เล่ห์รัก ท่านประธาน นิยาย บท 1148

ในปีแรกที่แยนนี่มาถึงประเทศอังกฤษ ด้วยความช่วยเหลือของซามูเอล เธอสามารถลงทะเบียนเข้าเรียนที่มหาวิทยาลับออกซฟอร์ดและเข้าชั้นเรียนพิเศษด้านวรรณกรรมคลาสสิคและภาษาสมัยใหม่ควบคู่กับเอกเศรษฐศาสตร์และการจัดการ

ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยนั้นมีอิสระและเรียบง่าย แยนนี่ยังลงวิชาโทในภาคการกำกับภาพยนตร์และตัดต่อที่มหาวิทยาลัยศิลปะแห่งลอนดอนอีกด้วย

ไม่มีช่องว่างให้หัวของเธอให้คิดเรื่องอื่น

ตั้งแต่มาถึงประเทศอังกฤษ เธอได้เจอกับพ่อทูนหัวของซามูเอล หลุยส์ แฟรงค์

หลุยส์ แฟรงค์ เป็นชายชราที่อาศัยเพียงลำพัง เขาเคยมีลูกสาวที่ทั้งเก่งและฉลาดแต่เธอต้องเผชิญความยากลำบากที่หนักหนาสาหัสเช่นกัน ลินน์จากไปเมื่อสิบปีก่อน ในตอนนั้นเธออายุพอ ๆ กับแยนนี่

ตาเฒ่าแฟรงค์เป็นคนที่คอยช่วยเหลือซามูเอลตั้งแต่แรกที่เขาจะช่วยแยนนี่ออกมา

สมัยตาเฒ่าแฟรงค์ยังหนุ่มกว่านี้ เขาเคยเป็นชายผู้มั่งคั่งและมีอำนาจคนหนึ่งอังกฤษ ยามเขาเกษียณก็ยังเป็นพ่อค้าผู้ทรงอิทธิพล หลังเกษียณเขาย้ายไปอยู่อาศัยในชนบทแล้วใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและสามัญ

ซามูเอล เอารูปของแยนนี่ให้ตาเฒ่าแฟรงค์ดูก่อนหน้านี้แล้วบอกว่ากับเขาว่าแยนนี่คือคนที่เขานั้นเกินเอื้อมและเธอคือคนที่เขาแบ่งบันความทุกข์ด้วยมากที่สุด

ตาเฒ่าแฟรงค์หัวเราะแล้วว่า “ฉันคงช่วยแน่ ถ้าเธอคือคนที่แกรัก ดังนั้นพาเธอมาหาฉันได้เลย”

ด้วยความช่วยเหลือจากตาเฒ่าแฟรงค์ แยนนี่บินมายังประเทศอังกฤษด้วยเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวของเขา เมื่อตาเฒ่าแฟรงค์ได้พบแยนนี่เป็นครั้งแรก พวกเขาเข้ากันได้ดี ตาเฒ่าแฟรงค์เอ็นดูคนหนุ่มสาวอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงเอ็นดูแยนนี่ไปด้วย เขามองเห็นลูกสาวที่แสนเก่งและฉลาดในตัวเธอ

เขายังรับแยนนี่มาเป็นลูกสาวบุญธรรมอีกด้วย

ตอนแยนนี่ถึงประเทศอักฤษ เธอไม่มีตัวตน แต่ด้วยอิทธิพลของเขา ตาเฒ่าแฟรงค์ใช้เส้นสายเล็กน้อย แยนนี่ก็สามารถอาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษพร้อมตัวตนใหม่ของเธอในฐานะลินน์ ลูกสาวของเขา

นับจากนั้นเป็นต้นมา แยนนี่ได้กลายเป็นลินน์

ตาเฒ่าแฟรงค์มีงานอดิเรกสารพัดในตลอดชีวิตของเขา

เขาทั้งมีสนใจในหนังสือ งานศิลปะ และการพยากรณ์

แยนนี่เคยเป็นนักแสดงมาก่อนแต่หลังจากย้านมาอยู่ที่อังกฤษ เธอกลายเป็นคนสันโดษและเริ่มเรียนการอ่านและเขียนจากตาเฒ่าแฟรงค์ ตามรอยเขาจากงานอดิเรกต่าง ๆ

ขณะที่ใช้แปรงสีกำลังขีดเขียนบนผืนผ้าใบอยู่นั้น ตาเฒ่าแฟรงค์จัดแว่นตาตัวเองแล้วมองมายังแยนนี่ “ทำไมเขาถึงไม่มากับเธอล่ะ? ถ้าฉันจำไม่ผิด วันนี้เป็นวันหยุดไม่ใช่เหรอ?”

เขาถามถึงซามูเอล

แยนนี่กำลังเตรียมหมึกอยู่ข้าง ๆ ด้วยเธอไม่ได้คิดอะไรมากับสิ่งที่ตาเฒ่าแฟรงค์ถาม เธอแหย่เขากลับแทน “ซามูเอลยุ่งกับงานของเขามาก ขนาดวันหยุดเขายังไม่มีเวลามาหาคุณ แต่ฉันมาอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนคุณนะ คุณถึงจะคิดถึงเขาทำไมกันล่ะ?”

ตาเฒ่าแฟรงค์หัวเราะขณะชี้แปลงสีในมือไปยังแยนนี่ “เธอก็รู้ฉันหมายถึงอะไร พวกเธอรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่หมอนนั่นก็เป็นคนดีเกิน พอเขามาถึงอักฤษ อยากทำธุรกิจเขาก็มาขอร้องให้ฉันลงทุนสามสิบล้านดอลลาร์เพื่อเป็นเงินทุนสตาร์ทอัพให้ หมอนั่นขอร้องฉันอย่างตรงไปตรงมาด้วยความซื่อตรงของเขานั่นแหละ ทำอย่างกับว่าถ้าฉันลงทุนในธุรกิจของเขาแล้วฉันจะได้บุญกุศลอย่างนั้นเลย ความกล้าได้กล้าเสียนี่ทำให้ฉันนึงถึงตัวเองสมัยยังหนุ่ม”

แยนนี่ก้มหัวแล้วยิ้ม “การเป็นคนตรงไปตรงมาก็ไม่มีอะไรเสียหายนี่ค่ะ ฉันก็เคยชอบเขาเพราะความซื่อตรงกับความสามารถของเขาเหมือนกัน”

ตาเฒ่าแฟรงค์มองเธอด้วยความจริงจัง “เธอหมายความว่าตอนนี้เธอไม่ได้ชอบที่เขาเป็นคนดีและตรงไปตรงมางั้นเหรอ?”

แยนนี่ส่ายหน้า แล้วพูดเสียงเบา “ฉันยังชอบที่เขาเป็นคนดีและตรงไปตรงมาค่ะ แต่ฉันแค่ชื่นชมเขาในแบบเพื่อนก็เท่านั้น ยากนะคะที่จะหาใครสักคนที่ซื่อตรงอย่างซามูเอล ซามูเอลเป็นทั้งคนดีและสุภาพบุรุษ”

ทันทีที่แยนนี่พูดจบ เสียงของชายหนุ่มลั่นมาจากนอกห้อง “อะแฮ่ม นี่ฉันอยู่ในเฟรนด์โซนหรอกเหรอเนี่ย?”

ตาเฒ่าแฟรงค์กับแยนนี่หันไปทางประตู

ซามูเอลพูดขณะที่เดินเข้ามาในบ้าน ในมือถือตะกร้าเต็มไปด้วยผลส้ม “ส้มนี่เพิ่งนำเข้ามาเลยนะ ฉันเลยซื้อมาให้ลองกินกัน”

ตาเฒ่าแฟรงค์ถอดแว่นออกแล้วว่า “ฉันคิดว่าแกจะไม่มาซะแล้ว อาทิตย์ก่อนแกก็ซื้อบาแกตมาให้ซะเต็มตู้เย็นฉันไปหมด แกจะให้คนแก่อย่างฉันนั่งเคี้ยวบาแกตเหนียว ๆ พวกนั้นเหรอ? แกมันรังแกคนแก่นี่หว่า”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน