หลังจากไหว้หลุมศพนายท่านหม่าแล้ว ฉินหมิงก็ออกจากสุสานทันที ที่ทางเข้าสุสานเขาเห็นสาวสวยสวมชุดทำงานที่มีรูปร่างยั่วยวนเป็นอย่างมาก ตอนนี้ฉินหมิงรู้สึกสงสัยว่าดึกดื่นแล้วทำไมเธอไม่หลับไม่นอน กลับมายืนอยู่ที่ทางเข้าสุสานแถมแต่งเต็มขนาดนั้น จึงอดมองอยู่สักพักไม่ได้
คนสวยดูท่าทางไม่พอใจและพึมพำบางอย่างอย่าง "เหม็นกลิ่นคนจน" หรืออะไรทำนองนั้น
ในเมื่อก่อนฉินหมิงที่ได้ยินก็ไม่ได้ยี่หระอะไรอยู่แล้ว แต่วันนี้เขาเพิ่งกลายเป็นพ่อคน และยังถูกไล่ออกจากบ้านอีก ฉินหมิงรู้สึกไม่พอใจและอยากระบายออกมา เขารู้สึกหัวร้อนขึ้นมาทันที จึงเดินไปหาสาวสวยคนนั้นแล้วพูดอะไรบางอย่าง
“เฮ้ ออกมายืนรับแขกแต่วันเลยเหรอ? คืนเท่าไรล่ะ? วันนี้ฉันอารมณ์ดีนะ!”
อันที่จริงฉินหมิงไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าสักแดง ฉินหมิงพูดไปพลางเสียงสั่นไปเล็กน้อย เขากังวลว่าถ้าผู้หญิงคนนี้ทำอาชีพอย่างว่าจริง ๆ เขาก็ไม่มีเงินจะจ่าย
โชคดีที่หลังจากได้ยินแล้ว สาวสวยก็มีสีหน้าไม่สบอารมณ์และจ้องฉินหมิงเขม็ง
โชคดีไปที่เธอไม่ใช่อย่างว่า
ฉินหมิงแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก
วันนี้ฉินหมิงก็ถูกตระกูลหม่าทำให้โกรธไม่น้อย และสภาพอารมณ์ของเขาก็แย่อย่างถึงที่สุดแล้ว ยิ่งเห็นสายตาจ้องมาแบบนั้น เขาจึงพูดต่อไปอีก
“จ้องอะไร? ถามว่าคืนหนึ่งคิดเท่าไร?”
“ทำไม? ออกมาขายยังจะอายอยู่อีกเหรอ? จะบอกให้รู้ไว้นะ เมื่อก่อนฉันก็เคยเป็นหมอนะ เธอคิดจะเอาเปรียบฉันงั้นเหรอ!”
นี่ยิ่งทำให้ผู้หญิงคนนั้นโกรธมากขึ้นไปอีก และโพล่งถามว่า "นายชื่ออะไร? ทำงานอยู่ที่ไหน?"
“ฉันจะชื่ออะไรก็ตาม ก็คงไปบริการเธอถึงหน้าบ้านไม่ได้หรอกใช่ไหม?”
ฉินหมิงไม่ใช่คนโง่ เขาจะบอกรายละเอียดตัวเองทั้งหมดให้คนอื่นฟังได้อย่างไร
"นาย!!!"
ในเวลานี้ผู้หญิงคนนั้นโกรธมากจนหน้าแดงไปหมด แต่เธอก็ทำอะไรฉินหมิงไม่ได้ เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องวิ่งหนี ทำให้ฉินหมิงรู้สึกไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก
เมื่อหันกลับไป ตอนนั้นฉินหมิงเห็นชายหนุ่มสองคนแอบเข้าไปในสุสาน ในมือถือกระสอบและเชือกเอาไว้ เห็นได้ชัดว่ามีเจตนาที่ไม่ดี
เพราะมันมืดมากและมีต้นไม้กับป้ายหลุมศพบังไว้ พวกเขาจึงไม่เห็นฉินหมิง
ใครก็ตามที่มีตาก็รู้ได้ทันทีว่าคนสองคนนี้มีเจตนาชั่วร้ายอย่างเห็นได้ชัด
ฉินหมิงขมวดคิ้ว เดาว่าทั้งสองคนมาที่นี่และเล็งผู้หญิงคนนี้อยู่ก่อนแล้ว เขาจึงแอบตามไปดู เป็นไปตามที่คิดสาวสวยคนนั้นดูเหมือนจะรอใครบางคนอยู่ในสุสาน แล้วถูกสองคนนั้นโจมตีจากด้านหลังจับใส่ถุงกระสอบ พวกมันเอาถุงเท้าเน่า ๆ ยัดอุดปากเธอ หลังจากถูกจับใส่ลงในกระสอบ เธอก็ดิ้นรนขัดขืนแต่ก็ไม่มีประโยชน์เลยสักนิด
ต่อมาไม่นาน
ชายร่างกำยำคนหนึ่งจับผู้หญิงคนนั้นไว้ ขณะที่อีกคนนำหินก้อนใหญ่และหนักมามัดติดกับกระสอบที่ผู้หญิงอยู่ข้างใน
ชายทั้งสองยกก้อนหินขึ้น แล้วโยนลงแม่น้ำเสียงตู้ม
ฉินหมิงตาเบิกกว้าง!
