ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 693

ซูยู่เซิงเห็นมู่น่อนน่อนจะจากไปจริง ๆ จึงลนลานขึ้น

เขาจึงลุกขึ้นแล้วเรียกหยุดมู่น่อนน่อน “ผมรู้ว่าคุณกับตระกูลมู่นั้นตัดขาดความสัมพันธ์กันแล้ว แม้ว่าคุณจะคลอดลูกสาวให้กับเฉินถิงเซียว  แต่ว่าเขาก็จะไม่ยุ่งเรื่องของคุณ ไม่ว่าคุณอยากจะขึ้นไปในตำแหน่งที่สูงด้วยวิธีที่รวดเร็ว หรือจะด้วยเงื่อนไขอย่างอื่นก็ตาม ผมคิดว่าผมมีความสามารถนั้น!”

ซูยู่เซิงมาหาเธอ แล้วก็พูดอ้อมไปนาน ในที่สุดตอนนี้ก็พูดตรง ๆ ได้เสียที พูดจุดประสงค์การมาของเขาอย่างแจ่มแจ้งชัดเจน

ตอนแรกเขาไม่ได้พูดจุดประสงค์ที่ชัดเจน มาวางมาดใส่ คิดว่าฐานะตำแหน่งของตัวเองจะสามารถกดดันมู่น่อนน่อนได้ ให้มู่น่อนน่อนปริปากพูดออกมาก่อนได้

แต่เขาผิดคาด มู่น่อนน่อนไม่ใช่ผู้หญิงที่จะเอาเปรียบได้ง่าย ๆ และสงบสติอารมณ์ได้ดีกว่าเขา

สุดท้าย ก็เป็นเขาเองที่ปริปากออกมาก่อน จนสูญเสียการเป็นฝ่ายรุก

“คุณซูคิดว่า ฉันจะตอบตกลงเงื่อนไขของท่านไหม”

มู่น่อนน่อนหันกลับมามองซูยู่เซิงด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

ซูยู่เซิงเพราะความไม่รู้จักดีชั่วสูงต่ำของมู่น่อนน่อน สีหน้าจึงได้เปลี่ยนดูแย่ขึ้น

“ผมย่อมต้องหวังว่าคุณจะเป็นเด็กที่รู้จักวางตัวรู้จักดีชั่วสูงต่ำ และตอบตกลงเงื่อนไขของผม” ซูยู่เซิงคิ้วไม่ขยับเลยสักนิด เห็นได้ชัดเจนว่ามีความมั่นใจอย่างมาก

“ถ้าหากว่าฉันไม่ตอบตกลงล่ะ” มู่น่อนน่อนได้ยินดังนั้น ก็ยิ้มขึ้น

“คุณมู่คุณก็เป็นแม่คน ขอให้คุณเข้าใจความรู้สึกของผมในฐานะที่เป็นพ่อด้วย” ซูยู่เซิงก้มศีรษะเบา ๆ ดูเหมือนจะเป็นการขอร้องมู่น่อนน่อนอย่างนอบน้อม

แต่ว่าในความเป็นจริง น้ำเสียงของเขานั้นฟังดูแล้วหยิ่งยโสมาก

นี่คือต้องการให้มู่น่อนน่อนไม่อยากเข้าใจก็ต้องเข้าใจอย่างนั้นเหรอ?

“ก็เพราะว่าเป็นแม่ ดังนั้นฉันถึงต้องเรียนรู้การสั่งสอนจากคุณให้มากกว่านี้ ต่อไปจะได้สั่งสอนลูกของฉันให้ดี ๆ อย่าได้ทำตัวเหมือนกับซูเหมียน!”

พูดมาถึงขนาดนี้ มู่น่อนน่อนรู้สึกว่าเธอไม่มีอะไรที่จะต้องคุยกับซูยู่เซิงอีกแล้ว

เธอที่กำลังจะจากไป ก็ได้ยินเสียงข่มขู่ของซูยู่เซิงจากด้านหลัง “คุณมู่ นักข่าวให้ความสนใจการเคลื่อนไหวของคุณมาโดยตลอด คิดว่าถ้าพวกเขารู้เรื่องลูกสาวของคุณกับเฉินถิงเซียวที่ไม่เคยเปิดเผย จะต้องให้ความสนใจอย่างมากแน่นอน”

ความหมายของซูยู่เซิงคือ ถ้าหากมู่น่อนน่อนไม่ตอบตกลงเงื่อนไขของเขา เขาก็จะเปิดเผยเรื่องของเฉินมู่

มู่น่อนน่อนชะงักครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดประชดประชันขึ้น “คุณซูพูดแบบนี้ ฉันรู้สึกกลัวขึ้นมาเลย”

ทั้งสองเจรจากันไม่สำเร็จ

เวลานี้ ซูยู่เซิงได้เดินออกมาจากห้องเหมาส่วนตัว

เฉินถิงเซียวได้ยินเสียงเคลื่อนไหว จึงได้หันกลับไปมอง และก็ประสานตาเข้ากับซูยู่เซิงพอดี

เขามองซูยู่เซิงอย่างเย็นชา แล้วสาวเท้าก้าวเดินไปหาเขา

แววตาของเฉินถิงเซียวประกายความดุดัน น้ำเสียงเคร่งขรึม “คนภายนอกต่างบอกว่าคุณซูเป็นคนเปิดเผยตรงไปตรงมา แต่ตอนนี้กลับข่มขู่ผู้หญิงเพื่อบรรลุเป้าหมายของตัวเอง นี่กลัวคนอื่นจะจับพิรุธได้เหรอ? หรือว่าคุณไม่อยากจะนั่งตำแหน่งนี้อีกแล้ว”

ซูยู่เซิงเพิ่งจะถูกมู่น่อนน่อนปฏิเสธไป ตอนนี้ก็ถูกเฉินถิงเซียวพูดเรื่องเหล่านี้ ในใจจึงโกรธสุด ๆ

“ถ้าหากว่าไม่ใช่เป็นเพราะคุณ ลูกสาวผมก็คงจะไม่กลายเป็นแบบนี้!” ในสายตาของซูยู่เซิง ซูเหมียนเดินมาถึงจุดนี้ล้วนเป็นเพราะเฉินถิงเซียว

เฉินถิงเซียวยิ้มเยาะ “เธอเป็นลูกสาวของคุณ ไม่ใช่ลูกสาวของผม ซูเหมียนทำไมถึงกลายเป็นเช่นทุกวันนี้ คุณควรจะถามตัวคุณเอง”

ซูยู่เซิงอ้าปากค้าง ถูกยอกย้อนจนถึงกับพูดอะไรไม่ออก

คลิปซูเหมียนถือมืดทำร้ายคนอยู่ในห้องอาหารได้ถูกเผยแพร่ว่อนอยู่บนโซเชียล ทุกคนรู้ว่าซูเหมียนต้องการจะฆ่ามู่น่อนน่อน

ถ้าหากว่าคลิปไม่ได้ว่อนอยู่บนโซเชียล ซูยู่เซิงไม่จำเป็นต้องมาหามู่น่อนน่อนเลย และก็สามารถจัดการเรื่องราวได้ โดยไม่ปล่อยให้มู่น่อนน่อนมีโอกาสฟ้องซูเหมียน

“มู่น่อนน่อนเป็นคนของผม เฉินมู่เป็นลูกสาวของผม คุณอย่าแตะต้องพวกเขาเป็นดีที่สุด มิเช่นนั้น……” เฉินถิงเซียวพูดมาถึงตรงนี้ก็ชะงัก แล้วยิ้มเยาะขึ้น จากนั้นก็จากไป

ซูยู่เซิงไม่เคยมีใครข่มขู่โดยไม่ไว้หน้าขนาดนี้

เขาเดินเซสองก้าว ตั้งตัวได้ก็โมโหขึ้น แต่กลับไม่สามารถทำอะไรเฉินถิงเซียวได้

สถานะของเฉินถิงเซียวนั้นซับซ้อน เฉินถิงเซียวไม่ใช่คนที่จะแตะต้องได้ง่าย ๆ 

ถ้าหากว่าเขาแตะต้องเฉินถิงเซียว ก็คงจะลงมือเบาไม่ได้

แต่ถ้าลงมือหนักไป คนเหล่านั้นที่จ้องจะหักขาเก้าอี้ของเขา จะต้องถือโอกาสนี้จัดการเขาอย่างแน่นอน

เขาไม่อยากให้ซูเหมียนติดคุก แต่ก็ไม่อยากเอาอนาคตตัวเองเข้าไปเสี่ยง

เมื่อเทียบกับลูกสาวแล้ว อาชีพที่เขาสร้างมาตลอดชีวิตมีความสำคัญมากกว่า 

ท้ายที่สุด เฉินถิงเซียวจึงส่งซูเหมียนเข้าไปอยู่ในคุกด้วยโทษแปดปี

 หลังจากเหตุการณ์ผ่านไป เฉินถิงเซียวมาขอมู่น่อนน่อนให้อภัย “ตอนนั้นที่ผมเหินห่างกับคุณ แล้วไปแต่งงานกับซูเหมียน ก็เพื่อทำให้ซูเหมียนโกรธ คุณก็รู้ เธอต้องการแต่งงานกับผม เธอไม่มีทางปล่อยคุณไป และจะเปิดเผยพิรุธออกมา แต่ว่าผมผิดไปแล้ว ผมทำให้คุณตกอยู่ในอันตราย ขอโทษ น่อนน่อน”

ความจริงปรากฏ ที่แท้เฉินถิงเซียวไม่ใช่ไม่ได้รักเธอ แต่เป็นเพราะต้องการจะล้มซูเหมียน

“ตอนนี้ฉันไม่สามารถที่จะให้อภัยคุณได้ มีวิธีตั้งมากมาย ทำไมคุณถึงไม่ปรึกษาฉันก่อน ทำให้ฉันต้องทำเรื่องมากมายเช่นนี้” มู่น่อนน่อนตำหนิ

เธอยังอยากฟ้องร้องสู้กับเฉินถิงเซียวเพื่อแย่งมู่มู่ นี่ช่างเลอะเทอะสุด ๆ

ครั้นแล้ว ทั้งสองก็ต่อสู้กันอย่างเย็นชาอยู่ครู่หนึ่ง แต่อย่างไรมู่มู่ยังคงต้องการพ่อ  การตำหนิของมู่น่อนน่อนก็ค่อย ๆ หายไป เรื่องราวในตอนนั้น ซูเหมียนนั้นผิดจริง ๆ ถ้าไม่ใช่การช่วยเหลือของเธอ เฉินถิงเซียวก็คงไม่สูญเสียความทรงจำ

มู่น่อนน่อนยังคงให้อภัยเฉินถิงเซียว

เมื่อมู่น่อนน่อนกลับมาถึงบ้าน ฟ้าได้มืดแล้ว

ที่ไกล ๆ เธอเห็นโคมไฟถนนสองดวงติดที่หน้าประตูคฤหาสน์ แต่ว่าในคฤหาสน์กลับมืดสนิท และไม่มีการเคลื่อนไหวเลย

ในใจของมู่น่อนน่อนตื่นตระหนก ความรู้สึกแรกคือต้องมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น

ในสถานการณ์ปกติ เวลานี้ พ่อบ้านจะต้องจัดให้คนทำการเปิดดวงไฟทางเดินในคฤหาสน์แล้ว ในบ้านล้วนมีคนรับใช้และบอดี้การ์ด เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เปิดดวงไฟสักดวง

มู่น่อนน่อนไม่ได้ลงจากรถทันที นั่งอยู่ในรถแล้วโทรศัพท์หาเฉินถิงเซียว

โทรศัพท์โทรติดอย่างรวดเร็ว แต่ไม่มีคนรับ

คฤหาสน์ไม่เปิดไฟ เฉินถิงเซียวไม่รับโทรศัพท์

นี่ช่างผิดปกติมาก

ในเวลานี้ได้มีเสียง “พรึ่บ” ดังนั้น ในคฤหาสน์สว่างวาบฉับพลัน คฤหาสน์ที่เดิมทีมืดสนิทได้สว่างไสวขึ้น

มู่น่อนน่อนอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วเปิดประตูรถเดินลงจากนั้นเดินเข้าไปด้านใน

ทันทีที่เข้าประตูคฤหาสน์ มู่น่อนน่อนก็ชะงักเท้าขึ้น 

นี่เป็นบ้านของเธอเหรอ?

บริเวณสนามหญ้าเห็นได้ชัดว่ามีการตกแต่งอย่างดี มีดวงไฟที่สวยงามหลายเส้นแขวนห้อยอยู่ ตามทางโรยด้วยดอกกุหลาบ

“เฉินถิงเซียว” เธอพลางเดินเข้าไปด้านใน พลางมองไปรอบ ๆ

ดอกกุหลาบโรยมาถึงหน้าประตูใหญ่

เธอยืนอยู่หน้าประตูแล้วมองเข้ามาด้านใน จากนั้นคู่ดวงตาเบิกกว้าง

ห้องโถงถูกวางเต็มไปด้วยดอกไม้ บนกำแพงห้อยด้วยรูปภาพ

มู่น่อนน่อนเดินมาที่รูปภาพบนผนังที่ใกล้ที่สุด พบว่าเป็นรูปภาพที่น่าเกลียดของเธอที่นานมาแล้ว จากนั้นด้านหลังมีรูปตอนตั้งครรภ์ และยังมีรูปที่มีเฉินมู่......

 มีรูปถ่ายไม่กี่รูปที่เธอรู้ ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นรูปที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน

จากรูปสามารถแยกแยะได้ว่าเป็นภาพที่เวลาต่างกัน แต่ภาพส่วนใหญ่ มู่น่อนน่อนนึกย้อนกลับไปล้วนเป็นรูปที่ตัวเองไม่ได้อยู่กับเฉินถิงเซียว

รูปภาพเหล่านี้เป็นรูปที่เฉินถิงเซียวส่งคนมาแอบถ่าย

เรื่องแบบนี้เขาใช่ว่าจะไม่เคยทำ

เสียงฝีเท้าดังมาจากด้านหลัง

มู่น่อนน่อนหันกลับไปมอง ก็เห็นเฉินถิงเซียว

เขาแต่งตัวเป็นทางการและดูจริงจัง โดยสองมือไขว้ไปด้านหลัง ราวกับกำลังซ่อนอะไรบางอย่างไว้

มู่น่อนน่อนมองไปยังด้านหลังของเขา อยากรู้ว่าเขาถือของอะไรไว้

เวลานี้เฉินถิงเซียวกลับคุกเข่าลงหนึ่งข้าง

มู่น่อนน่อนเบิกตาโพลง “คุณ……ทำอะไร”

เฉินถิงเซียวยกมือขึ้น เปิดกล่องผ้ากำมะหยี่ที่ซ่อนอยู่ในมือ ด้านในมีแหวนเพชรอันวิจิตรงดงาม

“มู่น่อนน่อน แต่งงานกับผมนะ”

ขอแต่งงาน?

เป็นคู่สามีภรรยากันตั้งนานแล้วยังจะขอแต่งงานอีก

ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เฉินถิงเซียวจะเคยขอแต่งงาน แต่ครั้งนี้เป็นการขอแต่งงานเที่รียบง่ายและตั้งใจ เธอยังคงรู้สึกซาบซึ้งใจ

เธอเม้มริมฝีปากยิ้ม ยื่นมือออกไป กล่าวอย่างไม่ลังเล “ตกลงค่ะ”

ไม่จำเป็นต้องลังเล

เพราะชีวิตนี้ นอกจากความตายแล้ว ไม่มีอะไรจะแยกจากพวกเขาไปได้

เฉินถิงเซียวสวมแหวนลงบนนิ้วของเธอ

มู่น่อนน่อนดึงมือกลับมา แล้วมองแหวนอย่างจริงจัง เฉินถิงเซียวสายตาแหลมคม วงแหวนสวยงามมาก

เธอหันหน้าไปมองรูปภาพบนผนัง แล้วหันกลับมาถามเฉินถิงเซียว “เป็นฝีมือของคุณทั้งหมดเหรอ”

“อืม” เฉินถิงเซียวกระแอมเบา ๆ ปกปิดความเขินอาย

เขาปรึกษากู้จือหยั่นอยู่หลายครั้ง วิธีการเสนอขอแต่งงานของกู้จือหยั่นนั้นฉูดฉาดและไม่เหมาะกับมู่น่อนน่อน สุดท้ายเขาจึงใช้วิธีของตัวเอง

แต่ว่าวิธีของเขาดูเหมือนไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ มู่น่อนน่อนเห็นแล้วไม่ได้รู้สึกเซอร์ไพรส์มากแต่อย่างใด

มู่น่อนน่อนกับเฉินถิงเซียวอยู่ด้วยกันมาหลายปี อารมณ์ความแปรปรวนของเขา เธอสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม