หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 136

บริษัท TNP Group

ธนพัตจ้องมองบัตรเชิญในงานประมูลการกุศลที่วางอยู่บนโต๊ะ พลางขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย

ซึ่งเป็นงานประมูลการกุศลของเพื่อนของคุณปู่ จำต้องไปร่วมงาน แต่จำต้องมีคู่ออกงานผู้หญิงหรือผู้ชายเข้าร่วมงานด้วย

เรื่องนี้ เขาลำบากใจเล็กน้อย

สาริศา ยอมไปกับตนเองหรือไม่?

เลิกงานแล้ว สาริศากลับมาถึงบ้าน ธนพัตก็อยู่ในบ้านแล้ว

สาริศาเห็นธนพัต และไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกไปดี

สองสามวันนี้สาริศาครุ่นคิดตั้งมากมาย อาจจะเป็นเพราะธนพัตรักเธอมากเกินไป ถึงได้แสดงความดิบเถื่อนร้อนแรงตอบสนองกลับมา ถึงอย่างไร การถูกธีภพจู่โจมจูบ ก็เป็นความผิดของเธอ ธนพัตโมโหก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติมาก ถ้าไม่ระเบิดอารมณ์นี่สินั่นจะหมายความว่าเขาไม่หึงไม่สนใจใยดี เขาระเบิดอารมณ์ และโกรธเคืองมาก ถึงแสดงให้เห็นว่าเขารักตนเองมาก

การทำสงครามเย็นในหลายวันมานี้ ทั้งสองคนต่างครุ่นคิดวิธีการจะกลับมาคืนดีกับอีกฝ่าย ทว่าปัญหาเรื่องกลัวเสียหน้า ต่างไม่ยอมเริ่มออกตัวขอโทษ

ธนพัตถือบัตรเชิญเอาไว้ ในใจก็คิดว่านี่อาจเป็นโอกาสที่ดีที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและสาริศากลับมาคืนนี้กันก็ได้

หลายวันมานี้สาริศาไม่สนใจเขาเลยด้วยซ้ำ ตัวเองไปไหนมาไหนคนเดียว ช่างอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวเหลือเกิน ไม่มีรอยยิ้ม แล้วท่าท่าหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ตลอดเวลา ซึ่งสามารถมองออกว่าเขาก็ทุกข์ทรมานอยู่ภายในใจ มันเลวร้ายกว่าการถูกลงโทษจากการจองจำเสียอีก

ธนพัตนั่งอยู่บนรถเข็น โดยยื่นบัตรเชิญมาที่มือของสาริศา พลางพูดเสียงทุ้มต่ำ “สาริศา นี่เป็นบัตรเชิญของงานประมูลเพื่อการกุศล คุณไปกับผมนะ”

สาริศาหยิบไว้ในมือ แทบไม่มองด้วยซ้ำ

เธอยังไม่สามารถยกโทษให้เขาได้ในช่วงเวลานั้น แถมยังโกรธเขามาก เธอโกรธธนพัตแต่แสร้งทำเป็นไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเช่นนั้น เขากลับรู้สึกว่าความรู้สึกที่ตนเองได้รับมามันไม่มีความหมายอะไรเลย เขามองไม่เห็นรอยแผลเป็นที่ยังคงอยู่ในหัวใจของเธอ มันยังไม่หายดี

เธอกล่าวออกมาทันที “ฉันไม่เคยไปร่วมงานประมูลเพื่อการกุศลอันหรูหราเช่นนี้มาก่อนเลยค่ะ ฉันกลัวว่าถ้าไปแล้วจะทำให้ขายหน้าได้ค่ะ”

เมื่อได้ยินคำปฏิเสธของสาริศาแล้ว ธนพัตตีหน้าเข้มอีกครั้ง เขาเริ่มพูดเกลี้ยกล่อมต่อ “แต่นี่เป็นงานประมูลที่สหายเก่าของคุณปู่จัดขึ้นมาเลยนะ คุณไม่ไป คุณปู่จะโกรธเอา ท่านดีกับคุณขนาดนี้”

ต้องคำนึงถึงหน้าตาของคุณปู่เอาไว้ก่อน สาริศาเกรงว่าคุณปู่จะจับผิดได้ถึงความผิดปกติของทั้งสองคนจนเกิดการโมโหเป็นแน่

สาริศาได้แต่พยักหน้าตกลงธนพัตว่าจะไปกับเขา

ทว่า สาริศาไม่มีชุดราตรีที่สวยพอ และแต่งตัวไม่เป็นอีก เธอจนปัญยาจริงๆ

ธนพัตมองออกถึงความคิดที่อยู่ในใจของสาริศา หัวใจของเขาเริ่มหวั่นไหวเล็กน้อย อากัปกิริยากังวลของเธอช่างน่ารักน่าเอ็นดูราวกับเด็กน้อย

ธนพัตโทรศัพท์หาชรัณ เพื่อให้ชรัณช่วยจัดการให้

เพราะว่าสาริศาไม่อนุญาตให้เขาเปิดเผยเธอต่อสาธารณะ ดังนั้น เรื่องการแต่งหน้าทำผมของพวกนี้ จึงต้องฝากฝังให้ชรัณเป็นคนจัดการให้

สาริศามองเขาอย่างซาบซึ้ง ทว่า ในใจก็ยังไม่ยกโทษให้เขา

ทั้งสองคนต่างเงียบงันอยู่สักพัก จู่ๆ ธนพัตก็พูดกับสาริศาทันที “คืนนี้ผมไม่อยากนอนในห้องหนังสือแล้วนะ”

สาริศาใจอ่อนทันที ในห้องหนังสือก็ไม่ได้นอนสบายเหมือนบนเตียงในห้องนอน หลายวันมานี้เขาเองก็ลำบากเหมือนกัน

ทว่า ปากเจ้ากรรมของเธอดันเผลอหลุดปากพูดออกไป “นี่มันบ้านคุณ เตียงคุณ คุณเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ เอาที่คุณสบายใจเถอะค่ะ”

ธนพัตกลับมาที่ห้องนอนใหญ่ ทั้งสองคนต่างนอนลงบนเตียงคนละฝั่ง

เช้าวันรุ่งขึ้น สาริศาทำตามที่ผู้ช่วยชรัณได้วางแผนเอาไว้โดยการไปคลับส่วนตัวระดับไฮเอนด์แห่งหนึ่ง โดยเริ่มทำสปาแช่น้ำก่อน เพื่อให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย และนวดตัวอย่างอ่อนโยน จนกวาดอารมณ์อันอึมครึมของสาริศาที่มีมาหลายวันนี้ทิ้งไป เมื่อได้กลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหย ความอัดอั้นตันใจก็ค่อยๆ คลายตัวลงไปเยอะ จนเธอรู้สึกว่าตนเองอารมณ์ดีขึ้นมากแล้ว

คนสวยเตะตาต้องใจอย่างสาริศาแต่งหน้าบางๆ บวกกับทรงผมทรงเจ้าหญิง ยิ่งตอกย้ำความมีเสน่ห์และเน้นความเป็นอารมณ์ดีของเธอได้อย่างเด่นชัด

สาริศาสวมใส่ชุดที่ธนพัตได้จัดเตรียมไว้ให้เธอ เป็นชุดราตรีสีเขียวมินท์อ่อนที่แสนเรียบง่ายโดยเป็นการออกแบบของ Alex นักออกแบบผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง เมื่อสวมใส่แล้วยิ่งแสดงความมีชีวิตชีวาอย่างเต็มเปี่ยมและไม่ทิ้งคราบวุฒิภาวะอันทรงเกียรติ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