บางครั้งเรื่องบนเตียง ผู้หญิงเป็นฝ่ายรุกก่อน จะยิ่งปลุกอารมณ์ได้ดีกว่า
เมื่อคิดได้ดังนี้ ลิลลี่ก็โน้มตัวไปด้านหน้า ยกริมฝีปากขึ้นเพื่อจะจูบกับเขา
วินาทีที่ริมฝีปากทั้งคู่จะประกบกัน อาคิระกลับลุกขึ้นยืน
ลิลลี่ชะงักค้าง ความว่างเปล่าด้วยความหมดหวังจู่โจมเข้าใส่เธอทันควัน
อาคิระดึงเนคไทบนคอ ก่อนจะปลดกระดุมเสื้อแล้วกล่าวว่า“ไปซะ วันหลังอย่ามาที่นี่อีก”
ลิลลี่อึ้ง นอนแน่นิ่งอยู่อย่างนั้น
“ถึงคุณจะเหมือนเธอ แต่คุณก็ไม่ใช่เธอ หน้าตาเหมือนกันมากแล้วยังไง?เธอคือปมในใจของผม เมื่อเห็นหน้าคุณ ผมก็จะยิ่งมีปมมากขึ้น วันหลังอย่าก้าวเข้ามาที่นี่แม้แต่ก้าวเดียว และไม่ต้องมาให้ผมเห็นหน้าอีก” อาคิระกล่าวเสียงเย็นเยียบ
หลังจากดาหวันตาย ขอเพียงเขาแตะต้องผู้หญิง เวลานั้นก็จะเห็นภาพสะเทือนใจพวกนั้น
ใบหน้าน่าสงสารและโศกเศร้าก่อนตายของเธอ จะทับซ้อนกับใบหน้าผู้หญิงที่อยู่ใต้ร่างเขา
เป็นแบบนี้ซ้ำ ๆ ซาก ๆ เวลาผ่านไปนานเข้า เขาจึงไม่มีอารมณ์ใคร่ต่อผู้หญิงอีก
ส่วนสาเหตุที่ร่วมหลับนอนกับพนาวัน มันมีเหตุและผลของมัน
ครั้งแรกเกิดขึ้นตอนเมา และครั้งต่อ ๆ มาก็ทำไปเพราะความเกลียดแค้น
และเพราะความเกลียดแค้น สมองจึงมีสติเป็นพิเศษ ดูออกว่าผู้หญิงใต้ร่างเป็นใคร และสามารถลืมดาหวันได้สนิท
ลิลลี่คิดจะเข้าใกล้เขาอีก ทว่ากลับถูกอาคิระสะบัดมือผลักไปด้านข้าง“ผมพูดชัดเจนมากพอแล้ว ออกไปเดี๋ยวนี้ อย่าทำให้ผมโมโห”
ลิลลี่ไม่กล้ายั่วโมโหเขา ได้แต่เดินออกไปด้านนอกคฤหาสน์
เธอไม่กล้ายั่วโมโหเขาเลย
อาคิระเงยหน้าหายใจเสียงดัง
เหมือนอย่างที่พนาวันบอก ตกลงเขาอยากครอบครองเธอหรืออยากแย่งของตัวเองกลับคืนมา หรือว่ามีสาเหตุอื่นกันแน่?
อาคิระสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นก็อาเจียนทุกอย่างในท้องออกมา
เขาหลับตา ปล่อยให้หัวใจตัวเองเงียบสงบลง
เขาต้องการคำตอบว่าทำไมตัวเองถึงไม่เหมือนเดิม……
บริเวณรอบ ๆ เงียบกริบ ได้ยินแต่เสียงน้ำไหลกับเสียงหายใจของเขา
น้ำเย็นมาก ทว่ากลับยิ่งทำให้คนมีสติมากขึ้น
ตอนนี้หัวใจกับสมองขาวโพลน ประหนึ่งตอนเดินน้ำค้างได้พาหมอกมาด้วย ขาวและเงียบสงัดยิ่ง
ท่ามกลางความขาวนี้ ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นกลางใจ สิ่งเหล่านี้ยิ่งทำให้เขารู้สึกชัดเจนมากขึ้น ……
ทันใดนั้น อาคิระก็ลืมตาขึ้น ลูกกระเดือกขยับ
ความคิดนั้นทำให้ดวงตาเขาเบิกกว้าง
ที่แท้ เธอก็ดึงดูดใจเขา เขาสนใจในตัวเธอ……
เขาลองคิดใคร่ครวญดูอีกครั้ง ความสนใจและความหวั่นไหวเกิดขึ้นตอนไหน น่าจะตอนที่เธอคุยกับเอวาที่สุสาน
นับจากคืนแรก ถึงเขาจะไม่ได้รักเธอจริง ทว่าการได้ใกล้ชิดกับเธอจึงค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นสนใจ อยากเอาใจใส่ ……
เขาหายใจแรง ๆ จากนั้นก็นั่งในอ่างอาบน้ำ มือใหญ่นวดระหว่างคิ้ว หัวใจยิ่งเต้นเร็วถี่มากขึ้น ……
......
หมีพูลนั่งอยู่หน้าโต๊ะอาหาร
คุณแม่กำลังทำอาหารอยู่ในครัว
เขาคิดถึงคุณพ่อ จากนั้นก็ก้มหน้าทำการบ้านต่อ
เธอทำเมนูต้มเส้นเผ็ด
ตอนบ่ายพนาวัน มนตรีและหมีพูลไปที่ห้างสรรพสินค้าด้วยกัน และยังไปซื้อของมากมายจากตลาดสดอีกด้วย
“หมีพูลชอบกินไส้อั่วไม่ใช่เหรอ ซื้อไปสองอันสิ” มนตรีถาม
พนาวันพยักหน้า ขานรับ“ค่ะ”
เขาช่วยเหลือเธอ การที่เขาขอกินข้าวสักมือ เธอจึงไม่มีเหตุผลปฏิเสธ
เธอกำลังจดจ่อกับการทำอาหาร ส่วนมนตรีก็ตั้งใจหั่นไส้อั่วเป็นชิ้นบาง ๆ ร่างสูงโปร่งของเขาขยับ เตรียมจะใส่เข้าไปในหม้อ
พอดีกับพนาวันนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้ใส่ต้นหอม จึงคิดจะไปหยิบ เมื่อเธอหมุนกายไปอีกด้าน ระหว่างนั้นพวกเขาสองคนก็ชนกัน และเธอก็ล้มไปอยู่ในอ้อมแขนเขา
เพราะอยู่ใกล้กันมาก จึงได้กลิ่นหอมบนกายอีกฝ่ายได้ชัดเจน
พนาวันไม่ได้มองเขา หยิบตะเกียบขึ้นมาคนหมี่ในหม้อ พลางพูดเฉไฉไปอีกเรื่องนี้ “เหมือนหมีพูลจะหิวมากแล้ว พวกเราเร่งมือกันหน่อยเถอะ”
มนตรีกลับมายืนตัวตรง ก่อนจะยักไหล่ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น“โอเค”
เรียกได้ว่าเป็นอีกมื้อที่กินกันอย่างเอร็ดอร่อยและรู้สึกอบอุ่นยิ่ง พวกเขากินกันจนถึงค่ำ
มนตรีต้องกลับไปแล้ว และเท้าของพนาวันยังเดินไม่สะดวก จึงไม่ได้ไปส่ง
หลังจากที่มนตรีไป เธอก็รู้สึกผ่อนคลายและเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น
ไม่ได้เกร็งเหมือนตอนที่มนตรีอยู่แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง