เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ นิยาย บท 926

บทที่925 อนาคตยังอีกยาวไกล

“เหตุสุดวิสัย? เหตุสุดวิสัยตั้งเยอะ ฉันก็ยังเป็นกังวลอยู่ดีนั่นแหละ”

ทันใดนั้นเองหานมู่จื่อก็นึกประเด็นหนึ่งขึ้นมาได้ “คืนนี้ดูเหมือนว่าห้องที่บ้านจะนอนไม่พอกัน”

อพาร์ทเม้นต์แห่งนี้มีสองห้องรับแขกสามห้องนอน ห้องนึงถูกเธอกับเย่โม่เซินยึดครองไปแล้ว อีกห้องที่เหลือก็ให้ยู่ฉือจินไป อย่างนั้นแล้วก็จะเหลืออยู่เพียงแค่ห้องเดียว

ส้งอาน เสี่ยวเหยียน เซียวซู่...

จำต้องมีอีกสามห้องสิถึงจะถูก

“หา? งั้นก็ไม่เป็นไร ถ้าห้องไม่พอ ฉันออกไปจองโรงแรมเอาก็ได้”

ได้ยินอย่างนั้นแล้ว หานมู่จื่อก็อดไม่ได้ที่จะย่นคิ้วสวยออกมา พวกเธออุตส่าห์เดินทางมาตั้งไกล อาหารค่ำส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ก็ยังไม่ได้กินอะไร ยังจะให้พวกเธอวิ่งเต้นออกไปพักโรงแรมให้ลำบากอีก จะฉลองปีใหม่ทั้งทีก็ไม่ได้ฉลองดีๆเลย นี่มันได้ยังไงกัน?

“ไม่ได้ ฉันขอลองคิดหาวิธีดูแล้วกัน”

หานมู่จื่อคิดไปคิดมา จากนั้นก็เอ่ยออกมาว่า “ฉันรู้แล้ว เธอกับคุณน้าแล้วก็ฉันนอนห้องนึง โม่เซินก็พาเสี่ยวหมี่โต้วไปอยู่กับเซียวซู่ ห้องที่เหลืออีกห้องก็ให้คุณตาของโม่เซินกับลุงหยูไป”

เสี่ยวเหยียน “...เตียงเดียว นอนเบียดกันสามคนจะพอหรอ?”

พูดจบ เสี่ยวเหยียนก็มองเตียงที่อยู่ด้านหลังเธอออกไป จากนั้นดวงตาก็จ้องนิ่งไปทันที

นี่เป็นเตียงขนาดใหญ่ อีกทั้งยังเป็นแบบที่สั่งทำมาเป็นพิเศษ อย่าว่าแต่สามคนเลย สี่คนนอนก็ยังมีที่อีกเหลือเฟือ

เสี่ยวเหยียนไม่รู้ว่าจะต้องแสดงออกไปยังไงขึ้นมาทันที ทำได้แค่เพียงพูดออกไปว่ามีเงินนี่ช่างดีจริงๆ

“เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันนอนกับเธอ? ถึงยังไงเรื่องที่เกิดขึ้นมาปุบปับอย่างนี้แล้ว ฉันคิดว่าเธอกับโม่เซินคงจะต้องมีเรื่องให้คุยกันมากแน่”

ดังนั้นแล้วเมื่อกี้นี้เธอจึงได้เสนอออกไปว่าให้เสี่ยวหมี่โต้วมานอนกับเธอ ก็เพราะสาเหตุนี้

อยากอุ้มเสี่ยวหมี่โต้วมา เพื่อเว้นช่วงให้เย่โม่เซินกับหานมู่จื่อ เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วพวกเขาก็จะได้มีเวลาคุยกัน

หานมู่จื่อนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย นึกถึงสถานการณ์ในตอนนี้ เธอกับเย่โม่เซินมีเรื่องที่ต้องคุยต้องถามกันมากมายจริงๆนั่นแหละ แต่ว่า...เมื่อถึงเวลาอย่างนี้แล้ว เธอกลับรู้สึกเหมือนราวกับว่าตัวเองไม่มีอะไรที่จะพูดออกไปได้เลย

ดังนั้นแล้วหานมู่จื่อจึงเอ่ยออกไปว่า “ไม่เป็นไร อนาคตยังอีกยาวไกล มีคำพูดอะไรค่อยพูดตอนหลังมันก็เหมือนกัน ไม่จำเป็นจะต้องพูดคืนนี้เลย”

เสี่ยวเหยียน “...เอาเถอะ ในเมื่อเธอคิดอย่างนี้ งั้นฉันก็จะไม่ว่าอะไรแล้ว เพียงแต่...ฉันคิดว่าพวกเราสามคนนอนเบียดกันเตียงเดียวแบบนี้มันดูกระไรอยู่นะ อีกอย่าง...ฉันก็หิวนิดหน่อย ตอนนี้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นไม่มีทางที่จะกินข้าวกันอีก ไม่สู้ให้ฉันไปหาโรงแรมพักเองดีกว่า หลังจากนั้นฉันก็จะได้หาของข้างนอกกินได้ตามใจได้ไง”

“...”

ยัยคนนี้นี่!

หานมู่จื่อคิดไปคิดมา “งั้นก็รอให้คุณตาของโม่เซินฟื้นขึ้นมาก่อน แล้วพวกเราก็ค่อยรวมตัวกันมากินอาหารง่ายๆด้วยกัน”

ถึงยังไงตอนนี้ก็ยังไม่ดึกนัก กินข้าวสักมื้อ แล้วค่อยนั่งกันอีกสักพัก ก็ยังมีเวลาให้ย่อยอาหารอยู่

หานมู่จื่อไม่ได้ถามอะไรเสี่ยวเหยียนออกไปอีก แต่ได้เดินออกไป ได้เจอเข้ากับส้งอานที่เดินออกมาจากห้องพอดี เธอจึงเดินเข้าไป “คุณน้า นายท่านเป็นยังไงบ้างคะ?”

ได้ยินคำถามของเธอ ส้งอานก็มองเธออยู่นาน “เธอจะกังวลขนาดนี้ไปทำไม? เขาอยากให้เธอกับโม่เซินแยกจากกันนะ เธอยังเป็นห่วงเขาอีก?”

ได้ยินอย่างนั้น หานมู่จื่อก็นิ่งไปเล็กน้อย จากนั้นก็หลุบตาต่ำพร้อมเอ่ยเสียงเบาออกไป

“ไม่ว่าจะยังไง เขาก็เป็นคนช่วยชีวิตโม่เซินเอาไว้ ฉันมีเพียงแค่ความรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณต่อเขา ไม่ได้รู้สึกอย่างอื่น”

ส้งอานมองหานมู่จื่อเงียบๆอยู่สักพัก ริมฝีปากเผยรอยยิ้มจางๆออกมา

โม่เซินเขา มองคนไม่ผิดเลยจริงๆ

หานมู่จื่อที่อยู่ตรงหน้า เป็นคนรู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา ถึงแม้ว่าสิ่งที่ยู่ฉือจินทำลงไปพวกนั้นจะทำให้รู้สึกเกลียดเขา แต่หานมู่จื่อกลับไม่คิดเล็กคิดน้อยต่อเรื่องที่เคยเกิดขึ้น เพราะคิดถึงเพียงสิ่งดีๆที่แสนจะสำคัญนั้น

ปณิธานอย่างนี้ เธอนับถือเลยจริงๆ

เพราะถ้าเป็นตัวเธอเอง มาเจอคุณตาดื้อด้านอย่างนี้เข้า ตามนิสัยเธอแล้วนั้นก็คงจะคลั่งออกมาเป็นแน่ และจะไม่มีทางที่จะคิดไปอย่างลึกซึ้งขนาดนี้แน่

แต่มู่จื่อคิดได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่