นี่มันการฆาตกรรมชัด ๆ!
ฉินหมิงตกใจอยากจะหนีไปให้ไกล แต่เขากังวลว่าตัวเองจะทำเสียงให้สองคนนั้นรู้ตัว ดังนั้นเขาจึงซ่อนตัวอยู่หลังหลุมศพจนชายทั้งสองจากไป จากนั้นเขาก็โผล่ออกมาอย่างระมัดระวัง
หลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว ฉินหมิงก็ยังเลือกที่จะกระโดดลงไปในน้ำ แม้ว่าเขาจะขลาดกลัวแต่สิ่งที่เขาได้ร่ำเรียนมาตั้งแต่เด็กทำให้ไม่อาจทนเห็นผู้หญิงอ่อนแอตายต่อหน้าเขาอย่างไม่แยแสได้
ฉินหมิงรีบช่วยผู้หญิงคนนั้นขึ้นจากน้ำอย่างรวดเร็ว ฉินหมิงรีบแก้กระสอบโดยไม่สนว่าตัวเองจะเปียกและหายใจอย่างหนาวสั่น แต่ก็ไม่ได้สังเกตเห็นมีดสั้นคนร้ายที่เผลอทำหล่นเอาไว้อยู่ข้าง ๆ พวกเขา
อีกด้านหนึ่ง
ชายหนุ่มทั้งสองเดินไปตามถนนด้านนอกสุสานที่มีรถเอสยูวี สุดหรูระดับไฮเอนด์จอดอยู่
ทั้งสองขึ้นรถและกำลังจะออกไป พี่ซ่งเผลอจับรองเท้าบู๊ตของตัวเองและสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที
“แย่แล้ว มีดของฉันหายไป บางทีมันอาจจะตกริมแม่น้ำเมื่อกี้นี้…”
“มีรอยนิ้วมือบนมีดด้วย พวกเรารีบไปเก็บมันกลับมาเร็ว…”
ทั้งสองรีบวิ่งไปที่แม่น้ำ
…
หลังจากแกะถุงกระสอบแล้ว ผู้หญิงในกระสอบตัวเปียกปอนไปหมด เธอสวมชุดสีขาวและกระโปรงยาวถึงสะโพก เพราะเธอเปียกอยู่เสื้อผ้าจึงแนบเนื้อเผยให้เห็นสัดส่วนโค้งเว้าอย่างชัดเจน โดยเฉพาะชุดท่อนบน อาจเป็นเพราะมันเปียกจนเห็นเสื้อชั้นในลูกไม้สีดำตัวเล็กอยู่ข้างใต้
แจ่มดีจริง ๆ!
ฉินหมิงอดกลืนน้ำลายไม่ได้ เดิมทีเขาคิดว่าหม่าลู่ก็สวยพออยู่แล้ว แต่เขาไม่ได้คาดว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาจะสวยขนาดนี้ ถ้าเทียบระหว่างคนสองคนนี้ก็เหมือนไก่กับหงส์อย่างแน่นอน
แต่ตอนนี้ผู้หญิงคนนี้จมน้ำมาเป็นเวลานาน จนใบหน้าของเธอขาวซีดและไม่หายใจ เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น ฉินหมิงจึงกดหน้าอกของเธอไว้ด้วยมือข้างหนึ่งและช่วยผายปอด
คาดไม่ถึงเลยว่าหน้าอกของเธอว่านุ่มแล้ว ปากของเธอนุ่มกว่าซะอีก ทั้งยังมีความรู้สึกหวานฉ่ำเล็กน้อย
ฉินหมิงอดใจคิดเพียงเท่านี้
ในไม่ช้า สาวสวยที่ฉินหมิงช่วยก็ได้สติ
"แค่ก…"
ผู้หญิงคนนั้นสำลักน้ำออกมาหลายคำ แพขนตาของเธอสั่นเล็กน้อย และในที่สุดเธอก็ได้สติขึ้นมาอย่างช้า ๆ
สาวสวยที่ฟื้นได้สติขึ้นมารู้สึกถึงความอบอุ่นบนริมฝีปากตัวเองอย่างชัดเจน เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น เธอเห็นมือของฉินหมิงแตะที่ขาของเธอ เธอจึงถีบเขาอย่างแรงด้วยด้วยความโกรธ จนเขาตกลงไปในแม่น้ำ
และปากก็ยังด่าสาปต่อ
“นายคิดจะทำอะไรน่ะ? จะเอาเปรียบฉันล่ะสิ! คนบ้า น่าขยะแขยงจริง ๆ!”
ฉินหมิงถูกถีบตกน้ำอย่างไม่ทันตั้งตัว
ฉินหมิงตะเกียกตะกายอยู่ในน้ำสักพักและปีนขึ้นมาฝั่งอีกครั้ง ในตอนนี้สภาพเขาดูน่าเกลียดแย่ยิ่งกว่าเดิมซะอีก
วันนี้เขาได้รับความอยุติธรรมมากมาย เขามองผู้หญิงคนนั้นและไม่สนใจจะอธิบายอะไรอีกแล้ว แววตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
“ไม่มีผู้หญิงดี ๆ ในโลกนี้เลยสักคน!”
“ฉันใจดีอุตส่าห์มาช่วยเธอ ผายปอดให้เธอ เธอไม่พูดขอบคุณฉันสักคำ แล้วมาถีบฉันลงแม่น้ำแบบนี้เลยเหรอ?”
“เหอะ ๆ ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าเป็นคุณหนูใหญ่มาจากไหน วันนี้ฉันจะสั่งสอนเธอแทนพ่อของเธอเอง!”
หลังจากพูดจบฉินหมิงก็เดินเข้ามาหาเธอ ตอนนี้สาวสวยตื่นตระหนก ร่างกายของเธอสั่นไปหมด หน้าอกของเธอสั่นสะท้านและน้ำเสียงของเธอก็สั่นเทา “นาย อย่าเข้ามานะ!”
ในป่ารกทึบนี้แค่ทำอะไรกับเธอ แล้วโยนกลับลงไปในน้ำก็ไม่มีใครสามารถหาหลักฐานได้แล้ว
ฉินหมิงก็คว้าโทรศัพท์และกุญแจรถจากตัวเธอที่ชุ่มไปด้วยน้ำและเปิดเครื่องไม่ได้ จากนั้นเขาก็โยนมันลงบนพื้นอย่างแรงจนแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ จากนั้นเขาออกแรงก็ปากุญแจรถลงไปในน้ำ!
“นายคิดว่าเจ๋งนักรึไง?”
ฉินหมิงพูดด้วยความโกรธ "เธอไม่รู้จักเรื่องของหลี่ต้งปินเหรอ? ฉันปาโทรศัพท์ของเธอแตกกระจายเป็นชิ้น ที่นี่คือป่ารกทึบบ้านนอกสุด ๆ ตอนนี้เธอออกไปนั่งแท็กซี่ได้ไหมล่ะ? เธอจะทำอย่างไรต่อ? ตอนนี้เธอไม่มีโทรศัพท์ เรียกแท็กซี่ก็ลำบาก กุญแจรถก็หาย ประตูรถเปิดไม่ได้ เธออยากจะกลับบ้านเหรอ? เหอะ ๆ ฉันจะให้เธออยู่ที่นี้นี่แหละ ที่นี่เป็นสุสาน ตกกลางคืนผีออกมาอยู่กับเธอนี่แหละ หึ หึ ไม่ต้องห่วง เธอไม่เหงาแน่”
หลังจากพูดจบ ฉินหมิงก็เดินออกไป
สาวสวยตกใจสะดุ้งจนตัวสั่นไปหมด!
เธอร้องไห้พลางพูดไปว่า "อย่า อย่าทำแบบนี้นะ ฉันขอร้องล่ะ!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตารัก มรดกเซียน
รออัพเดท ตอนต่อ ๆ ไป ครับ...