ตอน บทที่ 1 จาก บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 1 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายแฟนตาซี บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่ ที่เขียนโดย ชวินเป่ยอี๋ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
“ไม่อร่อยเลยสักนิด”
เมื่อได้เคี้ยวข้าวสาลีผสมถั่ว หวังหยวนวางชามดินเผาลง รู้สึกเหมือนกินแกลบไม่มีผิด
ตอนนี้ใครมาบอกว่าการข้ามกาลเวลามันดี เขาก็พร้อมที่จะบอกความในใจให้พวกเขา
ข้ามกาลเวลามาถึงช่วงราชวงศ์ต้าเย่ คล้ายช่วงยุคสมัยโบราณของจีน
เจ้าของร่างเดิมเป็นเป็นเจ้าของที่ดินเล็ก ๆ ตอนที่พ่อแม่ยังอยู่ ตอนเช้าได้กินข้าวต้มข้าวฟ่าง เที่ยงได้กินข้าวผสมข้าวฟ่าง ตอนเย็นได้กินเซาปิ่งพร้อมธัญพืชผสม ทุก ๆ สิบวันหลังจากกลับมาจากโรงเรียนในเมือง ถึงจะได้กลับมากินให้หายอยากได้
สำหรับคนทั่วไป แต่ละวันกินข้าวต้มข้าวฟ่าง หรือข้าวสาลีผสมถั่ว ส่วนเนื้อนั้นในช่วงปกติอย่าไปคิดถึงมันเลย คงมีแค่ช่วงฉลองตรุษจีนเท่านั้นถึงจะได้กินเนื้อบ้าง
ส่วนแป้งและข้าวสารนั้นเป็นที่นิยมของเจ้าของที่ดิน คหบดีและขุนนาง
นึกถึงพวกไข่ เนื้อหมู ไก่ ปลา บนโลกที่ถูกทิ้ง หวังหยวนอดที่จะตีตัวเองไม่ได้
น้ำเสียงที่ฟังดูขลาดกลัวของคน ๆ หนึ่งดังขึ้น “ท่านพี่ ขอโทษนะ ในบ้านไม่มีข้าวฟ่างแล้ว ให้ท่านที่เป็นบัณฑิตเพิ่งหายป่วยกินข้าวสาลีผสมถั่วเช่นนี้?”
แววตาของหวังหยวนมีประกายขึ้นมา สาวน้อยคนสวยที่ท่าทางขี้ขลาดยืนอยู่หน้าห้องโถง
อายุสักประมาณสิบเจ็ดสิบแปดปี ร่างนางสูงโปร่งน่าจะสักหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนได้ งดงามอ่อนช้อยเหมือนดั่งภาพวาด
นางสวมชุดตัวนอกสีแดง กระโปรงผ้าสีเขียว และรองเท้าปักลาย เธอแต่งตัวอย่างสุภาพด้วยเสน่ห์เรียบง่าย แต่ราวกับว่าเหมือนเดินออกมาจากภาพวาดในหนังสือที่ผ่านฝุ่นผงออกมาอย่างนุ่มนวล
แต่รูปหน้าเรียวเล็กเหมือนเม็ดแตงนั้นกลับซีดเซียว เส้นผมดูแห้งกรอบราวกับเป็นโรคขาดสารอาหาร
นี่คือภรรยาของเจ้าของร่างเดิม หลี่ซื่อหาน เป็นสาวงามอันดับหนึ่งในเมืองฝู เป็นคนที่เจ้าของร่างเดิมไม่อาจเอื้อมแต่งงานได้ด้วยซ้ำ
ในตอนนั้นตระกูลหลี่ประสบหายนะใหญ่ฆ่าล้างตระกูล จึงคิดให้ลูกสาวแต่งออกไป เพื่อหลีกเลี่ยงหายนะในครั้งนั้น
แต่ไม่มีใครในเมืองกล้าแต่งด้วย เว้นเสียแต่คนนั้นจะมีร่างกายเป็นเหล็ก
ผลคือในวันแต่งงานนั้น พ่อของหลี่ซื่อหานสามารถก้าวผ่านวิกฤตมาได้ และตระกูลหลี่ต้องการจะยกเลิกงานแต่ง
อย่างไรก็ตาม หลี่ซื่อหานปฏิเสธอย่างแน่วแน่ และตัดสินใจว่าสามีและภรรยาจะอยู่ด้วยกันจนกว่าชีวิตจะหาไม่
ไม่ว่าจะเป็นความตกใจของครอบครัวหลี่ที่ต้องการยุติการแต่งงาน หรือความเจ็บป่วยบางอย่างในร่างกายของบุคคลเดิม
ทั้งคู่แต่งงานมาสามปีแล้ว แต่ไม่เคยร่วมหอกันเลย!
เมื่อวานเจ้าของร่างเดิมจู่ ๆ ก็ป่วยหนัก หวังหยวนจึงได้เข้ามาครองร่างเขาเมื่อเช้านี้
มองเห็นสาวน้อยร้องไห้ขี้มูกโป่ง หวังหยวนจึงลุกขึ้นยื่นมือออกไป
“อ๊า!”
หลี่ซื่อหานคุกเข่าคู้ตัวเอามือกุมศีรษะไว้และร้องไห้ "ท่านพี่อย่าตีข้าเลย สินเดิมของข้าขายหมดแล้วจริง ๆ!"
มือของหวังหยวนหยุดค้างอยู่กลางอากาศ
บุคคลิกของเจ้าของร่างเดิมได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ
ไม่เรียนหนังสือ สอบเป็นขุนนางเคอจวี่ วัน ๆ เอาแต่กินดื่มสำมะเลเทเมา ใช้จ่ายทรัพย์สินเงินทองอย่างสุรุ่ยสุร่าย
เขาข่มเหงรังแกภรรยาผู้งดงามของเขาด้วยวิธีต่าง ๆ นานา ไม่เพียงแต่ขายสินเดิม แต่ยังบังคับให้นางกลับไปที่บ้านแม่ของนาง เพื่อยืมเงินมาให้เขาไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ทำให้นางทุกข์ทรมาน ร้องไห้น้ำตานองมาตลอด
หลี่ซื่อหานคิดว่านี่คือการร่วมสุขร่วมทุกข์ของชีวิตคู่
นางไม่เพียงไม่หนีหาย แต่ยังลากสังขารที่บาดเจ็บและอ่อนล้ามาปรนิบัติรับใช้เจ้าของร่างเดิม
"ท่านพี่อย่าตีข้า ข้าจะคิดหนทางหาเงินซื้อเหล้าซื้อเนื้อมาให้ท่าน!"
ใบหน้าเรียวเล็กเหมือนเม็ดแตงนั้นพนมมืออ้อนวอนขอร้อง หลี่ซื่อหานร้องไห้น้ำตาร่วงพรูเหมือนดอกสาลี่พรำฝน
"ข้าไม่อยากกินเหล้ากินเนื้อ จมูกเจ้าเปื้อน ข้าแค่จะช่วยเช็ดให้!”
เขาช่วยประคองหลี่ซื่อหานขึ้น หวังหยวนใช้แขนเสื้อเช็ดเขม่าถ่านที่เปื้อนจมูกนาง
หลี่ซื่อหานยิ่งรู้สึกหวาดกลัวมากขึ้นไปอีก!
ในช่วงสามปีที่ผ่านมา สามีนางทั้งตบตีและดุด่า บางครั้งก็พูดจาไพเราะ เกลี้ยกล่อมให้นางเอาสินสอดไปจำนำ หรือให้นางกลับไปบ้านแม่เพื่อขอยืมเงิน!
วันนี้อ่อนโยนได้ขนาดนี้ ต้องไถ่เงินนางเป็นแน่!
หวังหยวนพูดขอโทษด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “เมื่อก่อนข้าผิดเอง วันหลังข้าจะไม่ตีเจ้าอีก!”
“ฮือ ๆ"
หลี่ซื่อหานน้ำตาคลอเบ้า “ท่านพี่ ท่านยืมเงินจากข้างนอกไปเท่าไหร่ ฤดูร้อนกลับบ้าน พี่ชายข้าบอกว่าจะไม่ให้ข้ายืมอีกแม้แต่แดงเดียว!”
หวังหยวนฝืนยิ้ม “ข้าไม่ได้ยืมเงินข้างนอก ไม่ให้เจ้ากลับบ้านแม่ไปยืมเงินด้วย!”
หลี่ซื่อหานยังคงสงสัยอยู่ “จริงรึ?”
หวังหยวนพยักหน้า “เชื่อข้าสิ!”
สาวน้อยที่ดีเช่นนี้ เอาตะเกียงส่องหาบนโลกก็ยังหาได้ยากยิ่ง
ทำไมเจ้าของร่างเดิมไม่รู้จักทะนุถนอมกันนะ
เพิ่งพูดจาดี ๆ กับหลี่ซื่อหาน เจ้าของร่างเดิมก็ทำเรื่องงามหน้าไม่ต่างจากพายุฝนฟ้าร้องเลย
ความเป็นอยู่ของผู้คนในเฉิงโจวนั้นยากจน และคนงานที่แข็งแรงสามารถหารายได้เพียงสามสิบหรือสี่สิบอีแปะต่อวันเท่านั้น
หนึ่งพันอีแปะเท่ากับหนึ่งกว้าน สามสิบกว้านไม่นับว่าเป็นดอกเบี้ย กรรมกรที่แข็งแรงต้องทำงานเป็นเวลาสามปี ไม่นับค่ากินดื่ม ค่าภาษีมหาโหด และการถูกเรียกเข้าเกณฑ์อีก
เงินจำนวนมากเช่นนี้ ทำให้เขาที่เรียนปริญญาเอกสองใบในสาขากลศาสตร์ และวัสดุศาสตร์ถึงกับต้องปวดหัว!
หลิวโหย่วไฉหรี่ตามองหลี่ซื่อหาน "สาวน้อย เจ้าหย่าแล้วมาแต่งกับข้าแล้ว ข้าประกันว่าให้เจ้าได้เลยว่า เจ้าจะกินดีอยู่ดี ไม่ต้องมาทนทุกข์ทรมานกับผู้ชายเสเพลคนนี้อีก!"
เพล้ง!
เพล้ง!
หลี่ซื่อหานหันกลับมามองหวังหยวน น้ำตาไหลอาบนองหน้านาง และทุบพื้นกระเบื้องนั้น
ที่สุดแล้วก็พลาดหลงเชื่อสามี!
สามีข่มเหงรังแกนางอย่างไรก็ได้ แต่นี่เขากลับใช้นางเป็นทรัพย์สินค้ำประกัน!
ในตอนนี้ หัวใจของนางเหมือนถูกมีดกรีด!
หวังหยวนไม่รู้จะปลอบนางอย่างไร เขาขมวดคิ้วมองหลิวโหย่วไฉ "เอาหลักฐานการยืมเงินมาและออกไปซะ!"
“ไอ้สารเลว เจ้าคิดจะหนีหนี้งั้นรึ?”
หลิวโหย่วไฉโบกหลักฐานการยืมเงินในมือและลุกขึ้น "เชื่อหรือไม่ว่า ข้ากลับไปที่หมู่บ้านเสี่ยวหลิว และสั่งให้คนสักสองร้อยคนมากระทืบเจ้า เจ้านายจะให้บ้าน ทุ่งนา และภรรยาของเจ้ากับข้าด้วย หลักฐานการยืมเงินแบบนี้ เจ้ากล้าที่จะหนีหนี้ อยากตายรึไง!"
หลี่ซื่อหานดึงแขนเสื้อของหวังหยวนและเช็ดน้ำตา "ท่านพี่หนีหนี้ไม่ได้นะ ข้าจะกลับไปบ้านแม่เพื่อยืมเงิน!"
หนีหนี้จะต้องไปที่ว่าการอำเภอทำการตัดสินก่อนโบย ร่างกายสามีนางเป็นแบบนี้ จะไปทนไหวได้อย่างไร!
"...ซื่อหาน ไม่จำเป็นต้องกลับไปยืมเงินที่บ้านแม่ ข้าจัดการเรื่องนี้ได้!"
หวังหยวนตกตะลึง
คิดไม่ถึงเลยว่าหลี่ซื่อหานยังยอมที่จะช่วยเจ้าของร่างเดิม
หลิวโหย่วไฉมองไปที่หวังหยวนอย่างเหยียดหยาม "ไอคนเสเพลอย่างเจ้า มีสิทธิ์อะไรจัดการมันได้! ถ้าข้าไม่เห็นสี่สิบกว้านในวันนี้ ข้าจะไม่ไปไหนทั้งนั้น"
หวังหยวนชี้ไปที่วันที่ในหลักฐานการยืมเงิน "เปิดตาสุนัขของเจ้าและมองให้ชัด ๆ ครบกำหนดหนึ่งเดือนแล้วหรือ?"
หลิวโหย่วไฉถึงกับสะอึก เขาได้ยินมาว่าหวังหยวนป่วยหนัก จึงรีบมาทวงหนี้ที่บ้าน ทะเลาะกันจนลืมไปเลยว่ายังเหลืออีกสามวันถึงจะครบกำหนดสัญญา “ข้าไม่เชื่อหรอกว่าไอคนเสเพลอย่างเจ้า ในสามวันจะมีปัญญาหาเงินสี่สิบกว้านมาได้?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่
อัพปตอนต่อหน่อยอ่านถึง373 แล้ววสนุก...
สนุกมมากครับ ปกติเห็นแนวนี้ตัวเอกชอบเป็นผู้หญิง...
รบกวน อัพเดท ด้วยครับ /...
รออยู่ครับ เรื่องนี้ สนุกมาก อย่าเพิ่งเท กันน่ะครับ/ขอบคุณ แอดฯ...
รอตอนต่อไปอยู่ครับ...
รอ update อยู่น๊าา กำลังสนุกเลย...
เรื่องนี้ ดีมากครับ รบกวน อัพเดท ไวๆ ใจจะขาดแล้ว ขาดตอนไปเดือนนึงแล้วครับ...
รอตอนต่อไปอยู่นะครับ แอดมิน...
ฮ่องเต้ในนิยายนี้ จับสลากได้ตำแหน่งมาแน่นอน...
ขอบคุณ admin ครับ เรื่องนี้สนุกจริงๆ...