นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้ นิยาย บท 35

พวกผู้หญิงหลายคนรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะไหม้เกรียม หน้าที่แต่งมาก็จะเละเป็นผี

เมื่อเทียบกับสือฮว่านั้นแล้ว ท่าทีของพวกเธอช่างน่าสังเวช

ทุกคนกลั้นความโกรธ พอเห็นสือฮว่าที่ถูกเข็นรถมา พวกเขาก็เริ่มตะโกนก่นด่าอย่างหยิ่งผยอง

"เปิดประตูเร็วสิ นี่ไม่ใช่วิลล่าของสือโม่เหรอ เราเป็นเพื่อนร่วมชั้นของสือโม่ มาดูตั้งแต่เช้าแล้วนะ!"

"วิลล่าหลังนี้สวยมากเลยนะ ฉันเห็นรูปถ่ายของสือโม่แล้วใจยังเต้นเลย ไม่คิดเลยว่าเธอจะให้เราเข้ามาดู"

"ฉันได้ยินมาว่าวิลล่านี้ถูกพี่สาวนางยึดไปแล้ว วันนี้เราไม่เพียงมาดูที่นี่เท่านั้น แต่ยังมาเพื่อคืนความยุติธรรมให้กับสือโม่ด้วย!"

"ใช่ๆ!"

แน่นอนว่าผู้หญิงเจ็ดถึงแปดคนยืนอยู่นอกประตูใหญ่ ใบหน้าของพวกเธอเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง!

"สือฮว่า เป็นเธอใช่ไหมที่แย่งวิลล่าของสือโม่ไปใช่ไหม?! แถมยังให้คนไล่สือโม่ออกไปอีก เธอนี่มันหน้าเงินจริง เป็นพี่สาวเขานะ มีพี่ที่ร้ายกาจแบบนี้ในโลกนี้ได้ยังไงกัน!"

"ใช่แล้ว สมน้ำหน้าที่เป็นง่อย! ต้องนั่งรถเข็นไปตลอดชีวิต!"

สือฮว่ามองไปที่หน้าตาน่าเกลียดของคนพวกนั้นก่อนจะเลิกคิ้วและยิ้ม "สือโม่บอกแบบนี้กับพวกเธองั้นเหรอ?"

คนพวกนั้นไม่คิดว่าสือฮว่าจะยังยิ้มออก เลยยิ่งโกรธมากขึ้น

"ยัยบ้า! ให้เราเข้าไปนะ จะได้เห็นดีกัน!"

"สือโม่บอกว่าตอนม. ปลายเธอก็ไปกับผู้ชาย ฉันว่าคงไปนอนด้วยกันแล้วสินะ!"

"ยัยร่าน ไร้ยางอายจริง!"

พวกผู้หญิงทั้งหมดนั่นก็เป็นแค่น้อง ในความคิดของพวกเธอ บ้านตระกูลสือร่ำรวยมากแล้ว และสือโม่เป็นคนใจกว้างดังนั้นพวกเธอเลยนับถือสือโม่ แต่มาตอนนี้ได้ยินว่าสือโม่โดนทำร้ายน้ำใจ ก็เลยจะมาขอความเป็นธรรม

สือโม่มองท่าทางเกินจริงของพวกเธอ ก็ค่อยๆหลับตาลงและพูดเสียงเรียบ "ฉันจำได้ว่าพวกนายเลี้ยงพิตบูลใช่ไหม?"

ที่เธอถามเป็นการถามบอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลัง บอดี้การ์ดก็รีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว

ระดับการรักษาความปลอดภัยในวิลล่าราวกับสวรรค์ มีบอดี้การ์ดหลายคนคอยลาดตระเวนแถมยังเลี้ยงพิทบูลซึ่งเป็นสายพันธุ์สุนัขที่ดุร้ายที่สุดในโลกด้วย

สือฮว่าเม้มริมฝีปาก "พาสุนัขออกไปเดินเล่นกันเถอะ พวกคุณผู้หญิงน่าจะชอบมันมาก"

ผู้หญิงที่ยังคงก่นด่าที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น พอเห็นประตูข้างหน้าเธอเปิดออก สือฮว่าให้พวกเธอเข้าไปได้?

ยัยบ้านี่ หึ! เจอดีแน่!

แต่พอพวกเขาเข้ามาได้ไม่กี่ก้าว ยังไม่ทันได้ถึงตัวสือฮว่าก็ได้ยินเสียงสุนัขจากรอบด้าน

พิทบูลสามตัววิ่งเข้ามาอย่างดุเดือด ใบหน้าเต็มไปด้วยความดุร้าย

พิตบูลเป็นสุนัขสายพันธุ์ที่เกิดมาเพื่อต่อสู้ มันไม่มีปลายประสาทใต้ผิวหนัง เมื่อถูกกัดก็จะไม่มีวันปล่อย ร่างกายของมันจะหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกเจ็บปวดน้อยมาก พออยู่ในการต่อสู้ พิตบูลเป็นนักฆ่าที่สมบูรณ์

"เห้ย!! พิตบูล!"

ในบรรดาผู้หญิงมีเพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่อง และจำสายพันธุ์ของสุนัขได้ในพริบตา จนแทบจะคลานออกไปข้างนอกด้วยซ้ำ และไม่มีเวลาเอาคืนสือฮว่า

เจ้าพิตบูลไม่ทำให้สือฮว่าผิดหวัง ไล่ไปจนพวกนั้นขึ้นรถก่อนจะกลับมา

รถทั้งสองคันจากไปในไม่ช้าราวกับว่ามีผีตามไล่

สือฮว่าพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ เธอเคยเห็นพิทบูลรอบๆวิลล่ามาก่อน บอดี้การ์ดน่าจะเลี้ยง แต่มันอยู่ไกลจากบ้านใหญ่ บางทีฮ่อฉวนสืออาจจะไม่ชอบอะไรแบบนี้

บอดี้การ์ดเข็นเธอกลับไปที่บ้านพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าเธอ หยิบโทรศัพท์ออกมาเล่นอย่างอารมณ์ดี แต่พอเห็นข่าว รูม่านตาก็หดลงทันที

——ข่าวใหม่! ฮ่อฉวนสือแห่งบ้านตระกูลฮ่อกลายเป็นประธานแห่งตี้เซิ่ง! เฉียนสุ่ยวานก็เป็นทรัพย์สินของเขาเช่นกัน!

สือฮว่ารู้สึกหยุดหายใจ ใครเป็นคนปล่อยข่าว?

วินาทีถัดมาเมื่อเธอรีเฟรช ข้อความก็หายไปราวกับว่าสิ่งที่เธอเห็นคือภาพลวงตา

เธอขมวดคิ้วและรีเฟรชหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่พบข่าว

ตกกลางคืน ฮ่อฉวนสือกลับมาจากทำงานต่างจังหวัด สีหน้าดูไม่ดีนัก

หนานสือที่ตามเขามาก็มีใบหน้าที่จริงจังเช่นกัน

"เกิดอะไรขึ้นเหรอ?"

สือฮว่าถามอย่างสงสัยและสงสัยว่ามันเกี่ยวข้องกับข่าวที่เห็นในวันนี้หรือเปล่า

"คุณสือ มีคนเปิดเผยตัวตนของท่านประธานออกไป โชคดีที่ทีมของเราจัดการได้ทันท่วงที ไม่อย่างงั้นจิงตูได้ปั่นป่วนแน่ๆครับ"

หนานสือถอนหายใจด้วยใบหน้ายินดี

สือฮว่าพยักหน้า ที่แท้ข่าวที่เธอเห็นไม่ใช่ภาพลวงตา แต่ทีมของฮ่อฉวนสือจัดการแล้ว

"คุณสือครับ คุณเคยบอกเรื่องที่คุณพักที่เฉียนสุ่ยวานกับสือโม่และสิงเหมี่ยวหรือเปล่าครับ?"

สือฮว่าส่ายหัว เธอไม่ได้ติดต่อกับบ้านตระกูลสืออยู่แล้ว เว้นแต่ทางนั้นจะโทรมา

"แล้วหนิงหวางชิงล่ะครับ ช่วงนี้ได้ติดต่อกับสือโม่ ก็มีเพียงหนิงหวางชิงคนเดียว"

เธอยังคงส่ายหัว "ฉันไม่ได้บอกใครถึงเรื่องที่นี่เลยค่ะ"

หนานสือไม่ได้พูดอะไรต่อ และหันไปตรวจสอบเรื่องนี้ต่อ

ขณะนั้นฮ่อฉวนสือนั่งอยู่บนโซฟาแล้ว อาจเป็นเพราะความเหนื่อยล้าเลยเอื้อมมือไปนวดหัวคิ้ว

สือฮว่าขยับรถเข็นไปข้างๆเขาอย่างช้าๆ "ยุ่งยากใช่ไหม?"

"ฉันไม่อยากให้บนหนังสือพิมพ์มีเรื่องซุบซิบไร้สาระนั่น"

เสียงของฮ่อฉวนสือเย็นยะเยือกและยังแผ่ไอเย็นออกมาอีก

สือฮว่าเงียบ นี่คือสาเหตุที่เขาไม่ยอมที่จะเปิดเผยตัวตนของเขา? คนๆนี้ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจริงๆ

ไม่กี่วันต่อมา หนานสือยังคงตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ ทางอินเทอร์เน็ตก็มีคนของเขาคอยจับตามองและจะไม่มีวันที่ข่าวจะเล็ดลอดออกไปได้

สือฮว่าและฮ่อฉวนสือก็เข้ากันได้ดี ฮ่อฉวนสือไม่ได้ไล่เธอไปเลยสักวัน เธอก็เลยไม่ได้ไปไหน

ถึงการไปอยู่กับทางคุณหญิงถาง เธอก็คงจะอึดอัดมากกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้

ในเฉียนสุ่ยวาน เธอยังสามารถเดินไปรอบๆ ไม่ได้เฉาตายอยู่แต่ในห้อง

ฮ่อฉวนสือใจดีกับเธอ เขาอุ้มขึ้นลงอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย แต่นอกเหนือจากนั้นสายตาของเขาก็ไม่ได้หยุดที่เธอ

หนึ่งเดือนผ่านไปเหมือนกระพริบตา เธอลุกขึ้นเดินได้บ้างแล้ว

ฮ่อฉวนสือที่ไม่ค่อยอยู่บ้าน กำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนโซฟาก็เจอเข้ากับเหงื่อที่ออกตามหน้าผากของเธอแล้วก็หันกลับไป

"เธอเต้นเป็นไหม?"

เขาถามอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ถ้าไม่ใช่ในห้องนั่งเล่นมีแค่พวกเขาสองคน สือฮว่าก็คงคิดว่าเขาพูดเองเออเอง

"ได้บ้างแหละมั้ง"

เธอไม่ได้เรียนเต้นมาตั้งแต่เด็ก แต่ได้ยินว่าฉางอันชอบก็เลยเริ่มเรียนอย่างเงียบๆ

เธอพลาดช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเรียนเต้นไปแล้ว ดังนั้นเลยรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่างกาย เวลาเธอฝึก ขาและปลายเท้าของเธอก็มีแผล นอกจากความโดดเดี่ยวเธอก็ไม่มีอะไรเลยในตอนนั้น

เธอเอนกายบนโซฟา เดินอย่างยากลำบากเดินไปหาเขาแล้วนั่งลง หยิบกระดาษจากโต๊ะกาแฟแล้วเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก

ฮ่อฉวนสือปิดหนังสือพิมพ์และเหลือบมองเวลา

"ในเมื่อเธอเดินได้แล้ว งั้นฉันจะให้หนานสือส่งเธอกลับ"

คำพูดของเขาไร้ความปราณีจนมุมปากสือฮว่ากระตุก

เธออ้าปากอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สายตาของฮ่อฉวนสือที่ส่งมาจากเธออย่างนิ่งเรียบ "ครั้งนี้เป็นเพราะการบาดเจ็บของเธอ และฉันก็ไม่อยากให้คุณปู่มารบกวนฉันด้วย"

ที่แท้ก็เพราะคุณท่าน เขาเลยให้เธออยู่นานขนาดนี้

สือฮว่าเม้มริมฝีปาก ในเมื่อเขาพูดแบบนี้แล้วเธอจะพูดอะไรได้อีก คงไม่มีหน้าอยู่ต่อแล้วล่ะ

ในตอนบ่าย หนานสือพาเธอขึ้นรถส่งเธอขึ้นรถอย่างตรงเวลา สือฮว่าหันไปมองเฉียนสุ่ยวานทั้งโกรธทั้งตลก

รู้สึกเหมือนวันก่อนๆเป็นเหมือนความฝันเลย และตอนนี้ก็ตื่นจากความฝันแล้ว

ฮ่อฉวนสือไม่ได้ออกมาส่งเธอ แต่บอกว่าจะเข้าบริษัทในตอนเที่ยง

สือฮว่าหลับตาลง เธออยากรู้จริงๆว่าผู้หญิงแบบไหนที่สามารถทำให้ฮ่อฉวนสือแสดงอารมณ์อื่นบนใบหน้าได้ หวังว่าสักวันจะได้เห็น

อาจเป็นเขายืนอยู่ที่สูงเกินไป ด้วยท่าทางแบบนั้น ดังนั้นเธอเลยรอคอยช่วงเวลาที่เขาตกลงไปพื้นดิน อยากรู้จริงๆว่าภายในสองปีจะมีผู้หญิงที่ไหนรับมือผู้ชายคนนี้ได้

เธอคิดไม่ดี รถก็มาถึงบ้านตระกูลฮ่อแล้วและฮ่อฉินฉินก็รออยู่ที่ประตูแล้ว

"สือฮว่า เธอนี่ใหญ่จริงนะ ให้พี่ฉันดูแลเธอตั้งนาน ชาติที่แล้วเธอช่วยจักรวาลมาหรือไง?"

ฮ่อฉินฉินที่เข็นรถอยู่ด้านหลังก็ทำท่าจะอาเจียน

ถางหรงยังคงนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น ด้วยผมและเครื่องสำอางที่เบาบาง เหลือบมองเธอนิ่งๆและก็หันไป

"เธอกับฉวนสือเซ็นสัญญาสองปีกันจริงๆเหรอ?"

แม้ว่าจะเป็นประโยคคำถาม แต่น้ำเสียงของเธอก็มุ่งมั่น

สือฮว่าถึงกับผงะ แม้แต่คุณหญิงถางก็รู้เรื่องนี้แล้ว

"ใช่แล้วค่ะ อีกสองปีเราจะหย่ากัน"

ถางหรงเยาะเย้ยและค่อยๆลดแก้วในมือลง "ถ้าไม่ใช่เพราะคุณท่าน สัญญาสองปีนี้คงจะไม่มีอยู่จริง เธอโชคดีที่เข้าตาคุณท่าน ในเมื่อเซ็นสัญญาไปแล้ว ฉันก็จะไม่ทำอะไรเธอ อยู่อย่างสงบไปสองปีแล้วก็จากไป ทางที่ดีอย่าคิดเป็นอย่างอื่น"

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ถางหรงเตือนสือฮว่า เธอพูดแบบนี้ตั้งแต่วันแรกที่เธอแต่งเข้ามาในบ้านตระกูลฮ่อ

สือฮว่าพยักหน้าอย่างไม่ลังเล "คุณหญิงถางไม่ต้องห่วงค่ะ"

ท่าทีของสือฮว่าทำให้ถางหรงพอใจมากและเธอก็ผ่อนคลายลงในพริบตา ก็แค่สองปี พริบตาเดียวก็ผ่านไปแล้ว

ฮ่อฉินฉินที่ยืนอยู่ข้างหลังสือฮว่าก็เข้าใจแจ่มแจ้ง จนในที่สุดก็เบิกตากว้าง

"เธอบอกว่าเธอเซ็นสัญญากับพี่ฉันเหรอ?! พระเจ้า ที่แท้นิยายที่ฉันอ่านเมื่อคืนก็เป็นเรื่องจริง ท่านประธารผู้เอาแต่ใจได้เซ็นสัญญากับภรรยาของเขา ตอนแรกเขาก็ภูมิใจกับมันแล้วก็ไล่ภรรยา สุดท้ายนิยายก็มาจากชีวิตจริง ฮิฮิ พี่ฉันนี่เก่งจริง"

ใบหน้าของฮ่อฉินฉินเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความตื่นเต้น เธอชอบนวนิยายเรื่องนี้ไม่น้อย ผลคือดันเกิดกับคู่หนึ่งใกล้ตัวเธอ

เมื่อสือฮว่าได้ยินเธอพูด ในหัวก็พันกันยุ่งเหยิง คุณหนูตระกูลฮ่อวันๆดูอะไรกัน?

สีหน้าของถางหรงก็ดูไม่ดีและพูดอย่างช่วยไม่ได้ "ฉินฉิน ลูกควรหาอะไรทำได้แล้วนะ อย่าเอาแต่ออกไปเที่ยวเล่นทั้งวัน"

ฮ่อฉินฉินพองแก้มแล้วจ้องมอง "แม่อ่ะ ตระกูลเราร่ำรวยจะตาย ทำไมหนูต้องไปหาอะไรทำด้วย? ไม่มีอะไรต้องทำสักหน่อย"

สือฮว่ากลั้นยิ้มเมื่อเห็นคุณหญิงถางโดนบ่นเป็นครั้งแรก แถมเธอก็หมดคำจะพูด

ที่ฮ่อฉินฉินพูดก็บ่งบอกว่าเป็นลูกคนรวย แถมไม่ใช่ลูกคนรวยธรรมดา ทรัพย์สินของตระกูลฮ่อ เธอสามารถกินอยู่ได้หลายชั่วอายุคนด้วยซ้ำ

ผู้หญิงคนโตผู้เอาแต่ใจคงไม่สามารถเข้าใจถึงความทุกข์บนโลกนี้ได้ หากไม่ใช่เพราะความสามารถของตระกูลฮ่อ เกรงว่านิสัยแบบนี้จะอยู่รอดในสังคมยาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้