พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 670

ตอนที่ 670 วิเคราะห์อย่างละเอียด

ท่าทางของอ๋องลั่วชิน นิ่งลง สายตาของเขาดูเสียใจมาก ปอยผมหล่นลงมาปิดบังใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา

“พระชายากับข้ารู้จักกันมาตั้งแต่เล็ก นางเป็นลูกสาวของไถ้ฝู้ ตอนที่ข้าไปเรียนหนังสือ นางเองก็จะมาเข้าเรียนด้วย คอยรับใช้ชงชาให้กับไถ้ฝู้ ในชาตินี้ของข้า ข้าหลงรักนางเพียงคนเดียวเท่านั้น ตั้งแต่ตอนที่อายุสิบขวบ ข้าก็บอกกับเสด็จพ่อว่า ต่อไปข้าจะแต่งงานกับนาง ในปีที่นางโตเป็นสาวเต็มวัย เสด็จพ่อก็ได้มีราชโองการ พระราชทานสมรสให้เราทั้งสองคน หลังจากแต่งงาน ด้วยความที่นางไม่ค่อยจะแข็งแรง ตลอดเจ็ดปีนางไม่ท้องเลย เราให้หมอหลวงมาตรวจและบำรุงร่างกายให้นางตลอด จนในที่สุด ในปีที่แปด นางก็ตั้งครรภ์ ตอนนั้นข้ากับนางดีใจมาก แต่ข่าวเรื่องนี้ข้าก็ปิดเอาไว้ไม่ได้บอกให้ใครรู้ เพราะว่าชาวบ้านมีความเชื่อกันว่า หากท้องยังไม่ถึงสามเดือน ห้ามบอกใครเด็ดขาด กลัวว่าเด็กจะใจแคบ นางเลยขอร้องข้าว่าห้ามบอกใครเด็ดขาด ดังนั้น นางก็คงยังใช้ชีวิตตามปกติ เข้าวังไปถวายพระพรเหมือนเดิมทุกอย่าง”

สีหน้าของ อ๋องลั่วชิน เริ่มเศร้า เขาตกเข้าไปอยู่ในห้วงของความหลัง ความเศร้าเสียใจอันแสนหวาน

หลังจากนั้น ใบหน้าของเขาก็เริ่มนิ่งไป เหมือนกับพายุที่โหมกระหน่ำ

“ในวันนั้น ข้ามีธุระต้องออกไปข้างนอก นางก็เข้าวังไปถวายพระพรคนเดียว นางกับ กงเฟยเหนียงเหนียง มีสัมพันธ์ที่ดีมาตลอด ปกติแล้วหลังจากที่ไปถวายพระพรฮองไทเฮาแล้ว ก็จะไปนั่งพูดคุยที่ตำหนักของกงเฟยเหนียงเหนียง วันนั้นหลังจากที่นางกลับมาที่จวนแล้ว ข้ายังไม่กลับมา ข้ามาถึงที่จวนตามประมาณยามไฮ่ เห็นนางร้องไห้จนตาแดง ถามยังไงก็ไม่ยอมเล่าให้ข้าฟังเลย นางเอาแต่ร้องไห้ ข้าก็กลัวว่านางจะร้องไห้จนเสียสุขภาพ เลยตามสาวใช้ที่เข้าวังไปพร้อมนางมาสอบถามดู พวกนางบอกว่านางเข้าไปที่ตำหนักของ กงเฟยเหนียงเหนียง พวกนางเข้าไปไม่ได้ ได้แต่รออยู่ด้านนอก จากนั้นก็ถูกสั่งให้ไปที่ห้องชงชา รอพระชายาออกมา นางก็เหมือนไร้สติแล้ว ร้องไห้เสียใจอย่างหนัก สาวใช้เองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ข้าเลยจำเป็นต้องเข้าวังไป คิดอยากจะไปถาม กงเฟยเหนียงเหนียง ให้รู้เรื่อง แต่ยังไม่ทันจะถึงวังหลวง องครักษ์ในวังก็ตามออกมา บอกว่าพระชายาผูกคอตายแล้ว ตอนนั้นข้าตกใจไร้สติ รีบกลับไปที่จวน แต่พระชายาก็ ...... ไร้ลมหายใจแล้ว”

เขาพูดถึงตรงนี้ น้ำตาลูกผู้ชายของเขาก็อดที่จะไหลลงมาไม่ได้ น้ำเสียงของเขาสั่นเครือ

เทียนจีจื่อ นิ่งไป หนุ่มสาวรักใครกัน อีกทั้งยังรักกันลึกซึ้งมาก ผูกคอตายทั้ง ๆ ที่ตั้งท้อง สำหรับท่านอ๋องแล้วมันส่งผลกระทบใหญ่หลวงนัก

“ท่านอ๋องอย่าทรงเสียพระทัยไปเลย พระชายาคงไม่อยากเห็นท่านอ๋องต้องเสียใจเพราะนางแบบนี้แน่” เทียนจีจื่อ ปลอบใจเขา

อ๋องลั่วชิน สูดหายใจเข้าลึก ๆ อดกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ “จนถึงวันนี้ข้าก็ยังไม่เข้าใจ ว่าทำไมนางถึงได้ทิ้งข้าไปได้ลงคอ?”

“ท่านอ๋องทรงได้เข้าวังไปสอบถามเรื่องนี้ไหม?” เทียนจีจื่อถาม

อ๋องลั่วชินพยักหน้า “หลังจากเสร็จสิ้นงานศพ ข้าก็เข้าวัง ข้าถึงได้รู้ว่า กงเฟยเหนียงเหนียง ถูกสั่งประหารชีวิตไปแล้ว ที่แท้ ฝ่าบาทได้ตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว ทรงรับสั่งว่า วันนั้น กงเฟยเหนียงเหนียง พูดจาลบหลู่พระชายา อีกทั้งยังหาเรื่องนาง พระชายารับความอัปยศไม่ไหว อีกทั้งหมอหลวงยังบอกว่า พระชายาตั้งครรภ์ครั้งแรก อารมณ์แปรปรวนอ่อนไหวง่าย ปกติอาจรับได้ แต่ตอนท้องรับไม่ไหว คิดมากเกินไป เสียใจอย่างหนัก เลยผูกคอตาย เสด็จพี่เสียใจมาก เขาถึงขึ้นร้องไห้ขอโทษต่อข้า เขาบอกว่าเขาดูแลวังหลังไม่ดี ทำให้พระชายาน้อยใจ ข้ามองออกว่า เสด็จพี่เสียใจกับเรื่องนี้จริง ๆ เขาไม่ได้เสแสร้ง หลังพระชายาตาย เขาดูแลข้าอย่างดี บอกให้ข้าแต่งงานใหม่อยู่ตลอด”

เทียนจีจื่อ ฟังถึงตรงนี้ ก็ถามอีกว่า “แล้ว กงเฟยเหนียงเหนียง พูดอะไร? ถึงทำให้พระชายาถึงขึ้นต้องฆ่าตัวตาย?”

“เสด็จพี่ตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว บอกข้าว่าพระชายากับ กงเฟยเหนียงเหนียง คุยกัน พูดถึงเรื่องที่นางตั้งครรภ์ แต่ตอนนั้นกงเฟยเหนียงเหนียงไม่ได้ตั้งครรภ์ กงเฟยเหนียงเหนียง รู้สึกว่านางตั้งใจพูดประชด เลยโกรธ เลยพูดจาแรงใส่นาง พระชายาท้องอยู่อารมณ์เลยแปรปรวนง่าย เลยเถียงกลับไป เลยถูก กงเฟยเหนียงเหนียง ลงโทษ”

“คำพูดพวกนี้ เป็นคำพูดที่มาจากสาวใช้ของ กงเฟยเหนียงเหนียง ? หรือว่าท่านอ๋องทรงไปสอบถามด้วยตัวเอง?”

อ๋องลั่วชิน ส่ายหน้า “ไม่ใช่ หลังจาก กงเฟยเหนียงเหนียง ตาย คนในตำหนักของนางทั้งหมดถูกนำตัวไปรับโทษทุกคน เสด็จพี่สั่งประหารพวกนางทิ้งทั้งหมด”

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพวกนางด้วย?” เทียนจีจื่อ รู้ว่าปกติแล้วในวังหลวงหากนายทำผิดบ่าวไพร่ก็จะต้องเดือดร้อนไปด้วย แต่ว่า ก็ไม่ถึงกับต้องประหารทั้งหมดนี่นา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม