ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 559

เหลิ่งชิงฮวนและมู่หรงฉีถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง

ฮ่องเต้จึงเปิดหัวข้อการสนทนา “จิ่นอวี๋ปรากฏตัวในหนานจ้าวได้อย่างไร”

เหลิ่งชิงฮวนตอบคำถามฮ่องเต้ชราตามคำบอกเล่าของน่าจาอี๋นั่วเมื่อครู่โดยไม่ปกปิด เพราะมีหลายอย่างยากจะปิดบังซ่อนเร้น

ฮ่องเต้นิ่งเงียบก่อนจะถอนหายใจ “เรื่องที่จิ่นอวี๋ทำร้ายชิงฮวนในตอนนั้นเป็นมีหลักฐานแน่นหนาไม่สามารถปฏิเสธได้ ข้าควรมอบนางให้พวกเจ้าสองคนจัดการถึงจะถูกต้อง ทว่าสุดท้ายจิ่นอวี๋ก็แต่งงานไปยังมั่วเป่ย หลังจากเกิดเรื่องในตอนนั้น เพราะความอัปยศอดสูของมั่วเป่ยจึงไม่ได้หารือเกี่ยวกับผลลัพธ์สุดท้ายของเรื่องนี้ ได้แต่ปล่อยมันไป จิ่นอวี๋ยังคงเป็นพระชายาแห่งมั่วเป่ยในนาม ดังนั้นหากเจ้าต้องการสังหารนาง ข้าคงตัดสินใจให้ในตอนนี้ไม่ได้ จำเป็นต้องรอจดหมายจากมั่วเป่ยเสียก่อนจึงจะตัดสินโทษได้”

แม้ว่าเหลิ่งชิงฮวนจะไม่เต็มใจ แต่ความกังวลของฮ่องเต้ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผลเสียทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้นความทุกข์ทรมานที่จิ่นอวี๋ประสบในหนานจ้าวหลายปีที่ผ่านมานั้นเลวร้ายยิ่งกว่าความตาย นางสมควรได้รับผลกรรมเช่นนั้น

มั่วเป่ยไม่ยอมรับผู้หญิงสกปรกอย่างจิ่นอวี๋อย่างแน่นอน แต่มันเป็นเพียงเรื่องของเวลา

ดังนั้นเธอจึงไม่พูดอะไรมาก ได้แต่ย้ำว่าแม้จิ่นอวี๋จะสิ้นฤทธิ์เดชไปแล้ว แต่พวกเขายังคงตกอยู่ในอันตราย จำเป็นต้องเฝ้าดูอย่างระมัดระวังอย่างถึงที่สุด

ฮ่องเต้พยักหน้าเห็นด้วย “วันนี้อาจกล่าวได้ว่าราชาแห่งหนานจ้าวได้สอนบทเรียนแก่ข้า ข้ารู้สึกยินดีมาก เมื่อเผชิญกับความถูกผิดครั้งใหญ่เจ้าสามารถเข้าใจความชอบธรรมได้อย่างแท้จริง โข้าคงจะวางใจที่จะมอบให้เจ้าดูแลรคหัวใจขององค์ชายหนานจ้าว ข้าเชื่อว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง”

เหลิ่งชิงฮวนไม่เข้าใจอยู่พักหนึ่งว่าฮ่องเต้พูดถึงบทเรียนอะไร แต่การชื่นชมเธอถือว่าเป็นเรื่องถูกต้องแล้ว

ฮ่องเต้โบกมือให้ทั้งสอง “หากไม่มีอะไรแล้วก็ออกไปเถอะ ฉีเอ๋อร์ เจ้าจงสั่งให้เสริมกำลังการลาดตระเวนในเมืองหลวงจับตาดูน่าจาอี๋นั่วทูตของหนานจ้าวอย่าให้สร้างปัญหาใดๆ ส่วนชิงฮวน... เจ้าต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจรักษาอาการป่วยขององค์ชายแห่งหนานจ้าว ข้าจะให้เสี่ยวอวิ๋นเช่อพักะอยู่ในวังชั่วคราว เจ้าจะได้ไม่เสียสมาธิ”

ชายชราเริ่มคิดถึงหลายชายอีกแล้ว

มู่หรงฉีรับคำสั่งและออกไปพร้อมกับเหลิ่งชิงฮวน

เมื่อมองไปที่แผ่นหลังของทั้งสอง ฮ่องเต้ก็ถอนหายใจยาว

วันนี้เขาเห็นน่าจาอี๋นั่วด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก เขามองออกทันทีว่าราชาและฮองเฮาหนานจ้าวกำลังเอาเมล็ดแตงโตและกับไข่มุกราวกับของล้ำค่าโดยไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบกับน่าเยี่ยไป๋แม้แต่น้อย

และเมื่อนึกถึงการกระทำที่ทำให้ชิงฮวนต้องลำบากเมื่อสองสามวันก่อน เขาก็รู้สึกตื้นตันในใจ

