หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 147

ธนพัตตกใจมาก หลังจากกดวางสายแล้ว ก็กลับขึ้นห้องด้านบนก่อนทันที

เมื่อเห็นว่าสาริศากำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ แม้ว่าหัวใจยังสั่นเทาก็ตาม แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงพูดว่า “คุณเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว กลับไปนอนพักในห้องนอนและพักผ่อนให้เร็วหน่อย”

สาริศานั่งย่อเข่าลง พลางแนบหน้าลงบนหน้าตักขาทั้งสองข้างของเขา พลางพูดออกมา “งั้นคุณล่ะคะ? วันนี้คงเหนื่อยมากกว่าฉันใช่มั้ย”

ธนพัตพูดทันที “ผมกำลังรอเมธาวินอยู่ เขามีธุระอยู่นิดหน่อยอีกเดี๋ยวจะแวะมาหาผม”

“อ้อ ได้ค่ะ งั้นคุณก็ต้องพักผ่อนบ้างนะ” สาริศาพยักหน้า และเข้าไปอาบน้ำก่อน

ภายในห้องน้ำ สาริศาสติเตลิดเปิดเปิงไปไกล

เรื่องที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดในงานประมูลในวันนี้ จนทำให้สาริศารับไม่ไหวกับเรื่องราวต่างๆมากมาย

อันดับแรกคือเรื่องปากกาหมึกซึมเพชรของพชิรา จนยันต์คุ้มภัยหาย จากนั้นก็เรื่องที่ธนพัตเขาประมูลยันต์คุ้มภัยที่มีราคา 50 ล้าน ธีภพทะเลาะกับไรยา ไรยาตั้งท้องแล้ว ธนพัตเข้ามาขวางไวน์แทน...

สาริศาเกิดความรู้สึกขึ้นมามากมายจนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

น้ำเป็นสิ่งของอันอ่อนโยน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีสายน้ำอุ่นๆไหลกระทบบนร่างกายสาริศา เมื่อความร้อนระอุสัมผัสผิวนุ่มนวลของเธอ ตั้งแต่เส้นผมไหลเป็นสายลงมาถึงปลายเท้า อาการเคร่งเครียดของสาริศาถึงกลับผ่อนคลายลงเล็กน้อย สบายตัวมากเลย

สาริศาฉุกคิดถึงธนพัตทันที

เขาทุ่มเงินตั้ง 50 ล้านเพื่อซื้อยันต์คุ้มภัยของมารดาของเธอ ก็เพื่อกลัวว่าเธอจะได้รับความเจ็บปวดแล้วลุกขึ้นเดินหนีออกจากห้องไป ตอนที่ไรยาสาดไวน์แดงเข้ามาหา เขามักจะปรากฏตัวขึ้นในชั่วขณะที่เธออยู่ท่ามกลางอันตรายได้ทันเวลา...

ตราบใดก็ตาม ระหว่างสาริศาและธนพัตนั้น ราวกับมีอุปสรรคมาขวางกั้นอยู่ไม่น้อย อย่างเช่นธีภพเอย พชิราเอย และยังมีความจริงที่เกิดขึ้นเมื่อสองปีก่อนนั้นด้วย

บางที ธนพัตไม่สนใจ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสองปีก่อน ถือว่าเป็นหนามที่คอยทิ่มแทงอยู่ในใจสาริศาอยู่ตลอดเวลา และคอยทิ่มทำให้เธอเจ็บปวดใจอยู่บ่อยครั้ง

ทว่า ใครบ้างเล่าที่จะไม่มีอดีต หนามอันที่ปักอยู่กลางหัวใจของธนพัตนั้น ก็คือเหตุการณ์ไฟไหม้กับพชิราไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้ธนพัตยังแสร้งเป็นไอ้ง่อยที่ขาทั้งสองข้างพิการทั้งคู่ เขายังมีเรื่องอีกมากมายที่จำต้องเข้าไปจัดการ

อีกฝั่ง ห้องรับแขก

ธนพัตหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูข่าวอยู่สักพัก ทว่าเขาแทบไม่ได้มองสักตัวอักษรด้วยซ้ำ

สิ่งที่เมธาวินพูดกับเขาในโทรศัพท์ จนทำให้อารมณ์ของเขากระพือจนวุ่นวายไปหมด

ความจริงมันคืออะไรกันแน่? เมธาวินสามารถไขปริศนาอันนี้ได้มั้ย?

ในชั่วขณะนั้น จู่ๆธนพัตก็หวาดกลัวกับคำตอบมาก เพราะว่า ความจริง มักจะเบนเข็มไปยังทางที่น่าหวาดกลัวอยู่เสมอ

ธนพัตรอจนร้อนใจ ผ่านไปสักครู่ใหญ่ เมธาวินถึงได้ตาลีตาเหลือกมาถึง

แม่บ้านกลับไปแล้ว ธนพัตจึงลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้รถเข็น

ความจริง ทุกสิ่งทุกอย่างในงานประมูลมันไม่ถือว่าเหนื่อยเลย การนั่งอยู่บนรถเข็นนี่แหละถือว่าเหนื่อยที่สุดแล้ว

ธนพัตรินไวน์แดงให้กับเมธาวิน

เมธาวินรับมาและพูดทันที “ไวน์แดง นายยังกล้าดื่มอีกเหรอ? ดื่มจนรดไปทั่วตัวแล้วเนี่ย ติดใจล่ะสิ”

เขาเอาจมูกทำท่าเขยิบเข้าหาสูดดมเสื้อผ้าของธนพัต จากนั้นก็ทำมือปิดจมูกและพูดออกมา “กลิ่นเหล้าคละคลุ้งขนาดนี้ ฮ่าๆ ดูเหมือนเพื่อนเกลอคอแข็งไม่เบาเชียว”

ธนพัตถามด้วยความรีบร้อน “อย่าพูดมากอีกเลย รีบพูดมาเร็ว ที่แกพูดอยู่ในสายมันหมายความว่าไง? เรื่องผ้าเช็ดหน้านั้นมีเบาะแสแล้วเหรอ?”

เมธาวินดูดีใจมาก จึงพูดทันที “เวลาค่ำคืนอันแสนยาวนาน แกจะรีบร้อนไปทำไม เฮ้อ แกมันเป็นคนไม่สนุกสักนิด ชอบตีหน้าเข้มอยู่นั่น เหนื่อยมั้ยวะ”

ธนพัตนั่งอยู่บนโซฟา พลางพูดทันที “อย่าก่อกวน! รีบพูดมาถึงผ้าเช็ดหน้าผ้าไหมผืนนั้นเถอะ แกคิดอะไรขึ้นมาได้บ้าง รีบพูดมา อย่ามาทดสอบความอดทนของฉัน”

“ok ok” เมธาวินยกมือทั้งสองขึ้นเพื่อแสดงท่าทางยอมจำนนแล้วจึงพูดออกมา “ในงานเลี้ยงประมูลการกุศล แกต้องไปขอบคุณคนหนึ่งด้วยนะ เพราะว่าเธอทำให้ฉันฉุกคิดถึงเรื่องผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาได้”

“ใครวะ?” ธนพัตรอคำตอบจากปากเมธาวิน

เมธาวินเห็นท่วงท่าร้อนรนของธนพัตแล้ว เผลอหลุดหัวเราะออกมา พลางพูดต่อ “แกดูท่าทางความร้อนใจเหมือนหมีกินผึ้งของแกสิ ฮ่าๆ ตลกชะมัด”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