3 แฝดหัวใสกับหัวใจ 5 ดวง นิยาย บท 33

นีร่าไปพูดคุยกับคนที่ศูนย์วิจัย หลังจากนั้นเธอก็ไปที่โรงพยาบาลเกรซ

อิซาเบลล่าดีใจมากเมื่อนีร่าโทรศัพท์มาหาและรีบไปที่ล็อบบี้เพื่อเจอเธอ

“ในที่สุดเธอก็กลับมาที่คิงส์วิวแล้วนีร่า ฉันคิดถึงเธอเหลือเกิน” อิซาเบลล่าพูดอย่างตื่นเต้นและกอดนีร่าไว้แน่น

ครั้งสุดท้ายที่พวกเธอสองคนเจอกันคือก่อนที่นีร่าจะออกจากประเทศไป อิซาเบลล่าเคยขอให้นีร่ากลับมาหลายต่อหลายครั้งแต่นีร่าไม่เคยตกลงเลย

ตอนนี้อยู่ๆ นีร่าก็กลับมาโดยที่ไม่บอกไม่กล่าวทำให้เธออดพูดอย่างโมโหไม่ได้ว่า “ทำไมก่อนหน้านี้ตั้งหลายปีเธอถึงไม่กลับมาที่คิงส์วิวและมาเยี่ยมฉันฮะ ฉันอาจจะลืมเธอไปแล้วก็ได้ เธอยังคิดว่าฉันเป็นเพื่อนสนิทเธออยู่หรือเปล่า”

นีร่ารู้ว่าอิซาเบลล่าแค่แกล้งแหย่เธอเท่านั้น เธอจึงจับมืออีกฝ่ายไว้และยิ้ม

“ถ้าฉันไม่ได้คิดว่าเธอเป็นเพื่อน ฉันคงไม่มาหาเธอทันทีหลังจากเพิ่งกลับมาอยู่อย่างถาวรได้แค่สองสามวันหรอก” เธอตอบ

พวกเธอไปที่ห้องทำงานของอิซาเบลล่าและพูดคุยกัน

หลังจากตื่นเต้นดีใจในตอนแรก อิซาเบลล่าก็บอกว่า “ฉันพยายามให้เธอกลับมาที่คิงส์วิวตลอดแต่เธอก็เอาแต่ปฏิเสธ คราวนี้อะไรทำให้เธอกลับมาล่ะ มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า”

นีร่าไม่ได้ปกปิดเป้าหมายของเธอกับอิซาเบลล่า “ฉันกลับมาช่วยคุณป้าดูแลศูนย์วิจัยในคิงส์วิวน่ะ แล้วก็... ฉันยังอยากจะกลับมาทวงคืนหุ้นที่แม่ทิ้งไว้ให้ฉันด้วย”

อิซาเบลล่ารู้ดีว่าสถานการณ์ในตระกูลนีร่ายุ่งเหยิงแค่ไหน เธอจึงพยักหน้าและบอกว่า “ใช่แล้ว นั่นคือสิ่งที่พวกเขาติดค้างเธออยู่ และเธอควรเอาสิ่งที่เป็นของเธออย่างชอบธรรมไป แต่นั่นหมายความว่าเธอจะย้ายกลับมาที่คิงส์วิวถาวรเลยใช่มั้ย เยี่ยมไปเลย ทำไมเธอไม่มาทำงานที่โรงพยาบาลของฉันเวลาเธอว่างล่ะ”

ตอนแรกนีร่าตั้งใจจะปฏิเสธแต่อิซาเบลล่าไม่ยอมให้เธอทำแบบนั้น

“ฉันไม่สน ฉันเก็บตำแหน่งไว้ให้เธอแล้ว ตอนอยูที่เอสลีย์เธอปฏิเสธฉันมามากพอแล้ว ในเมื่อตอนนี้เธอกลับมาแล้วฉันจะไม่ปล่อยให้เธอไปไหนอีก แล้วก็ ฉันต้องขอให้เธอช่วยครั้งใหญ่ด้วย...”

