พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 712

ตอนที่ 712 สามีภรรยาห่างเหินกัน

ฮองไทเฮาไปแล้ว ทุกคนก็แยกย้ายกันไปเหมือนกัน

อ๋องหลี่ชินไม่ยอมเลิกรา เขาตามเข้าไปในตำหนักใน

หลีโม่มองไปที่หมันเอ๋อร์ “เจ้าไม่เข้าไปเหรอ?”

“ข้าไม่ยุ่งหรอก” หมันเอ๋อร์พูดว่า “แต่ว่าเจ้า จะไม่เข้าไปหน่อยเหรอ ไม่อย่างนั้นสถานการณ์จะแย่ไปมากกว่านี้นะ”

หลีโม่รู้ว่าเรื่องนี้เจ้าเจ็ดเป็นคนก่อ หากเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นมาจริง ๆ นางเองก็ต้องรับผิดชอบด้วย นางเลยพูดว่า “ได้ ข้าเข้าไปดูหน่อยก็ได้”

แต่ว่า หลีโม่เพิ่งจะเข้าไป ก็ถูกอ๋องหลี่ชินไล่ออกมา “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า เจ้ามายุ่งอะไรด้วย?”

นางทำอะไรไม่ได้ เลยถอยออกมาก่อน

หมันเอ๋อร์รออยู่หน้าตำหนัก เห็นหลีโม่ออกมาเร็ว ก็ยิ้ม “เดาไว้อยู่แล้ว ไม่ให้เจ้าพูดมาก ใช่ไหม?”

“นั่นแหละ” หลีโม่ขอโทษจากใจ “ขอโทษด้วยนะ ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเจ็ดจะเอาคนไปไว้ที่จวนของพวกเจ้า”

หมันเอ๋อร์เดิมไม่ได้อยากให้เป็นเรื่องแบบนี้ แต่ว่าเรื่องมาถึงขึ้นนี้แล้วนางก็ไม่มีทางเลือก เห็นหลีโม่สีหน้าเสียใจมาก นางก็พูดว่า “ไม่เป็นไร เดิมเจ้าสามก็เห็นฮองไทเฮาแล้วขวางหูขวางตาอยู่แล้ว แต่ว่าไม่มีโอกาสเลย ตอนนี้มีโอกาส ก็หวังว่าต่อไปนางจะอยู่เฉย ๆ ได้”

ทั้งคู่เดินออกไป หมุยเฟยรออยู่ด้านนอก เห็นทั้งคู่เดินออกมา ก็ยิ้มแล้วพูดว่า “หลีโม่ หมันเอ๋อร์ ถ้ายังไงไปนั่งคุยกันที่ตำหนักเล่อชิงก่อนไหม ท่านอ๋องคงยังไม่กลับออกมาในเร็ว ๆ นี้แน่นอน”

หมันเอ๋อร์ยิ้มแล้วพูดว่า “ดูเหมือน ใคร ๆ ก็รู้ว่าเขาเป็นคนยังไง”

“ก็ดีไม่ใช่เหรอ ที่จริงทุกคนก็อิจฉาเจ้ากันทั้งนั้น” หมุยเฟยพูดแบบไม่เสียใจเลย ถึงแม้เมื่อครู่จะตกใจกับสิ่งที่เขาพูดไปบ้าง แต่ผู้หญิงคนไหนบ้างจะไม่อยากได้แบบนั้น?

หลีโม่เพราะอยากให้หมุยเฟนเล่าเรื่องของเสี้ยฮ่าวหราน รู้ทั้งรู้ว่าอีกเดี๋ยวจะไปหาฉินโจว เลยพักไว้ก่อน

หมันเอ๋อร์สั่งกำชับนางกำนัลให้รออ๋องหลี่ชินอยู่ที่นอก ตำหนักหยันสี่ ทั้งสามคนก็เลยไปที่ตำหนักเล่อชิง ตอนที่เดินผ่านอุทยานหลวง เห็นอี๋กุ้ยเฟยพาองค์ชายเจ็ดออกมาเดินเล่นที่ริมทะเลสาบ ด้านหลังมีนางกำนัลเดินตามมาอีกหลายคน

บังเอิญจริง ๆ หูฮวนหลิง เองก็พานางสนมหลายคนมาฝั่งตรงข้ามกับนาง

อี๋กุ้ยเฟยมีมารยาทมากนางทำความเคารพใส่ หูฮวนหลิง องค์ชายเจ็ดเองก็เช่นกัน สองแม่ลูกไม่ได้มีความยโสเหมือนก่อนเลย

หมันเอ่อร์หัวเราะ “ไม่เคยเห็นนางเป็นแบบนี้มาก่อนเลย เมื่อก่อนสมัยตอน ฮองเฮาเหลียง ไม่เห็นนางจะมีมารยาทมากขนาดนี้เลย”

หมุยเฟยยิ้มแล้วพูดว่า “มีเงินจะทำอะไรก็ได้ อี๋กุ้ยเฟยไม่มีครอบครัวหนุนหลังแล้ว ไม่มีเงินสนับสนุนจากภายนอกแล้ว หูฮวนหลิง เพิ่งเข้าวังมา ก็แจกเงินทองของมีค่ามากมายให้นาง หากเอาไปขาย ได้ไม่ต่ำกว่าหมื่นตำลึงเลยนะ นางจะเป็นปรปักษ์กับ หูฮวนหลิง ไปทำไมกันล่ะ?”

หลีโม่รู้สึกว่านางกลับมาจากแคว้นเป่ยม่อ ก็รู้สึกว่าอี๋กุ้ยเฟยดูสงบเสงี่ยมมาก

เมื่อก่อนเวลาเจอนาง จะเห็นสายตาท้าทายจากนาง แต่ตอนนี้นางไม่เป็นแล้ว ถึงแม้จะไม่ได้ถึงขนาดเป็นมิตรกัน แต่ก็ไม่แสดงเจตนาไม่ดีออกมา

มองจากไกล ๆ ก็เห็นอี๋กุ้ยเฟยเดินร่วมขบวนของหูฮวนหลิง พวกนางสามคนเดินไปตรงไปด้านหน้า ไม่ได้อยากมีเรื่อง

นั่งอยู่ในตำหนักเล่อชิงอยู่ประมาณครึ่งชั่วยาม หมุยเฟยก็รับปากเรื่องที่หลีโม่ร้องขอ

นางรู้ดีว่า สถานการณ์ตอนนี้ยังไม่แน่นอน นางต้องพึ่งอ๋องซื่อเจิ้ง ดังนั้น นางเลยพยายามช่วยหลีโม่กับซือถูเย้นทำงาน

ตอนที่หลีโม่กลับไป อ๋องหลี่ชินยังไม่ออกมา หลีโม่ไว้อาลัยกับฮองไทเฮาหลายนาที ยิ้มแล้วก็เดินไป

เมื่อกลับไปในจวน ซือถูเย้นสั่งให้คนเตรียมรถม้า หยางมามาเองก็เตรียมรางวัลมา แล้วให้หลีโม่นำกลับไปด้วย

หลังจากเมาแล้ว สีหน้าของเขาก็ซีด หนวดเคราเพิ่งจะเริ่มขึ้น เหมือนเพิ่มความบ้าคลั่งไม่น้อย

“ปวดหัวหรือเปล่า?” หลีโม่ถาม

เวลาเขาปวดหัวหากไม่นอนหลับให้ดี อาการจะกำเริบอีก

“นิดหน่อย แต่ว่าไม่เป็นไร” ซือถูเย้นยื่นมือไปกอดนางเข้ามาในอ้อมกอด เขากอดแน่นมาก หายใจหอบด้วย

หลีโม่ตะลึงไป “เป็นอะไรไป?”

ซือถูเย้นพูดแบบเสียงแหบว่า “ไม่เป็นไร จู่ ๆ ก็อยากจะกอดเจ้า”

หลีโม่ยิ้ม “เราควรออกเดินทางแล้วนะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม