พ่อฮะ หนูจับได้หม่ามี๊คนหนึ่ง
บทที่173 ความรู้สึกเสียใจในวัยเยาว์1
บทที่173 ความรู้สึกเสียใจในวัยเยาว์1
“ภรรยา! สู้ๆ!”
“หม่ามี๊! สู้ๆ!”
“โอเค! ฉันจะสู้นะ!”การแข่งขันมีกำหนดจัดขึ้นตอนบ่ายสามโมงครึ่ง เสร็จแล้วยังมีงานเลี้ยงต่อ
การแข่งขันใหญ่ระดับนานาชาติ ความเกี่ยวข้องอะไรก็ตามล้วนรอบคอบมากๆ ดังนั้นไม่ว่าผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไร ผู้เข้าร่วมแข่งขันต่างมีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้ประสบความสำเร็จในสายอาชีพ
แรงดึงดูดของการแข่งขันอยู่ตรงนี้
นักออกแบบทุกคนล้วนหวังที่จะคว้าโอกาสนี้ไว้ ทำออกมาให้ดี ถ้าสามารถหาคนที่มีความสามารถของตัวเองได้ก็จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
“ตอนบ่ายพวกคุณก็ไปเลยนะ”เฉียวอวี่ถงถือถุงออกมาสองใบ “ใส่นี่ด้วยล่ะ”
เฉียวอวี่ถงออกแบบชุดครอบครัวสามคนพ่อแม่ลูก……
“ได้เลย!”
เฉียวอวี่ถงลงรถแล้วเดินเข้าตึก
อาจิ่นมองเสื้อผ้าแล้วมองฉินลี่เยี่ย “ป่าปี๊ วันนี้หนูไม่ไปเรียนได้ไหม? เราตั้งใจรอหม่ามี๊แข่งกันเถอะ”
หาเหตุผลได้ไม่เลว เพียงแต่การไม่ยอมไปโรงเรียนนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดี
“ทำไมถึงไม่ชอบไปโรงเรียน? ห้ามบอกป่าปี๊ว่าเป็นเพราะการแข่งขันของหม่ามี๊เด็ดขาด
เป็นการแข่งขันของเธอ ไม่ใช่การแข่งขันของลูก ลูกไม่ต้องเตรียมตัว!”
“……หนู เห้อ ไปเรียนไม่น่าสนุกเลย”ช่วงนี้คุณครูมักจะเอาเพลงเด็กไร้สาระมาให้พวกเขาร้อง รู้สึกโง่เง่า แม้ว่าทุกคนก็เป็นเหมือนกันแต่เขาไม่มีสามารถยอมรับได้
ฉินลี่เยี่ยหัวเราะ “เพลงเด็กอะไร?”
“ก็พวกเพลงรังนกน้อย,เอ๋อๆๆ พวกนั้นแหละ โง่จัง……” อาจิ่นรู้สึกว่าตัวเองถูกทำร้ายอีกแป็ปเดียวก็จบเห่แล้ว ทนไปเรียนให้หูตัวเองอื้อไม่ได้
“ฮ่าฮ่าฮ่า……” ตอนเด็กๆฉินลี่เยี่ยก็เกลียดอะไรพวกนั้นมากเหมือนกัน ตอนเด็้กๆเขาไม่ชอบนิทานกล่อมเด็กและของเด็กๆพวกนี้เหมือนกัน “แต่นิทานเด็กกับเพลงเด็กที่พวกลูกเรียนก็ดูเหมือนไม่ต่างกันมากนะ ทำไมลูกถึงชอบนิทานแต่ไม่ชอบเพลงเด็กล่ะ?”
“มันโง่!”
แม้อาจิ่นจะยังอายุน้อย แต่มีหลักการที่ชัดเจน
“ช่างเถอะ ไม่ไปก็ไม่ไป”ฉินลี่เยี่ยพอจะเข้าใจความคิดของลูก เห็นลักษณะของตัวเองในอดีต
……
ในบริษัท ผู้ที่เข้ารอบรองชนะเลิศยุ่งมาก คนที่ไม่เข้ารอบรองชนะเลิศก็ยุ่งไปด้วย
“ทุกคนเตรียมตัวเป็นอย่างไรบ้าง?”หวินอี้ยืนอยู่หน้าสุดของห้องทำงาน “ไม่ต้องเครียดกันนะ ผลลัพธ์ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือกระบวนการ ไม่ว่าอย่างไรนี่ก็เป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือนในชั่วชีวิตการทำงาน”
“ผู้อำนวยการคะ ตอนนั้นคุณเป็นแชมป์ ตอนี้พวกเราแค่เข้ารอบรองชนะเลิศ ระดับยังห่างกันไกลเลย”
“ฮ่าๆ พวกเธอเป็นคลื่นลูกใหม่ มั่นใจในตัวเองหน่อย!”
หวินอี้ทำให้บรรยากาศปลอดโปร่งขึ้นมาก!
และอยู่ตอบคำถามของผู้เข้าแข่งขันตลอดทั้งบ่าย
ตอบคำถามอธิบายเรื่องที่ต้องของทุกคนอย่างอดทน
“การคัดเลือกในการแข่งขันไม่ใช่แค่นักออกแบบที่โดดเด่นในขณะนี้ แต่ยังคัดเลือกนักออกแบบที่มีศักยภาพด้วย พวกเธอต้องแสดงตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง เอาความสุดยอดของตัวเองออกมาแสดง!”ประสบการณ์ของคนที่มาตอนนี้ดูโชกโชนมาก
“ถงถง สามีของฉันบอกว่ารอให้ลการแข่งขันประกวดการออกแบบเสื้อผ้าสากลออกมาแล้วพวกเราจะเเต่งงานกัน”
“ยินดีด้วยนะ”เฉียวอวี่ถงแสดงออกอย่างจริงใจ
ตอนแรกคิดว่าซือฉีสนใจแต่เงิน ต่อมาค่อยๆพบว่าคู่หมั้นของเธอเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความทะเยอทะยานไม่เลวเลย ดีกับเธอมาก
“ก็คือพอฉันเป็นเพื่อนเจ้าสาวเสร็จก็แต่งงานเลย คิดแล้วก็ตื่นเต้น”
เฉียวอวี่ถงเชิญซือฉีมาเป็นเพื่อนเจ้าสาว เธอตอบรับอย่างดีใจ
“พวกเธอรู้สึกอย่างไรบ้าง?”โม่หวนและเฉียวอวี่ถงพวกเขาคุ้นเคยกันมาก “เห้อ ทำไมฉันถึงประหม่ามากมายอย่างนี้”พูดกันว่าผู้ชายจะใจเย็นกว่าไม่ใช่เหรอ?
สถานที่แข่งขันคือโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในเมืองจิ่นเฉิง——จิ่นเซู่เฉิน
ผู้เชี่ยวชาญจัดพื้นที่สำหรับงานเลี้ยง
“เป็นนักออกแบบนี่ดีจริงๆ ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะมีโอกาสมาโรงแรมที่ใหญ่โตหรูหราอย่างนี้”ที่ซือฉีพูดก็ไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผล ค่าบริการของจิ่นเซู่เฉินไม่ใช่ว่าคนมีเงินธรรมดาจะมาใช้บริการกรได้ อย่างนั้นต้องเป็นมหาเศรษฐีระดับสูงที่มีเงินมหาศาล
แต่อีกไม่นานซือฉีมีโอกาสมาที่นี่อีกเร็วมาก
เพราะงานแต่งของเฉียวอวี่ถงและฉินลี่เยี่ยจัดขึ้นที่นี่
จิ่นเซู่เฉินก็เป็นธุรกิจของบริษัทหยวนหยางกรุ๊ป……
จัดงานแต่งที่บ้านของตัวเอง ไม่มีอะไรต้องพูดว่าหรูหราหรือไม่หรูหรา แต่ตอนนี้เฉียววี่ถงยังไม่เข้าใจอะไรพวกนี้
แต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่สนใจไม่เคยถามว่าฉินลี่เยี่ยมีเงินเท่าไร มีธุรกิจอะไรบ้าง
นักออกแบบที่ด้านหลังเวทีล้วนเตรียมพร้อมแล้ว รอตัวเองออกไป
ที่งานคนเยอะมาก คนเก่งๆในการแข่งขันครั้งก่อน นักออกแบบอาวุโสในสายงาน นักข่าว ผู้คนในวงการแฟชั่น
ได้เวลาแล้ว
พิธีกรขึ้นเวที ไฟสว่างขึ้น
“เอาล่ะครับ การแข่งขันของพวกเราเริ่มขึ้น ณ บัดนี้ ทุกอยู่ในความสงบนะครับ”
พิธีกรสองคน
“ว้าว”
ด้านหลังเวทีมีโทรทัศน์ที่สามารถถ่ายทอดการบันทึกภาพสดที่เวทีได้
“ไอดอลของฉัน!”คนที่ตกใจไม่ใช่สวาน้องคนนั้น แต่เป็นโม่หวน “พี่เชียนของฉัน”
เฉียวอวี่ถงมองไปที่พิธีกรชายบนจออย่างละเอียด “หล่ออยู่นะ”
“หล่อมากมาย!”ความติ่งระเบิดออกมาครู่หนึ่ง “ไม่ต้องรั้งฉัน อีกเดี๋ยวฉันจะไปเซ็นชื่อ!”ขณะพวกเขากำลังคุยกันอย่าง