บทที่813 หลุดปากพูดออกไป
ยู่ฉือจินเข้าใจความหมายของอีกฝ่าย จึงรีบพูดตอบ “ใช่แล้วล่ะ น่าเสียดายที่ตอนนั้นเชื่อมสัมพันธ์กันไม่สำเร็จ เฮ้อ มันเป็นเรื่องที่ทำให้ฉันรู้สึกเสียดายมาทั้งชีวิตเลยล่ะ”
พอพูดเสร็จ เขาก็มองไปทางตวนมู่เสว่
“แต่ว่าไม่เป็นไรนี่นา ถึงแม้ลูกของพวกเราจะไม่ได้แต่งงานกัน แต่ถ้าหลานของพวกเราแต่งงานกันได้ ก็เป็นเรื่องที่ดีมากเหมือนกัน”
ตวนมู่อ้าวเทียนพยักหน้าขึ้นลงติดต่อกัน ก่อนที่คนแก่ทั้งสองจะหัวเราะออกมา
ตวนมู่เสว่ถลึงตาใส่ตวนมู่อ้าวเทียนอย่างเขินอาย ก่อนจะพูดเสียงเบา “คุณปู่…”
สายตาที่เหมือนจิ้งจอกของตวนมู่อ้าวเทียนมองไปทางเย่โม่เซิน ก่อนจะพูดยิ้มๆ “อาเซินเองก็อายุไม่น้อยแล้ว อายุมากกว่าเสี่ยวเสว่ไม่กี่ปี ถ้าเป็นไปได้พวกหลานก็…”
เย่โม่เซินที่นั่งเงียบมาตลอดตั้งแต่เริ่มกินข้าว ในที่สุดก็เงยหน้าขึ้นมา เขาขยับเปลือกตา ก่อนที่ดวงตาสีนิลจะปรากฏออกมา
ริมฝีปากของเขาเริ่มเม้มเข้าหากันแน่นตั้งแต่เมื่อตะกี้แล้ว ดวงตาของเขาดำสนิท ทำให้ไม่มีใครสามารถมองออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังพูดได้ครึ่งเดียว เขาก็เริ่มขยับริมฝีปาก
“ในเมื่อแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กันไม่สำเร็จ นั่นก็ถือว่าทั้งสองตระกูลไม่มีวาสนาต่อกัน”
แค่ประโยคเดียว ก็ทำให้อีกสามคนที่อยู่ในห้องต่างก็ชะงักไปทันที ก่อนจะมองไปทางเย่โม่เซินด้วยสายตาตกตะลึง
ตวนมู่เสว่ที่ก่อนแรกมีท่าทางเขินอาย วาดหวังที่จะให้เย่โม่เซินมองมาที่เธอบ้าง เพราะวันนี้เธออุตส่าห์แต่งหน้าแต่งตัวมาสวยขนาดนี้ แต่เขากลับไม่แม้แต่จะมองมาที่เธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ในที่สุดก็รอจนเขาเงยหน้าขึ้นมาได้ ตวนมู่เสว่นั่งตัวตรง แต่ใครจะคิดว่าวินาทีต่อมาเขาจะพูดแบบนี้ออกมา เธอเหมือนถูกน้ำเย็นราดลงบนตัว ทำให้รู้สึกหนาวจนถูกกระดูก
“นาย นายพูดว่ายังไงนะ” ตวนมู่อ้าวเทียนหรี่ตามองไปทางเย่โม่เซิน
ยู่ฉือจินเองก็คิดไม่ถึง เดิมทีเขาคิดว่าอยู่ต่อหน้าตวนมู่อ้าวเทียน หลานชายตัวเองจะไม่พูดหักหน้าตัวเองถึงจะถูก ใครจะไปรู้ว่าเขาจะ…
“ตอนนี้มันไม่ใช่ยุคสมัยที่ต้องทำตามคำพูดของพ่อแม่ทุกอย่างแล้วครับ ผมเข้าใจว่ายุคสมัยของคุณปู่ทั้งสองยังใช้วิธีหมั้นหมายกันตั้งแต่อยู่ในท้อง แต่ผมกับหลานสาวคุณปู่ตวนมู่เป็นเด็กสมัยใหม่แล้ว มีอิสระในเรื่องความรัก ผมคิดว่าเธอคงจะมีผู้ชายที่คู่ควรกับตัวเองแล้ว และผมเองก็มีมาตรฐานในคู่ชีวิตของตัวเองเหมือนกัน”
คำพูดของเย่โม่เซินไม่ประจบเอาใจและวางก้ามเกินไป ทำให้ไม่มีใครสามารถโต้เถียงได้
ตวนมู่เสว่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ ก่อนจะเบิกตาโตมองไปทางเย่โม่เซินอย่างไม่อยากจะเชื่อ “พี่เซินคะ พี่…”
ตวนมู่อ้าวเทียนหลับตาลง ก่อนจะพูดกับเขาอย่างไม่ชอบใจ “นี่นายคิดว่าหลานสาวของฉันไม่คู่ควรกับนายใช่ไหม”
“ไม่ ไม่ ไม่ จะหมายความว่าอย่างนั้นได้ยังไงกันล่ะ”ยู่ฉือจินคิดจะพูดไกล่เกลี่ย “เสี่ยวเสว่ออกจะเป็นเด็กดีขนาดนั้น”
แต่เย่โม่เซินกลับพูดเสียงเรียบนิ่ง “เป็นผมเองที่ไม่คู่ควรกับเธอ”
พอพูดจบ เขาก็มองเวลา ก่อนจะพูดขึ้นมา “คุณตา คุณปู่ตวนมู่ ตอนสามทุ่มผมยังมีประชุมสำคัญทางวิดีโอ ต้องขอตัวก่อนนะครับ”
พอพูดจบเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ ก่อนจะพยักหน้าให้อีกฝ่าย แล้วหันหลังเดินออกไป
“พี่เซินคะ”ตวนมู่เสว่จับกระโปรงเตรียมจะวิ่งตามหลังไปอย่างร้อนใจ แต่พอเดินผ่านตวนมู่อ้าวเทียนก็ถูกเขาขวางไว้ก่อน “หยุดเดี๋ยวนี้”
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ เจ้าหลานบ้า”
ในขณะเดียวกัน ยู่ฉือจินก็ลุกขึ้นยืนแล้วตะโกนใส่หลังเย่โม่เซิน
เย่โม่เซินหยุดชะงัก ก่อนจะหันกลับมาพูดเตือนสติ “คุณตา การประชุมในครั้งนี้สำคัญมากครับ”
ยู่ฉือจินโมโหมากๆ “อะไรสำคัญไม่สำคัญ ถึงจะสำคัญยังไงมันจะเทียบกับเรื่องการแต่งงานของแกได้หรือไง สำคัญกว่าตาของแกคนนี้ได้ยังไง แกรู้ไหมว่าเรากำลังกินข้าวกันอยู่ แกคิดจะให้เกียรติคนอื่นบ้างไหม”
“คุณตาครับ ผมนั่งกินข้าวกับคุณตามาครึ่งชั่วโมงแล้ว ถ้าหากคุณตาคิดว่านี่ยังไม่ให้เกียรติคุณตาอีกล่ะก็ งั้นก็ถือซะว่าผมขอตัวกลับกลางคันก็แล้วกันครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่