Virgin Blue ซ่อนเสน่หา นิยาย บท 129

“คุณพ่อขา กลับมาแล้วเหรอคะ ทำงานเหนื่อยไหม”

น้องบีลูกสาววัยสี่ขวบของติณห์วิ่งเข้ามากอดเขาทันทีที่ติณห์ขับรถกลับมาถึงบ้าน

“เหนื่อยยังไงพอเห็นหน้าน้องบี คุณพ่อก็หายเหนื่อยค่ะ”

ติณห์อุ้มลูกขึ้นมากอด น้องบีลูกสาวตัวน้อยของเขากับบุรฉัตร ที่หน้าตาเหมือนบุรฉัตรมากผิวขาวตาโตแก้มป่องน่ารักสุดๆ

แถมพูดเก่งมากๆพูดทั้งวันเวลาอยู่บ้านไม่เคยเหงาเลยเพราะถ้าไม่พูดน้องบีก็ร้องเพลงเสียงดังให้ทุกคนฟัง

อนาคตอยากเป็นนักร้อง เป็นคนดังเหมือนอาแทค

ตอนเป็นเด็กน้องบีพูดช้า อาม่าเลยเอาเขียดมาตีปาก หลังจากตีได้ไม่นาน น้องบีก็พูดเอาพูดเอา พูดเก่งมากจนอาม่าเวียนหัวไปหมด

“เหมือนน้องบีเลยค่ะ น้องบีไปโรงเรียนน้องบีก็เหนื่อยม๊ากมาก พอเจอคุณพ่อก็หายเหนื่อยเหมือนกันค่ะ”

พูดจบก็หอมแก้มเขาสายขวา ทำแบบนี้คุณพ่อแบบเขาจะไปไหนรอด

ติณห์ฟังลูกสาวพูดจาเจื้อยแจ้วแล้วยิ้มออกมา อาการหลงลูกเป็นยังไงเพิ่งเข้าใจตอนนี้ ลูกสาวของเขาทำอะไรก็น่ารักไปหมด

“คุณแม่ของหนูไปไหนคะ”

ติณห์อุ้มลูกสาวเข้าบ้านมองหาคนเป็นแม่ของลูก เจอหม่าม๊าที่ตอนนี้เป็นอาม่านั่งเล่นกับลูกคนเล็กของตวงพรที่เป็นลูกสาวอายุหนึ่งขวบและลูกคนเล็กของเขาอายุสิบเดือน

ตอนนี้แม่ของเขามีหลานสี่คนแล้วเลิกบ่นว่าเหงาแล้ว

เพราะหลานชายหลานสาวอย่างละสองคนที่เป็นลูกของเขากับตวงพร ออกมาให้หม่าม๊าเลี้ยงติดๆกันเลยแทบไม่มีเวลาพัก

แม้จะมีพี่เลี้ยงครบคน แต่หม่าม๊าก็เป็นคนควบคุมการเลี้ยงแต่เพียงผู้เดียว ปีนี้ค่อยดีหน่อยที่น้องธีลูกของตวงพรกับน้องบีลูกของเขาที่อยู่ในวัยสี่ขวบแค่ห่างเดือนกันเข้าโรงเรียนแล้ว

เหลือเพียงน้องธิชาวัยหนึ่งขวบลูกสาวตวงพร กับน้องบูมลูกชายของเขาที่อยู่บ้าน

“คุณแม่เข้าครัวอยู่ค่ะ ทำแกงเขียวหวานอร่อยๆให้คุณพ่ออยู่ค่ะ”

“แล้วน้องบีไม่ไปช่วยคุณแม่เหรอคะ”

ติณห์วางลูกสาวข้างอาม่าแล้วเอ่ยทักทายมารดา

“ตวงกับแทคยังไม่กลับเหรอครับ”

“เดี๋ยวคงมาแล้วล่ะ”

ติณห์หันมาคุยกับลูกสาวต่อ

“ว่ายังไงคะคนสวย ไม่ช่วยคุณแม่ทำกับข้าวเหรอคะ”

เด็กน้อยเอียงคอมองคุณพ่อก่อนจะตอบ

“น้องบีกลัวว่าจะป่วนคุณแม่มากกว่าช่วยค่ะ เลยเสียสละออกมารอคุณพ่อ”

อาม่าที่ได้ฟังหลานสาวพูด ก็หัวเราะออกมา

“รู้ตัวเหมือนกันเหรอเรา”

เด็กน้อยทำปากจู๋

“รู้ค่ะเดี๋ยวช้า เลยออกมากลัวคุณพ่อจะหิว”

ติณห์หัวเราะขำลูกสาวที่ฉลาดช่างพูดตั้งแต่เด็ก ช่างเหมือนบุรฉัตรไม่มีผิด

เสียงคนเดินเข้ามาในบ้าน น้องบีชะเง้อคอมอง เห็นธีลูกพี่ลูกน้องวัยใกล้กัน เดินเข้าบ้านมาเลยวิ่งออกไปหายกมือไหว้อาตวงกับอาแทค แล้วจูงมือธีให้มาดูสมุดภาพระบายสีเล่มใหม่

“ธีมาดูนี่ บีได้สมุดภาพได้โนเสาร์มาใหม่ บีให้ธีเล่มหนึ่งนะ”

ธีเด็กชายวันสี่ขวบที่ถอดแบบความหล่อของพ่อมาเต็มที่ รับสมุดภาพไปแล้วเอ่ยคำขอบคุณญาติผู้น้องของตน

วันนี้คุณพ่อไปขอรับน้องธีมาจากโรงเรียนเพราะมีงานของคนที่รู้จักกันอยากให้น้องธีลูกชายซุปตาร์ชื่อดังไปเดินแบบร่วมกับคุณพ่อ

ตอนนี้น้องธีมีแฟนคลับเยอะมาก ทุกคนที่เคยรักแทค ธีรนันยังไงพอเขามีลูกแฟนคลับเหล่านั้นก็ต่างรักและเอ็นดูน้องธีไม่ต่างกัน

โชคดีที่ธีเป็นเด็กที่ไม่มีปัญหากับการออกงานหรือพบปะผู้คน ถ้ามีงานไหนที่อยากให้ธีไปออก ธีรนันจะถามลูกชายก่อนเสมอว่าลูกโอเคไหม

ถ้าเขาอยากทำคุณพ่อซุปตาร์ถึงจะให้ลูกไป และคุณแม่อย่างตัวพรก็มีหน้าที่ตามกรี๊ดพ่อกับลูก

“ขอบใจมากบี ไปงานกับคุณพ่อมา ได้ของเล่นมาด้วยนะ บีไปดูเลยชอบชิ้นไหนแบ่งไปได้ แบ่งให้ธิชากับบูมด้วย”

ธีพูดอย่างใจป้ำ ทำตัวเป็นพี่ใหญ่เต็มที่เพราะเกิดก่อนใครเพื่อน

“ขอบใจนะ”

บีกล่าวขอบคุณญาติผู้พี่ของตน

“น้องบีน้องธีทานข้าวลูก อาหารเสร็จแล้ว”

บุรฉัตรเดินมาตามลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกันเหมือนเพื่อนมากกว่าพี่น้องไปทานข้าว ทั้งคู่เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กและเรียนโรงเรียนเดียวกันไปโรงเรียนพร้อมกันทุกวัน มีบางวันที่กลับคนละเวลาแบบวันนี้วันที่ธีมีงาน พอกลับมาถึงบ้านก็จะวิ่งมาคุยกันแบบนี้เหมือนคิดถึงกันมากทั้งที่เพิ่งห่างกันไม่กี่ชั่วโมง

“ครับป้าบลู”

ธีรนันอุ้มน้องธิชาลูกสาวอายุหนึ่งขวบที่อ้วนจ้ำม่ำแขนขาเป็นปล้องมานั่งเก้าอี้เด็กและเตรียมป้อนข้าวลูก

มื้อเย็นจะเป็นมื้อที่สมาชิกทานอาหารพร้อมกัน เสียงพูดคุยจอแจดังอยู่ตลอดเวลา

“ธิชา อ้ำค่ะ”

ธีรนันที่นั่งข้างลูกสาวตัวน้อย ป้อนข้าวลูกไปด้วย ให้ตวงพรภรรยาได้กินข้าวก่อน

ส่วนติณห์ก็นั่งข้างน้องบูมป้อนข้าวลูกชายคนเล็กไปด้วยเหมือนกัน สองคุณพ่อเหมือนจะแข่งกันเลี้ยงลูก ปล่อยให้สาวๆของบ้านกินข้าวกันก่อน

“บีกินข้าวเยอะๆ นะกินไข่ด้วยจะได้สูงเท่าธี”

น้องธีพูดกับญาติผู้น้องที่ตัวสูงไม่เท่าเขาท่าทางการพูดเป็นผู้ใหญ่เกินเด็ก ทำให้ผู้ใหญ่ลอบยิ้มให้กัน โดยเฉพาะอาม่าพรศรีที่ยิ้มหน้าบานดีใจที่เด็กๆรู้จักรักสามัคคีกันเหมือนติณห์กับตวงพรตั้งแต่เด็ก

“ได้บีจะกินเยอะๆเลย บีอยากสูงเหมือนธี”

น้องบีตักข้าวไข่เจียวเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย เมื่อญาติผู้พี่บอกให้กินเยอะๆ

“น้องบีขาค่อยๆเคี้ยวค่ะลูก เคี้ยวอาหารละเอียดๆนะคะจะได้ไม่ปวดท้อง”

บุรฉัตรสอนลูกไปด้วย ทานข้าวไปด้วย จะได้เปลี่ยนกับสามีไปดูแลลูกคนเล็ก

แม้จะมีพี่เลี้ยง แต่ช่วงเวลาอาหารเย็นเป็นข้อตกลงภายในครอบครัวว่าอยากจะให้ทุกคนได้ทานข้าวพร้อมกัน คุณพ่อเลยอาสาป้อนข้าวลูกกันเอง ปล่อยให้แม่ๆที่อยู่กับลูกๆมาทั้งวันได้พักบ้าง

“อาธี วันนี้ไปเดินแบบกับคุณพ่อเป็นยังไงบ้าง”

อาม่าพรศรีถามหลายชายวัยสี่ขวบที่นั่งทานข้าวเรียบร้อยดูมีมาดฉายแววซุปตาร์มาตั้งแต่เด็ก

ตัวแค่นี้แต่ออกงานมาแล้วหลายงาน มีทั้งถ่ายแบบ เดินแบบ ถ่ายโฆษณา ตั้งแต่วัยยังไม่ถึงขวบ เขาเลยค่อนข้างชินกับการอยู่หน้ากล้อง

“สนุกมากเลยครับอาม่า ที่งานมีคนมาบิดลูกโป่งเป็นน้องหมาแจกด้วยนะครับ”

ธีตอบอาม่าแต่คนที่ดูสนใจมากกลับเป็นน้องบี

“เหรอธี บิดลูกโป่งเหรอ นอกจากหมาแล้วมีตัวอะไรอีก”

น้องบีถามอย่างสนใจ

“มีดอกไม้ มีหัวใจ แล้วก็มีดาบด้วยนะ แต่ธีทำแตกบนรถเสียดายมากเลย”

“เหรอน้องบีอยากเห็นเสียดายที่ไม่ได้ไปด้วย”

บีพูดอย่างเสียดาย ไม่ได้ไปด้วยเพราะต้องเรียนหนังสือต่อ

“อาทิตย์นี้มีงานวันอาทิตย์ถ้าบีอยากไปค่อยไปด้วยกัน คุณพ่อขอพาบีไปด้วยได้ไหมครับ”

ธีหันไปถามคุณพ่อของตน

“ต้องขออนุญาตลุงติณห์ครับ”

ธีรนันบอกลูกชาย

“ลุงติณห์ครับวันเสาร์ธีมีงานที่เพลย์แลนด์ขอพาบีไปด้วยได้ไหมครับ”

ติณห์หันมามองหลานชายตัวน้อยแล้วบอกอย่างใจดีว่า

“ชวนป้าบลูไปด้วยกันสิ ธีมีงานกี่โมงครับ”

ธีทำท่านึกแล้วหันไปถามคุณพ่อ

“คุณพ่อครับงานที่เพลย์แลนด์เที่ยงครึ่งใช่ไหมครับ”

ธีรนันยิ้มกว้าง ลูกชายของเขานี่ฉลาดเกินเด็กรู้คิวงานของตัวเองเป็นอย่างดี

“ใช่ครับ เที่ยงครึ่งถึงบ่ายสองโมงครับ”

ธีรนันพูดถึงงานเปิดตัวสวนสนุกแห่งใหม่ที่เชิญเหล่าคนดังและลูกๆไปร่วมงานเปิดตัว

“คุณแม่ขา บีอยากไปกับธีได้ไหมคะ”

น้องบีหันไปอ้อนคนเป็นแม่ มองสบตาแป๋วแหว๋วเอียงคอนิดๆดูน่าเอ็นดู

“ถ้าเลิกบ่ายสองโมงครึ่งก็ได้ค่ะ เราไปงานกับธีก่อน แล้วค่อยไปเยี่ยมคุณตาคุณยายนะคะ”

พ่อกับแม่ของบุรฉัตรยังอาศัยอยู่ที่เดิมที่ตึกแถวสามชั้นที่ลูกสาวซื้อให้

ตอนนี้บุรฉัตรผ่อนค่าตึกหมดแล้วด้วยเงินของตนเองทุกบ้านไม่ได้รบกวนติณห์เลย และเธอได้โอนตึกนั้นเป็นชื่อของพ่อกับแม่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Virgin Blue ซ่อนเสน่หา