ซุปเปอร์เจ้าสำราญ นิยาย บท 144

บทที่ 144 พ่อของคุณมาก็ยังต้องคุกเข่า

“อะไรนะ? นายบอกว่าจะซื้อสร้อยเส้นที่แพงที่สุดเหรอ?” ลู่เวยมองหลินอิ่งด้วยสีหน้าที่ดูถูก “นายมีเงินมากขนาดนี้เหรอ? นายรู้ไหมว่าสร้อยราคาแพงที่สุดของที่นี่ราคาเท่าไหร่?”

“ฮ่าๆ นายอยากตายเหรอไง? เศษสวะอย่างนายนี่คิดจะซื้อสร้อยราคาที่แพงที่สุด?” ฉินเฟยยิ้มเยาะ

ในเวลานี้เอง พนักงานขายในชุดพนักงาน มองดูหลินอิ่ง ถามขึ้นมาว่า: “คุณผู้ชาย ไม่ทราบว่าคุณพูดจริงเหรอ? สร้อยคอราคาแพงที่สุดที่นี่ของเราราคาเป็นหลักสิบล้าน ต้องสั่งจองกัน แล้วต้องแสดงหลักฐานทางการเงินที่เกี่ยวข้องด้วย จึงจะสามารถนัดผู้จัดการล่วงหน้าของเราได้”

“เฮ้อ... จะไปนัดทำเพื่ออะไร?” ฉินเฟยพูดด้วยความดูถูก “ดูสารรูปขาดวิ่นอย่างนี้จะซื้อไหวเหรอ? ให้ฉันเดานะว่าเขาคิดอย่างไร? ทำมาเป็นสั่งจอง พอทำเสร็จ สุดท้ายก็คืนสินค้า ทั้งที่พวกเขาสองคนก็ทำอัญมณี เรื่องนี้ใครบ้างไม่รู้?”

พูดเสร็จ ฉินเฟยมองหลินอิ่งอย่างยิ้มเยาะ ถามด้วยความสงสัยว่า: “บอกตามตรง นายจะมาไม้นี้ใช่ไหม? ทำเป็นสั่งจอง แล้วก็ไปขอให้ใครออกเงินไม่กี่พันหยวน เพื่อยกเลิกออเดอร์”

“มีวิธีแบบนี้ด้วยเหรอ?” ลู่เวยถาม

ฉินเฟยหัวเราะขึ้นมา พูดด้วยเสียงพิลึก: “เสี่ยวเวยจ๊ะ คุณต้องระวังด้วยนะ นี่เป็นวิธีที่ชายโฉดเขาใช้กันโดยเฉพาะ ตัวเองไม่มีเงินไม่มีความสามารถ แล้วก็ ทำเป็นไปเข้าร้านระดับไฮเอน จ่ายเงินนิดหน่อย ทำทีสั่งจอง ทำตัวเป็นเศรษฐีรุ่น2 ควงนางฟ้า”

“วิธีการของเศษสวะ เห็นมานักต่อนักแล้ว ต้องระวังนะ” พูดเสร็จ ฉินเฟยทำเสียงจึ๊ๆ แปลกๆ สายตามองดูหลินอิ่ง

“คุณพูดอะไรของคุณ ฉินเฟย พวกเราจะซื้ออะไร แล้วคุณยุ่งอะไรด้วย?” จางฉีโม่พูดด้วยความโมโห ทั้งหมดนี้เป็นการเดาที่ชั่วร้ายและสาดน้ำเน่าใส่กัน

“ผมพูดอะไร หรือไม่ใช่อย่างนี้?” ท่าทางฉินเฟยดูพูดเกินความจริง “จางฉีโม่ คุณโมโหอย่างนี้ คงไม่เพราะตอนนั้นเศษสวะหลินอิ่งก็ใช้วิธีนี้ ได้คุณมาไว้ในมือสินะ? ตอนนี้เสียใจแล้วสิ?”

“เป็นอย่างนี้จริงเหรอ? พี่ฉีโม่ งั้นพี่ต้องพูดแล้วล่ะ พวกเราจะหาทางเข้าข้างพี่ ไล่คนต่ำช้าอย่างหลินอิ่งไปซะ” ลู่เวยพูดอย่างเย้ยหยัน

“พวกเธอจะแน่สักแค่ไหนกัน? ก็แค่ซื้อสร้อยคอไม่ใช่เหรอ?” จางฉีโม่โกรธขึ้นมา มองไปยังพนักงานเคาน์เตอร์ “รบกวนคุณช่วยเอาสร้อยคอราคาสามแสนสักเส้นมาทีค่ะ”

ใช่คนเรามีอารมณ์กันได้ ประสาอะไรกับช่วงนี้เธอก็ได้โบนัสจากบริษัทไม่น้อย จะซื้อไม่ไหวเลยเหรอไง

“เดี๋ยวก่อน ถอยไปซะ!” ฉินเฟยมองพนักงานสาวเคาน์เตอร์อย่างวางท่า

“ค่ะ คุณชายฉิน” สีหน้าพนักงานเคาน์เตอร์สาวหวาดกลัวถอยหลังไป2ก้าว ไม่กล้าคุยเรื่องซื้อขายกับจางฉีโม่อีกเลย

ในเวลานี้เอง ก็มีชายหนุ่มสวมสูทคนหนึ่ง หน้าตาน่าเกรงขาม เดินออกมาด้วยรอยยิ้ม กำลังจะทักทายหลินอิ่ง เห็นพวกฉินเฟย จึงเกิดความสงสัยขึ้น

ฉินเฟยพูดด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่อง: “จางฉีโม่ อย่าคิดนะว่ามีเงินแล้วจะซื้อได้ ฉันจะบอกพวกเธอสองคนว่า คุณชายอย่างฉันเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของที่นี่ ตระกูลฉินของฉันมีหุ้นอยู่ที่นี่ ฉันจะบอกกฎให้พวกเธอรู้ สร้อยคอร้านนี้ ไม่ขายให้สุนัขกับหลินอิ่ง อ้อ แล้วก็จางฉีโม่ด้วย!”

“ฮ่าๆ! พี่ฉี่โม่พี่เห็นแล้วยัง มีเงินแค่หยิมเดียวไม่ได้ช่วยอะไร พี่จะซื้อก็ซื้อไม่ได้” ลู่เวยพูดความได้ใจ รู้สึกตัวเองได้หน้าเหลือเกิน ที่สามารถเด่นต่อหน้าจางฉีโม่ได้

“พวกเธอพูดอะไรกัน!” จางฉีโม่โมโหจนกระทืบเท้า สีหน้าเต็มไปด้วยความอัดอั้น

สีหน้าหลินอิ่งราบเรียบ มองผ่านไปยังผู้ชายที่อยู่ข้างหลังฉินเฟย

ถ้าหมอนี่ไม่มา เขาคงจะถอนฟันฉินเฟยไปแล้ว แต่ในเมื่อมีคนมา ก็ให้โอกาสเขาได้แสดงหน่อยก็แล้วกัน มือตัวเองจะได้ไม่สกปรก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์เจ้าสำราญ