นีร่ารู้ว่าอิซาเบลล่าคงจะไม่ยอมหยุดพูดเรื่องนี้ถ้าเธอไม่ตกลง ดังนั้นเธอจึงพยักหน้าและบอกว่า “ก็ได้ ก็ได้ ฉันจะฟังที่เธอพูด เธอต้องการอะไรจากฉัน”

“ฉันมีคนไข้ที่ต้องผ่าตัดเอาเนื้องอกในสมองออก อัตราความสำเร็จในการผ่าตัดมีไม่ถึง 30 เปอร์เซ็นต์...” อิซาเบลล่าเริ่มอธิบายสถานการณ์ของเธอให้นีร่าฟัง

“เธอก็น่าจะรู้ว่าฉันมาจากตระกูลที่เป็นหมอใช่ไหม การต่อสู้ในตระกูลฉันช่วงสองปีที่ผ่านมามันรุนแรงมาก พ่อของฉันค่อยๆ ถูกริดรอนอำนาจ และกำลังจะสูญเสียการบริหารโรงพยาบาลแห่งนี้ให้กับลูกพี่ลูกน้องของฉัน การผ่าตัดครั้งนี้จะเป็นโอกาสสุดท้ายในการช่วยพ่อฉัน ถ้าฉันทำสำเร็จ ฉันจะได้เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลในอนาคต แต่ถ้าล้มเหลว…”

นีร่าเข้าใจว่าอิซาเบลล่าต้องการจะพูดอะไรแม้เธอจะยังพูดไม่จบประโยคก็ตาม

ถ้าการผ่าตัดล้มเหลว อิซาเบลล่าก็จะหมดสิทธิในการต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจในการบริหารโรงพยาบาล

“เป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้วที่ต้องช่วยชีวิตคนไข้ และฉันก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการช่วงชิงอำนาจพวกนี้ แต่โรงพยาบาลแห่งเป็นผลงานทั้งชีวิตของพ่อฉัน และฉันก็ไม่อยากให้มันตกไปอยู่ในมือคนอื่น”

นีร่ารู้สึกสงสารอิซาเบลล่า เธอนึกออกเลยว่าหล่อนต้องเผชิญหน้ากับศัตรูกี่คนจากตระกูลของตัวเอง

“ฉันไม่รู้ว่าเลยว่าเธอกำลังเผชิญกับปัญหาร้ายแรงขนาดนี้ ทำไมเธอไม่บอกฉันก่อนหน้านี้ล่ะ” เธอพูด

อิซาเบลล่ายิ้มแหยๆ “ฉันไม่อยากรบกวนเธอน่ะแต่ฉันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว... อีกอย่าง เธอก็เป็นหมอคนเดียวที่จะสามารถเพิ่มโอกาสในการผ่าตัดสำเร็จให้มากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ได้”

ฮาร์วีย์เอากระเป๋าเอกสารจากมือนีร่าไปวางไว้ “แม่ครับ งานของแม่เรียบร้อยดีหรือเปล่าครับ”

นีร่าใจละลายเมื่อเห็นเด็กน่ารักทั้งสามคน เธอยิ้มและพยักหน้า “จ้ะ มันเรียบร้อยดี”

แซมมี่ซึ่งถือจอยเล่นเกมส์อยู่ในมือข้างนึง และเอามืออีกข้างนึงจูงมือนีร่าไปนั่งที่โซฟา “แม่ต้องเหนื่อยแน่ๆ เลย แม่พักก่อนนะครับ”

เพนนีปีนขึ้นไปนอนขดตัวอยู่บนตักของเธอ “แม่คะ ก่อนหน้านี้แม่ไปเยี่ยมแม่ทูนหัวมาหรือเปล่าคะ ทำไมเธอไม่มาที่นี่พร้อมกับแม่ล่ะคะ”

นีร่ากอดเด็กหญิงตัวน้อยไว้และยิ้ม

“เธอยังยุ่งอยู่นะจ้ะ แม่บอกเธอแล้วว่าให้มาเยี่ยมพวกลูกทั้งสามคนตอนที่เธอว่างด้วย”

“เย้” แฝดสามส่งเสียงด้วยความยินดี “เราไม่เจอเธอมานานแล้ว พวกเราคิดถึงเธอครับ/ค่ะ”

นีร่าทำอาหารกลางวันให้แฝดสาม หลังจากนั้น เธอพาพวกเขาไปนอนกลางวันที่ห้องก่อนจะกลับลงมานั่งอ่านเวชระเบียนคนไข้ที่โซฟาด้านล่าง

ในขณะเดียว อิซเบลล่าก็ประกาศว่า ดร.แนนซี่จะมาผ่าตัดที่โรงพยาบาลเกรซ

เมื่อเอียนรู้เรื่องนั้น เขารีบไปรายงานฌ็องทันที

ฌ็องซึ่งกำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องทำงานหันมาหาเอียนและบอกว่า “ข้อมูลนี้เชื่อถือได้แค่ไหน”