เขาจงใจลดความฉลาดของเหลิ่งชิงฮวน เพียงเพื่อทำให้ผู้หญิงอยู่ใต้อาณัติของผู้ชาย ดังคำกล่าวที่ว่าถึงที่สุดแล้วต้องพลิกกลับ จะทำให้ราชาแห่งหนานจ้าวรู้ตัวว่าตัดสินใจผิดพลาดหรือไม่

เขาขมวดคิ้วด้วยความรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย

ฮองเฮาเดินมาจากด้านหลังพร้อมกับถ้วยชาในมือ “เมื่อครู่หม่อมฉันเห็นว่าท่านดื่มเหล้าไปไม่น้อย เกรงว่าฤทธิ์เหล้าอาจทำให้ไม่สบายตัว ดื่มชาสักถ้วยสิเพคะ”

ฮ่องเต้ยกน้ำชาถ้วยนั้นขึ้นดื่ม “ทำไมเจ้ายังไม่ไปพักผ่อนล่ะ”

“เมื่อครู่หม่อมฉันเห็นจิ่นอวี๋กลับมาที่พระราชวัง หม่อมฉันเพียงอยากจะถามท่านว่าจะจัดการอย่างไร เห็นท่าทางอิดโรยของนางเช่นนั้นต้องเรียกหมอหลวงไปดูอาการหรือไม่เพคะ”

ฮ่องเต้ขมวดคิ้ว “นางมีความผิดติดตัว ต้องถูกส่งตัวเข้าตำหนักเย็นและอยู่ภายใต้การคุ้มกันอย่างเข้มงวด หากปราศจากคำสั่งของข้าจะไม่มีใครได้รับอนุญาตให้พบนางทั้งสิ้น”

“หากน้องฮุ่ยเฟยถามถึงล่ะเพคะ”

“หากนางยังมองไม่เห็นความจริง ทำตัวโง่เขลา จงปล่อยให้นางเจ้าตำหนักเย็นกับจิ่นอวี๋ไปเสียเลย”

ดวงตาขอฮองเฮาเป็นประกายก่อนจะถอนหายใจเบาๆ “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจิ่นอวี๋พบเจอเรื่องราวแย่ๆ มามากน้องฮุ่ยเฟยซึ่งมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนางคงจะทนเห็นจิ่นอวี๋ตกอยู่ในสภาพเช่นนั้นไม่ได้แน่เพคะ”

ฮ่องเต้ตอบรับในลำคอโดยไม่พูดอะไรต่อ

ฮองเฮาสังเกตคำพูดและสีหน้าของอีกฝ่าย เมื่อเห็นว่าฮ่องเต้ไม่มีสีหน้าใดๆ ไม่แสดงอาการดีใจหรือโกรธจึงถามอย่างระมัดระวัง “หม่อมฉันมิอาจรู้ได้ว่าวันนี้พระองค์จะทรงจัดการองค์หญิงแห่งหนานจ้าวอย่างไร แต่จะเป็นการดีที่สุดหากท่านส่งคนไปติดตามนางไว้ตลอดเวลา และการแต่งงานที่ฮ่องเต้กล่าวถึงเป็นวิธีที่ทรงปรีชาที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยเลยเพคะ”

ฮ่องเต้เขย่าใบชาในถ้วยอย่างช้าๆ ก่อนจะชำเลืองมองฮองเฮา “เจ้าคิดว่าใครเหมาะสมที่สุด”

“คนผู้นี้ต้องจงรักภักดีต่อองค์ฮ่องเต้ แต่ก็ต้องฉลาดเฉียบแหลมและระแวดระวัง ภูมิหลังครอบครัวของเขาไม่ควรต่ำต้อยจนเกินไป เขาต้องมีภูมิหลังครอบครัวที่โดดเด่นและมีบทบาทสำคัญในราชสำนัก หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว หม่อมฉันคิดว่าคงเหลือผู้ที่เหมาะสมเพียงไม่กี่คน”

ฮ่องเต้วางถ้วยชาในมือลง “คำพูดของเจ้าทำให้ข้านึกถึงเสิ่นหลินเฟิงจากจวนกั๋วกง”

ฮองเฮาตกตะลึง “แต่พระองค์ทรงประทานสมรสให้เสิ่นหลินเฟิงกับลี่ว์อู๋ไม่ใช่หรือเพคะ”

ฮ่องเต้ส่งเสียงประหลาดใจเบาๆ “อ้อ กฤษฎีกาของข้ายังไม่ออกมา ฮองเฮาได้ยินมาจากผู้ใดหรือ”

ฮองเฮาตกใจและก้มหน้าด้วยความตื่นตระหนก “หม่อมฉัน...หม่อมฉันได้ยินพวกข้ารับใช้โต้เถียงกัน ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องจริงหรือเท็จเพคะ”

ฮ่องเต้ตะคอกอย่างไม่พอใจ “เรื่องสำคัญขององค์หญิงเป็นสิ่งที่ทาสรับใช้ควรเอาไปซุบซิบนินทางั้นหรือ ดูเหมือนว่าพวกทาสรับใช้ในวังหลังสมควรจะได้รับโทษสินะ”

ฮองเฮาเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น ฮ่องเต้ไม่เคยใส่ใจถามเกี่ยวกับเรื่องเล็กน้อยของทาสเหล่านี้ เห็นได้ชัดว่าเขากำลังตำหนินางที่ยื่นมือเข้ามาแทรกแซง “ฮ่องเต้โปรดระงับความโกรธด้วยเพคะ หม่มฉันทำหน้าที่ไม่ดีเอง หม่อมฉันจะกลับไปไตร่ตรองและเคร่งครัดในระเบียบวินัยมากกว่านี้เพคะ”

“และอีกอย่าง...” ฮ่องเต้หยุดชั่วคราว “แม้ว่าฮูหยินของหลี่ซ่างซูจะมีความสามารถ แต่นางก็ไม่รู้คำทำนายและซ่อนสารส้มไว้กับตัวจริงหรือไม่ สารส้มที่นางหย่อนลงไปในน้ำเมื่อครู่มาจากไหนกัน

ข้าไม่เข้าใจเลยว่าฮูหยินของซ่างซูคนหนึ่งจะเก่งกาจได้ถึงเพียงนั้น ฮองเฮาควรสอบสวนห้องยาและห้องอาหารให้ดี ข้าคิดว่าคงจะเป็นสองห้องนี้แหละ”

ฮองเฮายิ่งลนลานมากขึ้น ก่อนจะตอบรับอย่างตะกุกตะกัก

“หม่อมฉันจะปฏิบัติตามคำสั่งและสอบสวนอย่างเคร่งครัดเพคะ”

ฮ่องเต้โบกพระหัตถ์ นางจึงถอยกลับไปอย่างรู้เท่าทัน

ฮ่องเต้สั่งเสียงต่ำด้วยความไม่พอใจ “ลู่กงกง เจ้าควรสอนคนรับใช้ในห้องตำราของข้าให้ดี”

ฮองเฮายิ่งหวาดกลัวมากขึ้นเมื่อรู้ว่าวันนี้นางทำให้ฮ่องเต้ขุ่นเคือง

ประการแรกคือนางไม่ควรจงใจทดสอบความคิดของฮ่องเต้ที่มีต่อองค์หญิงหนานจ้าว

ประการที่สองคือนางไม่ควรยื่นมือเข้าไปยุ่งในห้องตำราของฮ่องเต้เพื่อสอบถามข่าวคราว

ประการที่สามคือแม่นมของนางเป็นคนหาสารส้มนี้มาให้และมอบให้กับฮูหยินของหลี่ซางซู ทั้งนี้ก็เพื่อลบล้างสถานะของเสี่ยวอวิ๋นเชื่อ ในขณะเดียวกันหากมีอะไรเกิดขึ้นฮูหยินหลี่จะได้รับโทษแทนนางโดยตรง

แม้ว่าฮ่องเต้จะมาช้า แต่เขามีดวงตาฮันเฉียบ ดวงตาเย็นชาคู่นั้นราวกับเสียดแทงเข้าไปในใจของนาง

ฮ่องเต้พ่นถอนหายใจพลางขมวดคิ้วแน่น อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวล

เป็นฮ่องเต้นี่เหนื่อยจริงๆ และไม่ใช่เรื่องดีอะไรเลย

เขากำลังใกล้จะสิ้นอายุขัยและบางสิ่งกำลังใกล้เข้ามา เขาไม่อยากให้โศกนาฏกรรมแบบเดิมเกิดขึ้นอีกในอนาคต บางอย่างหากมีสัญญาณจำเป็นต้องหยุดมันทันที

การกลับมาของเหลิ่งชิงฮวนทำให้ราชสำนักที่เคยสงบสุขแต่เดิมเริ่มปั่นป่วน บางคนเริ่มอดกลั้นไม่ไหว

แม้แต่ชะตากรรมขององค์หญิงที่แต่งงานแล้วยังทำให้ฮองเฮารู้สึกติดใจและทดสอบท่าทีของเขา ท้ายที่สุดแล้ว เบื้องหลังของน่าจาอี๋นั่วมีส่วนเกี่ยวข้องกับหนานจ้าว

น่าเสียดายที่คนเหล่านี้ไม่เข้าใจความหมายเบื้องหลังของความวุ่นวายในงานเลี้ยงวันนี้ พวกเขามองไม่เห็นว่าพี่น้องหนานจ้าวทั้งสองคนได้กลายเป็นศัตรูกันแล้ว

มีเพียงเหลิ่งชิงฮวนเท่านั้นที่ฉลาดและสามารถประเมินสถานการณ์ได้ ซึ่งนั่นถือว่ามีประโยชน์อย่างใหญ่หลวง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา