หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 141

ที่แท้เขาก็ยังคงรักพชิราอยู่มาก ใช่สิ ต้องเป็นแบบนี้แน่

สาริศายึดติดกับความคิดแบบนี้

ซึ่งไม่จำเป็นต้องพูดเลยว่าธนพัตกับพชิราตกหลุมรักกันในช่วงเวลาที่แสนงดงามที่สุด รักใคร่ชอบพอกันมาตั้งแต่วัยเยาว์ ความรู้สึกเช่นนี้เธอไม่สามารถเข้าไปแทนที่ได้เลย อีกทั้งพชิราเป็นผู้หญิงที่สง่างามสวยหยาดเยิ้มเช่นนั้น เกรงว่าเธอคงไม่สามารถเทียบเคียงได้เลยมั้ง?

ซึ่งไม่จำเป็นต้องพูดถึงเลย แม้ว่าเธอนั้นเสียชีวิตไปแล้ว จนกลายเป็นสิ่งที่ตราตรึงภายในหัวใจของธนพัต ไม่สามารถลืมเลือนไปจากใจ

สาริศาไม่รู้ว่าในใจตนเองนั้นมันมีความรู้สึกเช่นไร

ขณะนั้นเอง ชัชวาลก็ยกป้ายประมูลขึ้น

“5ล้าน5แสน!”

ฝูงชนต่างฮือฮาพากันตกใจ ชัชวาลประมูลขายของชิ้นนี้ให้ตัวเอง แถมยังแย่งชิงกับธนพัตด้วยเหรอ? นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น? นี่เขาเกิดมาเสียใจภายหลังหรือนั่น คิดแล้วก็น่าจะใช่แหละ เพราะว่านี่เป็นสิ่งที่น้องสาวทิ้งเอาไว้ให้ดูต่างหน้า!

ธนพัตจับจ้องปากกาหมึกซึมด้ามนี้ตาเขม็ง พลางยกมือขึ้นเพื่อชูป้ายอีกครั้ง

“6ล้าน!”

ทุกคนเริ่มเปล่งเสียงฮือฮากันยกใหญ่

คนที่อยู่ในเหตุการณ์ ต่างเป็นกลุ่มคนชนชั้นสูงทั้งสิ้น ดังนั้นมีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้เรื่องราวก่อนหน้านี้ ระหว่างธนพัตกับพชิรา ถึงอย่างไรเรื่องการถูกลักพาตัวและการลอบวางเพลิงในปีนั้นตกเป็นข่าวใหญ่โตที่โด่งดังมาก ในกลุ่มพวกเขาเหล่านั้น มีการรู้จักมักจี่กันเป็นอย่างดีในตระกูลนิธิธราสกุลและตระกูลกีรติเมธานนท์ ดังนั้นการได้ข่าวคราวมานั้นก็เพิ่มมากขึ้น

ปีนั้นถ้าไม่ใช่ธนพัตหนีออกมาได้จากเหตุการณ์ไฟไหม้ เกรงว่าเขากับพชิราคงถูกย่างสดท่ามกลางทะเลเพลิงด้วยกันทั้งคู่ พชิราเพื่อช่วยชีวิตเขาให้รอด ยอมสละชีวิตให้ธนพัตหนีออกไปก่อน ไม่คิดเลยว่ากองเพลิงยิ่งถาโถมรุนแรงหนักมากขึ้น จนทำให้คุณหนูของตระกูลนิธิธราสกุลต้องถูกเผาตายทั้งเป็น ช่างน่าเสียดายจริงๆ น่าเศร้าเหลือเกิน

ดูเหมือนว่าความรู้สึกของธนพัตที่มีต่อพชิราความรู้สึกยังลึกซึ้งมากแหละมั้ง ขนาดภรรยาของเขาก็นั่งทนโท่อยู่ด้านข้างแท้ๆ เขายังต้องการจะประมูลสิ่งของของพชิรามาครองให้ได้

ชัชวาลยังคงยกป้ายเสนอราคาต่อ และยิ้มให้อย่างเย็นชา

“6ล้าน5แสน!”

