จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 198

ใช่สิ เมื่อครู่นี้หลิ่วซิงทำร้ายไอ้หินจนบาดเจ็บ ก็ไม่ใช่พูดคำนี้ขึ้นหรอกเหรอ?

มันคือวัฏจักรแห่งสวรรค์ กรรมตามสนอง!

คิดไม่ถึงว่าคำพูดนี้ จะย้อนกลับมายังหลิ่วซิงได้รวดเร็วขนาดนี้

“นอกจากนี้ ทำไมข้ารู้สึกว่าหลินหยุนจงใจที่จะกระทำ! ” เพื่อนนักเรียนผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย

“ยังดีที่หลิ่วซิงได้รับบาดเจ็บไปแล้ว ไม่อย่างนั้น ถ้าหากหลิ่วซิงได้ยินเข้า ว่าเขานำคำพูดมาเยาะเย้ยผู้อื่น แล้วถูกคนอื่นใช้เยาะเย้ยกลับไปที่ตัวเขาเอง เกรงว่าจะโมโหจนกระอักเลือด”

แต่ เกรงว่าเพื่อนนักเรียนคนนี้จะหลงลืมไปแล้วว่า แม้หลิ่วซิงจะได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบกับการได้ยินสักหน่อย!

ดังนั้น คำพูดนี้ของหลินหยุนหลิวซิงได้ยินทุกคำจนหมดสิ้น

จากนั้น หลิ่วซิงก็กระอักเลือดออกมาโดยพลัน แล้วก็สลบไป

จางซือจู่กับอีกหลายคน เห็นสภาพนั้นแล้วก็รู้สึกเหมือนได้ระบายความโกรธออกมา ถ้าหากว่าผู้ฝึกสอนไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้แล้ว พวกเขาทั้งหลายก็คงจะแสดงความดีใจกันยกใหญ่ไปแล้ว

สะใจ มันช่างสะใจเสียจริง!

หลิ่วซิงนายไม่ใช่ว่าจะเบ่งอวดดีนักหรือไง? ไม่ใช่บอกว่าพวกเราไร้ความสามารถหรือไง? ตอนนี้ต่อหน้าหลินหยุนนายเองก็ เป็นแค่เพียงผู้ไร้ความสามารถเช่นกัน!

หวางหยู่หันโมโหจนอกจะแตกตาย และร้องตะโกนขึ้นอีกครั้ง “ผู้ฝึกสอน คุณฟังสิ เขาทำร้ายเพื่อนนักเรียนแล้ว นึกไม่ถึงว่ายังจะพูดดูถูกเหยียดหยามกันอีก ถ้าคนแบบนี้ไม่ได้รับการลงโทษแล้ว คงจะขัดต่อหลักธรรมแห่งสวรรค์ทนยอมรับไม่ได้จริง ๆ! ”

ผู้ฝึกสอนจ้องไปที่หวางหยู่หัน เธอทำแบบนี้เหมือนเป็นการบังบังคับให้กระทำกันชัด ๆ!

“นั่งลงก่อน จะจัดการอย่างไรนั้นมันเป็นเรื่องของข้า ไม่ต้องให้คุณมาเป็นกังวลเดือดร้อน” ผู้ฝึกสอนพูดกลับอย่างเย็นชา

เห็นผู้ฝึกสอนโมโห หวางหยู่หันทำได้เพียงนั่งลงอย่างไม่เต็มใจ

ผู้ฝึกสอนหันไปมองที่หลินหยุน พูดขึ้นด้วยสีหน้าหม่นหมองว่า “หลินหยุน นายทำแบบนี้มันเกินไปหน่อยแล้ว! ”

หลินหยุนพูดอย่างเฉยเมยว่า “ข้าไม่รู้สึกเช่นนั้น”

ผู้ฝึกสอนขมวดคิ้ว เขารู้สึกว่าหลินหยุนที่อยู่เบื้องหน้าไม่เหมือนกันกับตอนช่วงก่อนหน้านี้

หลินหยุนก่อนหน้านี้เป็นคนที่ไม่ชอบพูดจาปราศรัย ถูกรังแกกลั่นแกล้งอยู่เป็นประจำ แม้ว่าจะถูกชกต่อยทำร้ายก็จะไม่ปริปากออกเสียง

แต่ทว่า ตอนนี้หลินหยุนก็ยังคงไม่ชอบพูดจาปราศรัยเช่นเดิม แต่ไม่ได้เป็นผู้ถูกรังแกกลั่นแกล้งอีกแล้ว อีกทั้ง ร่างกายของเขายังแฝงไปด้วยกลิ่นอายของความโอ้อวดหยิ่งผยองอีกด้วย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลิ่นอายนั้น ยังส่งผลกระทบไปถึงผู้ฝึกสอนด้วย

“นายสมควรที่จะแสดงความขอโทษต่อหลิ่วซิง” ผู้ฝึกสอนพูดด้วยเสียงอันทุ้มต่ำ

หลิ่วซิงมีชาติตระกูลที่สูงศักดิ์ แต่นี่คือการประลองต่อสู้จริง หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะได้รับบาดเจ็บ เขาจึงไม่สามารถที่จะลงโทษหลินหยุนต่อหน้าทุกคนได้

แต่ทว่า เขาจะต้องทำทีแสดงออกมาบ้าง อย่างน้อยเพื่อให้คนในครอบครัวของหลิ่วซิงได้เห็นถึงลักษณะท่าทีของเขา

ได้ยินผู้ฝึกสอนเร่งเร้าให้หลินหยุนแสดงความขอโทษ จางซือจู่ก็ทนต่อไปไม่ไหว พูดขึ้นอย่างเย้ยหยันว่า “ช่างน่าขันเสียจริง! ”

“ผู้ฝึกสอน ตอนที่ไอ้หินถูกหลิ่วซิงชกโจมตีจนได้รับบาดเจ็บ ทำไมนายถึงไม่ให้หลิ่วซิงแสดงความขอโทษบ้างล่ะ! อีกทั้ง นายพูดอะไรออกไปบ้างนายจำได้ไหม? ”

ผู้ฝึกสอนสีหน้าไม่ดี

จางซือจู่พูดต่ออย่างเย็นชาว่า “ถ้าหากนายหลงลืมไปแล้ว ไม่เป็นไร ข้าจะพูดซ้ำให้นายฟังอีกรอบ! ”

“ตอนนั้นนายพูดว่า ถ้าหากมีใครสามารถแสดงฝีมือทำร้ายหลิ่วซิงจนบาดเจ็บเหมือนอย่างไอ้หิน นายก็จะคิดว่ามันเป็นเพียงความเข้าใจผิด”

“ตอนที่ไอ้หินยอมแพ้ถึงสองครั้งติดต่อกัน ยังกลับถูกหลิ่วซิงชกอัดอย่างหนักจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งหลินหยุนนั้นได้ชกโจมตีหลิ่วซิงจนได้รับบาดเจ็บในขณะที่กำลังประลองฝีมือกันอยู่ เขามีความผิดด้วยงั้นเหรอ? ”

ต่อให้จะต้องโทษกัน ก็ต้องโทษที่ว่าหลิ่วซิงไร้ฝีมือไร้ความสามารถ!

คำพูดนี้ของจางซือจู่ ทำให้ผู้ฝึกสอนรวมไปถึงทุกคนถึงกับพูดไม่ออก

เมื่อครู่ที่ผู้ฝึกสอนพูดนั้น ทุกคนต่างก็ได้ยินกันอย่างชัดเจน ตอนนี้หากเขาคิดจะเบี้ยวคืนคำก็คงไม่มีทางที่จะทำได้

แต่ ใครจะไปคิดได้ว่า หลินหยุนจะสามารถเอาชนะการประลองต่อสู้กับหลิ่วซิงได้!

นี่มันเรียกได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์!

ใบหน้าของผู้ฝึกสอนทั้งเขียวและซีด ตอนนี้ เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะตำหนิหลินหยุน นอกเสียจากว่าเขาจะยอมเสียหน้าเสียศักดิ์ศรี

แต่ว่า ผู้ฝึกสอนเองก็ยังไม่ยอมอ่อนข้อ ไม่อย่างนั้นเขาจะพูดบอกกับคนในครอบครัวของหลิ่ว ซิงว่าอย่างไร? อีกทั้งบารมีความน่าเชื่อถือของเขาก็คงจะถูกบั่นทอนลงไปเกินครึ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์