ย้อนเวลาใหม่ครั้งนี้ขอยอมง้อเธอด้วยรัก นิยาย บท 12

บทที่ 11 เดตครั้งนั้น

“มีอะไรเหรอ เห็นจ้องมือถือซะเครียดเชียว” คีร์เรียกรัน ตอนนั้นเองหญิงสาวถึงเพิ่งรู้ตัวว่าตนนั่งเงียบมาได้พักใหญ่ ๆ

“เอ่อ ไม่มีอะไร พอดีคิดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับโปรเจกต์ได้น่ะ” รันเริ่มพอจะนึกออกบ้างว่าควรจะเข้าประเด็นถามเขาเนียน ๆ อย่างไรดี

“อ้อ โปรเจกต์เธอถึงไหนนะ” คีร์ถามรัน เธอค่อย ๆ เล่าความคืบหน้าของโปรเจกต์ รอบนี้เธอสนใจประเด็นการตลาดเกี่ยวกับแบรนด์อาหารที่พอจะปรับตัวเข้าสู่อุตสาหกรรมเวชสำอางได้ ส่วนมากแล้วโปรเจกต์ไม่ค่อยติดขัดอะไร อาจเพราะการย้อนเวลากลับมาครั้งนี้ ตัวของเธอก็ใช้วิชาความรู้จากประสบการณ์ทำงานในแวดวงนี้มาใช้

“แล้วของนายล่ะ” รันถามกลับ

“ก็ใกล้เสร็จแล้วนะ ตอนนี้เหลือประกอบโมเดลที่จะใช้ผ่านโปรแกรมที่พวกฉันออกแบบ ไม่ได้ติดอะไรมากมาย” ทางฝั่งคีร์ก็แทบไม่ต่างกันด้วยเพราะเขารู้เหตุการณ์ในอนาคตมาบ้าง รอบนี้เขาเลยใช้ข้อผิดพลาดในชาติที่แล้วมาปรับเปลี่ยนด้วยความเรียนคณะวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ เลยทำให้ค่อนข้างใช้เวลานานในการทำโปรเจกต์แต่ละตัวยิ่งเฉพาะตัวที่เรียนในตอนปี 4 ที่เป็นตัวสำคัญ

“เอ่อ คือ .... นายเก็บโมเดลนั่นไว้ที่ไหนที่ห้องนายเหรอ” รันถามคีร์ เพราะเท่าที่จำได้ส่วนมากพวกเขาจะเวียนทำโปรเจกต์ตามห้องของเพื่อนในกลุ่ม รอบนี้กลุ่มของคีร์มีกันทั้งหมดสามคนคือคีร์ นัท และต้นสน

“ตอนนี้อยู่ที่ห้องนัทนะ เธอถามทำไมเหรอ” คีร์ถามรันกลับ ชายหนุ่มเริ่มอมยิ้มเล็ก เขารู้ทันเธอว่ารันพยายามจะเตือนเขาเรื่องเหตุการณ์ไฟไหม้นั่นแน่ ๆ ตัวของเขาก็เห็นความสำคัญของปัญหาข้อนี้ดี เลยพยายามเตือนให้เพื่อน ๆ ในรุ่นเก็บงานไว้ที่อื่นไม่ใช่ที่ตึกคณะเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน อย่างน้อยการที่เธอเลือกถามเขาครั้งนี้ก็ยังสื่อให้เห็นว่าเธอเป็นห่วง

“เปล่า ๆ ฉันแค่คิดว่าตัวงานเป็นรูปเป็นร่างแบบนั้นเก็บไว้ที่ใกล้ตาก็ดีเหมือนกัน เผื่อเก็บไว้ที่อื่นแล้วเกิดเหตุไม่คาดคิดคงเสียดายน่าดู” เธออ้อมแอ้มตอบกลับไป

“อ้อ เหมือนรอบนี้ฉันกับเพื่อน ๆ จะไม่เก็บงานกันที่คณะแหละ เพราะเหมือนพื้นที่ในคณะจะปรับเปลี่ยนนิดหน่อย ถ้าฝากต้องคอยย้ายไปมา เลยคุยกันว่าอาจจะแยกกันเก็บ” ในใจรู้สึกโล่งมากขึ้นที่เหตุการณ์จะไม่เดินซ้ำรอยเดิม ในตอนนี้เองมือของหญิงสาวเริ่มรู้สึกชื้นจากเหงื่อ เธอจึงเริ่มรู้ตัวว่ามือของเขาและเธอยังคงจับกันไว้อยู่ตลอดเวลา

ใจของเธอเต้นแรงขึ้น พยายามจะคลายมือออก เมื่อคีร์รู้ว่าหญิงสาวจะปล่อยมือชายหนุ่มก็กระชับมือไว้แน่นไม่ยอมให้เธอปล่อยมือเขา คีร์มองหน้าหญิงสาวราวกับจะถามว่า มีอะไรเหรอ รันเลยทำได้เพียงปล่อยเลยตามเลย

ทั้งคู่นั่งพักกับธรรมชาติ ช่วงเวลาที่ทั้งสองนั่งเล่นที่ม้านั่ง เหม่อมองแม่น้ำที่มีรอยกระเพื่อมของน้ำตามแรงลม ริ้วของท้องฟ้าที่แต่งแต้มไปด้วยสีขาวจากก้อนเมฆ ลมเย็น ๆ พัดผ่านคล้ายจะหยอกเอินกับใบไม้ที่กำลังร่วงหล่น ภาพตรงหน้าเธอสวยงามราวกับความฝัน หญิงสาวหลับตาพริ้มซึมซับความรู้สึกนี้

ทว่าเมื่อเธอหลับตาภาพเดตแรกของเธอกับคีร์ก็หวนกลับมาในความทรงจำอีกครั้ง

“คีร์ รอฉันก่อนสิ” หญิงสาวเดินตามชายหนุ่มที่เดินนำอยู่ด้านหน้า เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางหันกลับมามองเธอ

“คราวหน้าก็เดินไวไวหน่อย” เขาพูดขึ้นระหว่างหยุดรอ รันผงะไปนิดหนึ่งเพราะท่าทีของเขาคล้ายหงุดหงิดเล็ก ๆ ที่เธอชวนเขาออกมาข้างนอกวันนี้ แต่เขาก็รับปากมานานแล้วนี่นาว่าจะมาด้วยกัน

“นายหงุดหงิดอะไรหรือเปล่า เล่าให้ฟังได้นะ” หญิงสาวลองถามชายหนุ่ม เธอพอรู้มาบ้างว่าเวลาที่เขายุ่งกับงานมักจะอารมณ์เสีย

“ไม่มีอะไรหรอก พอดีงานกลุ่มที่ทำค้างไว้มีปัญหานิดหน่อย” คีร์ในตอนปีสามตอบรันกลับมาสั้น ๆ เขามีปัญหาเรื่องงานที่ทำเพราะกลุ่มที่จับได้รอบนี้ไม่ใช่นัทกับต้นสน เลยทำให้การคุยงานติดขัดเล็กน้อยเมื่อเริ่มคิดว่าตัวเขาอารมณ์ฉุนจนเธอสังเกตได้เลยพยายามผ่อนอารมณ์ลง

“เธออยากทำอะไรต่อไหมล่ะ ฉันตามใจเธอ” คีร์ถามรันขึ้น หญิงสาวยิ้มกว้างก่อนจะถามเขาต่อ

“ตรงข้าง ๆ มหาวิทยาลัยมีสวนสาธารณะเล็ก ๆ อยู่ นายสนใจไหมแบบไปเดินเล่นกันไรงี้” หญิงสาวเสนอ จริง ๆ เมื่อคืนนี้เธอมีวางแพลนเดตแรกของเธอกับเขามาบ้าง นัดเจอกันที่ห้าง ไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ แวะกินกาแฟที่ร้านคาเฟ่น่ารัก ๆ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับ เธอวาดฝันไว้ด้วยความสุขเฝ้ารอให้ถึงวันนี้ไวไว

“เวลาบ่ายอย่างนี้อากาศคงร้อนน่าดู ฉันว่าเราหาอะไรทำในห้างเถอะ” คีร์ดับฝันหญิงสาวทันที เธอรู้สึกเสียดายเล็กน้อยทว่าเมื่อคิดตามเขา เธอก็พอเข้าใจแดดเมืองไทยร้อนขนาดนี้จะเอาตัวเองไปอยู่กับความร้อนนั้นก็คงจะพาลให้อารมณ์เสียเพราะความร้อนเปล่า ๆ รันเลยคิดว่างั้นขยับไปแพลนต่อไปของเธอคือการไปนั่งเล่นร้านคาเฟ่

“ฉันว่าหาหนังดูในนี้ดีไหม มีหนังเข้าใหม่หลายเรื่องเลยนี่” คีร์ผุดไอเดียขึ้น อันที่จริงพอเขาเจองานที่มีปัญหาอารมณ์อยากเที่ยวของเขาก็คล้ายมอดดับไปหมด ชายหนุ่มพยายามหาอะไรทำเพื่อให้เวลาผ่านไปไวไว ในหัวของเขามีเพียงจะแก้ปัญหางานพวกนั้นอย่างไร

“เอ่อ..อื้อ ก็ได้นะ” รันผิดหวังนิดหน่อยที่แพลนของเธอไม่เป็นดังหวัง ทว่าเมื่อคิดว่าอย่างน้อยก็ได้ดูหนังในโรงกับเขาสองต่อสองไอเดียของเขาก็ไม่นับว่าแย่เท่าไหร่ ทั้งสองคนเลยเดินไปทางโรงหนังเพื่อซื้อตั๋ว ทว่าเมื่อถึงเวลาต้องเลือกหนังที่ดู

“ตอนนี้ เหมือนหนังเรื่องนี้กำลังมาแรงนะ” ชายหนุ่มชี้ไปที่โปสเตอร์หนังแนวฆาตกรโรคจิตที่ชอบจับเด็กและหญิงสาวมาทรมาน หนังเรื่องนี้กำลังเป็นที่นิยมด้วยตัวดารานักแสดงนำที่มีชื่อเสียงแต่ติดตรงที่เธอค่อนข้างกลัวอะไรพวกนี้ รันเลยพยายามหาตัวเลือกอื่น

“เรื่องนี้ดีไหม” ในช่วงเวลานี้ตารางหนังที่ใกล้มากที่สุดนอกจากเรื่องที่คีร์เลือกก็คือเรื่องนี้ เป็นการ์ตูนแอนิเมชั่นที่มีแววว่าจะได้รับรางวัลภาพยนตร์ประจำปี

“ไม่อะ เรื่องนี้ฉันดูตัวอย่างมาคงงั้น ๆ ” เขายังคงยืนกรานจะดูหนังเรื่องเดิม

“เอ่อ คือฉันกลัวอะไรพวกนี้นี่สิคิดว่าคงดูไม่ไหว” รันพยายามอธิบายสาเหตุสำคัญ

“เอาน่า ลองสักเรื่องเปิดใจดูหน่อย” เขาโบกมือปัดก่อนจะกึ่งลากกึ่งจูงเธอให้ไปซื้อตัวพร้อมกัน

ตลอดช่วงระยะเวลาในโรงหนังบอกได้เพียงสามารถตัดความสวีททิ้งไปได้เลย เธอรู้สึกเหมือนจ่ายค่าตั๋วเป็นร้อยแต่ได้ดูไม่ถึงยี่สิบบาทแม้เงินนั้นจะเป็นเขาออกก็ตามที หญิงสาวปิดตาสะดุ้งตกใจตลอดแทบทั้งเรื่องน้ำตาพาลจะไหลด้วยความกลัว ทว่าชายหนุ่มข้าง ๆ กับตั้งใจดูราวกับวิเคราะห์เนื้อเรื่องของหนังที่กำลังเป็นกระแสอยู่

เมื่อหนังจบรันก็เหมือนร่างไร้วิญญาณเดินออกจากโรงเขาหัวเราะเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางของเธอ ใจหนึ่งก็สงสารแต่ใจหนึ่งก็คิดว่าหญิงสาวควรต้องปรับตัว เขาเป็นคนชอบดูหนังที่มีความจริงจัง ซีเรียส เป็นทุนเดิมถ้าเธออยากเป็นแฟนเขาเธอก็ต้องมีความชอบคล้ายเขาบ้าง รสนิยมเรื่องหนังนี่ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ

“หมดแรงเชียว ฉันเห็นเธอดูไปไม่เท่าไหร่เอง ปิดตาทั้งเรื่องเลย” เขาหัวเราะแซวรัน หญิงสาวเลยอดเอามือฟาดเขาเบา ๆ ไม่ได้ เธอคิดว่าตอนนี้เธอตามใจเขาไปอย่างหนึ่งแล้วเพราะงั้นรันเลยเริ่มอยากเสนอแพลนที่เธอวางไว้ต่อ เสียงของหญิงสาวยังไม่ทันพูดขึ้น โทรศัพท์ของชายหนุ่มก็ดังขัดจังหวะ

เขาขอตัวไปรับโทรศัพท์ ปล่อยให้เธอนั่งรออยู่ที่โซฟาบริเวณโซนซื้อตั๋วหนังนั่งรอได้ราวยี่สิบนาทีคีร์ก็เดินเข้ามา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ย้อนเวลาใหม่ครั้งนี้ขอยอมง้อเธอด้วยรัก