนกัน

เป็นเรื่องยากที่จะได้ยินเข้าพูดอีกครั้ง ใบหน้าของญาธิดาพลอยดีอกดีใจไปด้วยเช่นกัน เธอรีบหันมองไปทางนิธิศ “การรักษาของอลิสาได้ผลมาก หวังว่าคุณจะเห็นด้วยที่จะให้ต้นกล้ารับการรักษาต่อไปนะคะ”

ใบหน้าของเธอประดับไว้ด้วยรอยยิ้มอบอุ่น คล้ายกับว่าใส่ใจในคำตอบของเขามาก ทางด้านนิธิศก็ดีใจมากเหมือนกัน แต่ว่าเขาไม่คิดที่จะตอบรับคำกับเธอโดยตรง “ผมไม่คุ้นเคยกับคุณหมออลิสา แต่ผมจะรับข้อเสนอของคุณไว้พิจารณานะครับ”

หนึ่งเป็นเพราะเขาไม่อยากพูดให้เธอเสียกำลังใจ อีกทางหนึ่งเป็นเพราะแบบนี้จะสามารถทำให้เขาสามารถติดต่อกับเธอได้มากขึ้น ซึ่งมันเป็นเรื่องดีที่ยิ่งปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

เขารับต้นกล้ามาจากอ้อมแขนของญาธิดาก่อนจะพูดอย่างอ่อนโยนว่า “ต้นกล้ากลับบ้านกับพ่อก่อนโอเคไหม วันนี้แม่ก็ต้องกลับบ้านแล้วเหมือนกัน ไว้พรุ่งนี้พวกเราค่อยมาเล่นกับคุณแม่ไหมนะ”

เมื่อต้นกล้าได้ยินก็พยักหน้า จากนั้นก็ค่อย ๆ ส่ายหัวไปมาเบา ๆ

นิธิศกัดฟันแน่น แขนที่กำลังอุ้มต้นกล้ากระชับแน่นขึ้นและเด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนก็รู้สึกถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของเขาเช่นกัน ก่อนที่ความกลัวจะปรากฏบนใบหน้าของเด็กน้อยโดยที่คนอื่นไม่ทันสังเกตเห็น

น้ำเสียงของนิธิศยังคงฟังดูอ่อนโยนมากเหมือนเดิม “พ่อรู้ว่าลูกไม่อยากจากแม่ แต่ว่าพวกเราจำเป็นต้องให้คุณแม่กลับไปก่อนนะ ไม่อย่างนั้นคุณแม่จะไม่ชอบต้นกล้าเอานะ”

ครั้งนี้ต้นกล้าก็ไม่สนใจว่าเขาจะหมายถึงอะไร แต่เขาก็พยักหน้ารับอย่างว่าง่ายทันที

เมื่อรู้สึกได้ว่าต้นกล้ากำลังจะเริ่มชินกับการเรียกเธอว่าแม่ ญาธิดาจึงขมวดคิ้วแน่นโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะหันไปมองนิธิศและพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “คุณต้องแนะนำต้นกล้าในทางที่ถูกต้องนะคะ แต่ไม่ใช่ยอมเคลิ้มทำตามความคิดของเขาแบบนี้”

เธอเหมือนไม่สนใจจะฟังคำอธิบายของเขา และยังพูดเสริมอีกโดยไม่รอให้เขาพูดต่อไปว่า “ถ้าหากยังกำหนดให้ต้นกล้าเข้าใจว่าฉันเป็นแม่ของเขาอยู่แบบนี้ ถ้าจะให้เขายอมรับผู้หญิงคนอื่นอีกคงเป็นเรื่องยาก”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์