ธนพัต แกมันสุภาพบุรุษจอมปลอม แกจะคู่ควรปากกาหมึกซึมของเพชรอยู่มั้ย?

ธนพัตเริ่มยกป้ายตามไม่หยุด

“7ล้าน!”

สาริศาก้มศีรษะลง เอาแต่มองกระเป๋าของตนเอง เธอไม่กล้ามองสีหน้าของธนพัต และไม่กล้ามองปากกาหมึกซึมด้านนั้น

ฝูงชนต่างเหล่ตามองมาทางสาริศา รู้สึกว่าธนพัตให้ความสำคัญกับปากกาหมึกซึมด้ามนี้มาก คงลืมความรักครั้งเก่ากับพชิราไม่ลงแน่นอน เพราะนี่คือของแทนใจของพวกเขา

เหตุการณ์เป็นเช่นนี้ จนทำให้ภรรยาของธนพัตในเวลานี้ ถึงได้แสดงอาการประหม่าขนาดนั้น

สาริศาก้มหน้าต่ำลงเรื่อยๆ

เมธาวินรู้สึกว่าขืนเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไปจนสาริศาคงสู้หน้าต่อไม่ไหว หากเกิดทนนั่งอีกไม่ไหวถึงขั้นลุกพรวดขึ้นและเดินออกไปจากงานมันจะยิ่งดูไม่ดีมากขึ้นกว่าเก่า ดังนั้นจึงพูดปลอบโยนเธอทันที “นี่ ริศาอย่าคิดมากเลย ทั้งหมดนั่นมันเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว ก็แค่ปากกาหมึกซึมด้ามเดียวเอง ถึงอย่างไรตอนนี้คุณถึงเป็นภรรยาของเขานะครับ”

เมธาวินไม่พูดยังพอกล้ำกลืนฝืนต่อไหว พอเขาพูดออกมาเท่านั้นแหละ หัวใจของสาริศากลับยิ่งอึดอัด วันนี้ซวยจริงๆ ตอนแรกก็ยังดีๆ อยู่เลย แต่ยันต์คุ้มภัยที่มารดาไปขอมาก็หายไปเสียนี่ ตอนนี้ดันมีปากกาหมึกซึมของพชิราปรากฏตัวขึ้นมาอีกแล้ว เฮ้อ ช่างเป็นวันซวยซ้ำซวยซ้อนอีกวันจริงๆ

แถมต่อหน้าต่อตาภรรยาของตนเอง กลับซื้อสิ่งของที่แฟนเก่าทิ้งไว้ดูต่างหน้าที่มีราคาสูงมาก นี่มันเหมาะสมมั้ย? เขาไม่สนใจถึงหน้าตาของเธอสักนิด ทว่าตอนนี้หัวใจของธนพัต ตำแหน่งที่สูงที่สุดและดีที่สุด นั่นก็คือพชิรา ซึ่งไม่ใช่เธอสาริศา

ทว่า ถ้าธนพัตไม่ใช่คนที่ให้ความสำคัญกับความรักครั้งก่อน แล้วเธอยังชอบอยู่มั้ยล่ะ?

เมื่อเอามาครุ่นคิดแล้ว ธนพัตก็ไม่ได้ทำอะไร ถึงอย่างไรทั้งสองคนเคยมีช่วงเวลาอันสวยงามที่มิอาจลืมเลือนในช่วงหนึ่ง ซึ่งคุ้มค่าให้ธนพัตได้หวงแหนและหวนระลึกความทรงจำ ความรู้สึกที่อยู่ในใจของสาริศาทั้งสับสนและยุ่งเหยิง

ชัชวาลชูป้ายประมูลขึ้นมาอีกครั้ง

“7ล้าน5!”

พิธีกรดำเนินรายการรออยู่หลายวินาที และยกค้อนเพื่อเตรียมเคาะนับถอยหลัง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