รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 559

อะไรที่เรียกว่าเรื่องแบบนั้น ทำให้คนอื่นรู้สึกไปด้วย

เธอก็อยู่ตรงนี้เหมือนกัน ได้ยินทั้งหมดเหมือนกันไม่ใช่เหรอ

ทำไมไม่เห็นจะรู้สึกแบบนั้นเลย กลับรู้สึกสะอิดสะเอียนด้วยซ้ำ

ดังนั้น นี่เป็นข้ออ้างของเขา เป็นข้ออ้างหนึ่ง......ข้ออ้างที่จงใจฉวยโอกาสกับเธอ

เห็นมายมิ้นท์โกรธจนตาแดง เปปเปอร์เอามือออกจากกระเป๋ากางเกง กดลงบนหัวของเธอ “โอเค ผมยอมรับ ผมไม่ได้รู้สึกแบบนั้นไปด้วย แต่ที่ผมพูดส่วนหลัง ไม่ได้โกหกนะ คนรักอยู่ในอ้อมกอด แถมยังมอบจูบให้ผม คุณว่าผมจะอดทนยังไง”

มายมิ้นท์สะบัดมือเขาออกจากหัว แต่เมื่อได้ยินที่เขาพูด จู่ๆ มือที่ยกขึ้นมาหมดแรง ตกลงข้างตัวอีกครั้ง ใบหน้ายิ่งแดงเข้าไปอีก หันไปมองทางอื่น แล้วพูดเบาๆ ว่า “ฉัน......ฉันไม่ได้เป็นฝ่ายจูบคุณก่อน เพราะสองคนนั้นเคลื่อนไหวรุนแรง จนกระแทกกับประตู แล้วประตูมากระแทกฉัน ฉันเลยพลาดไปจูบคุณ”

“ผมรู้แล้ว” เปปเปอร์พยักหน้า จากนั้นจึงถามว่า “โดนกระแทกตรงไหนหรือเปล่า”

“เปล่า” มายมิ้นท์สะบัดหัว

ประตูไม่ได้ถูกกระแทกมาจากไกลๆ แต่ประตูติดกับหลังของเธอ

ดังนั้นตอนประตูกระแทกเธอ จึงไม่ได้มีแรงกระแทกแบบกะทันหัน ไม่ได้ทำให้เธอเจ็บอะไรมาก

“งั้นก็ดี” เปปเปอร์พยักหน้าเบาๆ สีหน้าผ่อนคลายลง

จากนั้น เหมือนเขานึกอะไรได้ จึงถามว่า “ใช่สิ คุณรู้จักผู้หญิงคนนั้นเหรอ”

เมื่อได้ยินคำถามนี้ มายมิ้นท์สะกดกลั้นความอายในใจ และพยักหน้า “อืม”

“ใครเหรอ” เปปเปอร์มองเธอ

มายมิ้นท์สูดหายใจลึก ตอบด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ดารามาย”

“ดารามาย” เปปเปอร์ขมวดคิ้ว รู้สึกคุ้นชื่อนี้

แต่ไม่นาน เขาก็นึกออกว่าคือใคร ใบหน้าเย็นชา ที่ไม่ค่อยมีความรู้สึก ตอนนี้มีความตกตะลึงอย่างอดไม่ได้ “ลูกสาวคนที่สองของพ่อคุณ”

เขาไม่ได้พูดว่าเป็นน้องสาวเธอ

เขารู้ว่าเธอกับดารามายไม่มีเยื่อใยความเป็นพี่น้องกัน

ยิ่งไปกว่านั้น เขาจำได้ว่าเมื่อก่อนเธอเขียนไว้ในจดหมายว่า โดนแม่เลี้ยงกับน้องสาวที่เกิดจากแม่เลี้ยง กลั่นแกล้งไม่น้อย

ดังนั้น เขาก็ไม่ยอมรับว่าดารามายเป็นน้องสาวเธอเหมือนกัน พูดว่าเป็นลูกสาวคนที่สองของไตรภูมิ ค่อนข้างเหมาะสมกว่า

“ใช่” มายมิ้นท์กำมือแน่น แววตามีความโกรธ “หกปีก่อน เธอหอบเงินทุนสุดท้าย ที่ใช้หมุนเวียนเทนเดอร์กรุ๊ป หนีไปกับลำดวน รวมถึงของมีค่ากับเงินฝากในบ้านไปด้วย ฉันนึกว่าสองแม่ลูกจะใช้เงินพวกนี้อย่างสบายใจ แต่คิดไม่ถึงว่า ดารามายจะเป็นชู้คนอื่น ถ้าพ่อรู้ คงโกรธจนฟื้นขึ้นมา”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ จู่ๆ เธอตบหน้าผาก “ใช่สิ เกือบลืมไปเลย ฉันยังไม่ให้บันทึกเสียงนี้กับเพื่อนเลย พวกเขาใกล้จะออกไปพูดในงานแล้ว ถ้ายังไม่ให้เพื่อนฉันฟัง แล้วเขาสองคนพูดเสร็จ ขืนกลายเป็นคู่หมั้นกันจริงๆ ก็สายไปแล้ว”

เมื่อถึงตอนนั้น ถ้าเพื่อนอยากถอนหมั้นก็ไม่ได้แล้ว

“งั้นรีบไปเถอะ” หลังจากเปปเปอร์จัดผมให้มายมิ้นท์ เขาดึงมือกลับมาแล้วพูดว่า “ผมรอคุณหน้าประตูลิฟต์ เดี๋ยวคุณกลับมา ผมจะพาคุณไปหาคน”

เมื่อได้ยินดังนั้น มายมิ้นท์เงยหน้ามองเขา เธอขบมุมปากพยักหน้า ภายใต้แววตาให้กำลังใจของเขา

“โอเค งั้นฉันไปตอนนี้เลย”

“อืม”

มายมิ้นท์บีบมือถือ และเดินบนส้นสูงออกไป

เปปเปอร์มองแผ่นหลังเธอ เมื่อเธอหายลับไป ความอ่อนโยนบนใบหน้า ค่อยๆ หายไป จากนั้นเขาหยิบมือถือขึ้นมาโทรออก “ประธานสุเวทย์ ผมเอง เรื่องลูกชายคุณ หลังเสร็จงานหมั้น ผมอยากคุยกับคุณ”

อีกด้าน มายมิ้นท์หาเพื่อนเจอแล้ว

ไม่ได้เจอหลายปี ไม่ว่าจะเป็นมายมิ้นท์หรือเพื่อน ต่างพากันตื่นเต้น

หลังทั้งสองพูดถึงเรื่องราวเก่าๆ และทักทายกัน มายมิ้นท์เอามือถือออกมา บอกเป้าหมายที่ตัวเองมาที่นี่ และเปิดเสียงที่ตัวเองบันทึกไว้ ให้เพื่อนฟัง

ที่น่าแปลกใจคือ หลังจากเพื่อนฟัง ไม่ได้มีสีหน้าเปลี่ยนไปมาก เหมือนเป็นเรื่องที่คาดการณ์ไว้แล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว