ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 4250

วางสายผู้บังคับบัญชาไปแล้ว หลี่ญ่าหลินก็เอ่ยพูดกับลูกน้องทันที : “ไม่ไปศูนย์ชันสูตรศพแล้ว ไปเฟ่ยซื่อกรุ๊ปแทน!”

ลูกน้องรีบเอ่ยถามขึ้น : “พล.ต.ท. จะไปที่เฟ่ยซื่อกรุ๊ปทำไมเหรอครับ? เฟ่ยซื่อกรุ๊ปกำลังจะแถลงข่าวแล้ว สื่อมวลชนทั้งหมดของนครนิวยอร์กแทบจะอยู่ที่นั่นกันหมด ท่านจะไปในตอนนี้....ไม่ใช่หรือ.....”

ลูกน้องพูดมาถึงตรงนี้แล้ว ก็พูดติดอ่างขึ้นมา อ้ำๆอึ้งๆอยู่นานไม่พูดออกมาเสียที

หลี่ญ่าหลินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา : “ไม่ใช่อะไร? แม่งก็พูดออกมาสิ!”

ลูกน้องรวบรวมความกล้าขึ้นมา แล้วจำต้องพูดออกไป : “ไม่ใช่ว่าเท่ากับ.....เป็น...เป็นการรนหาที่ตายเหรอครับ?”

หลี่ญ่าหลินกัดฟันด่าออกมา : “แม่งเอ้ย! ฉันเป็นตำรวจ ไม่ใช่ฆาตกรฆ่าคนนะ จะนับว่ารนหาที่ตายได้ยังไง?”

ลูกน้องโพล่งออกมาด้วยความกลัดกลุ้ม : “แต่ว่าสื่อมวลชนเหล่านั้นรอสัมภาษณ์ท่านอยู่นะครับ.....”

หลี่ญ่าหลินรู้ ที่ลูกน้องพูดมานั้นไม่ผิด

คดีสำคัญที่เกิดขึ้นมามากมายขนาดนี้ภายในช่วงเวลาเพียงหนึ่งคืนในนครนิวยอร์ก อีกทั้งยังดึงไปถึงคดีที่ผู้หญิงผู้บริสุทธิ์ตายกันจำนวนมากนั่นอีก ตอนนี้นักข่าวทั่วทั้งนครนิวยอร์กอยากสัมภาษณ์มากที่สุดก็คือคนรับผิดชอบของทางตำรวจนั่นเอง

ทางเบื้องบนนั้นก็ออกคำสั่งมาตั้งแต่แรกแล้ว ไม่มีการอนุญาตจากเบื้องบน ใครๆก็ไม่กล้าที่จะรับการสัมภาษณ์เองเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว

ที่รู้สึกกลัวการสัมภาษณ์ขนาดนี้ ก็เป็นเพราะในสถานการณ์แบบนี้ ตำรวจได้กลายมาเป็นอีกฝ่ายที่ประชาชนและสื่อมวลชนคอยตำหนิไปแล้ว

เพียงแค่ให้พวกเขาได้คว้าโอกาสได้ ไม่ว่าจะเป็นใครที่รับการสัมภาษณ์ ก็จะต้องถูกพวกเขาโจมตีทั้งด้วยคำพูดและตัวอักษรอย่างแน่นอน

ดังนั้น ทางเบื้องบนไม่ให้รับการสัมภาษณ์ ก็กลัวว่าตำรวจจะถูกนักข่าวถามจนพูดไม่ออก ท่าทางหน้าแดงก่ำ ถูกสื่อถ่ายและเผยแพร่ไปทั่วประเทศ หรือแม้กระทั่งทั่วโลก

และนี่ก็เป็นเพราะว่าทำไมหลี่ญ่าหลินถึงโกหกกับผู้บังคับบัญชา ว่าตัวเองจะไปที่ศูนย์ชันสูตรศพ

ถ้าหากเขาพูดว่าตัวเองอยากจะไปที่เฟ่ยซื่อกรุ๊ป ไปเจอซูรั่วหลีคนนั้น เกรงว่าผู้บังคับบัญชาคงจะด่าว่าไปยกใหญ่ตั้งแต่แรกแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน