เมื่อจ้าวชิงเหอและลุงของเขามาถึงร้านค้า พวกเขาเห็นหวังหยวนหยิบหม้อเหล็กขึ้นมา และกำลังเทน้ำเชื่อมที่ผสมไว้กับโคลนสีเหลืองลงในกรวยที่มีฟางเรียงราย
“ท่านพ่อ ดูนั่นสิ!”
จ้าวชิงเหอมุ่ยหน้า
ลุงมองด้วยความประหลาดใจ
ซู่ ซู่ว…
กากน้ำตาลสีดำไหลออกมาจากด้านล่าง และน้ำเชื่อมเริ่มแยกตัวออกจากกันในกรวย
ไม่นาน น้ำตาลทรายขาวก็ตกผลึกอยู่ด้านบน น้ำตาลทรายแดงอยู่ตรงกลาง และกากน้ำตาลดำอยู่ด้านล่าง
“น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลทรายขาว”
ดวงตาของจ้าวชิงเหอแทบจะบินออกมาด้านนอก
น้ำตาลดำมีราคาถูกที่สุดคือจินละหนึ่งร้อยอีแปะ น้ำตาลทรายแดงจินละสามร้อยอีแปะ และยังไม่มีน้ำตาลทรายขาวขายในท้องตลาด
เมื่อดูอัตราส่วนของน้ำตาลสามสีในกรวยจะเห็นได้ว่ามีมีน้ำตาลทรายขาวห้าสิบเปอร์เซ็นต์ น้ำตาลทรายแดง สามสิบเปอร์เซ็นต์ และกากสีดำอีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์
แค่น้ำตาลทรายแดงก็เกือบจะเทียบเท่าต้นทุนน้ำตาลดำแล้ว ส่วนเงินที่ขายน้ำตาลทรายขาวได้ก็ถือว่าเป็นกำไร
ลุง หวังหานชาน ต้าหู และหวังซื่อไห่รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก พวกเขาไม่เข้าใจว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร
เอ้อหูถามออกไปตรง ๆ "พี่หยวน ทำไมน้ำตาลดำผสมกับโคลนสีเหลืองแล้วถึงกลายเป็นน้ำตาลทรายแดงและน้ำตาลทรายขาวล่ะ?"
ทุกคนต่างก็รู้สึกสงสัย
หวังหยวนอธิบายง่าย ๆ ว่า "น้ำตาลดำมีสารเม็ดสีเจือปนอยู่ และโคลนสีเหลืองสามารถดูดซับสิ่งที่เป็นเม็ดสีเหล่านั้นออกมาได้ น้ำตาลทรายแดงและน้ำตาลทรายขาวจึงปรากฏขึ้น"
การผลิตน้ำตาลของต้าเย่นั้นอยู่ในระดับพื้นฐาน และในทางตอนใต้มีการปลูกอ้อยเพื่อทำน้ำตาลดำ
นอกจากนี้ยังมีคนไม่กี่คนที่ใช้เถ้าจากพืช และการลดสีของไข่เป็ดเพื่อทำน้ำตาลทรายแดง
และยังไม่มีใครค้นพบวิธีการทำน้ำตาลทรายขาว
วิธีการลดสีของโคลนสีเหลือง ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของเทคโนโลยีการผลิตน้ำตาลของจีนโบราณ ถูกนำมาใช้จนถึงยุคอุตสาหกรรม
เขาคือนักศึกษาปริญญาเอกด้านเคมี สำหรับกระบวนการระดับต่ำนี้ เขาจึงเข้าใจเหตุผลชัดเจนว่าทำไม
“เม็ดสี?”
“สิ่งเจือปน?”
“ดูดซับ?”
ทุกคนไม่เข้าใจ!
หวังหยวนใช้นิ้วกวัดน้ำตาลทรายขาวขึ้นมา "ลองชิมดู"
ทั้งหกคนยืนล้อมรอบกรวย ค่อย ๆ กวัดน้ำตาลทรายขาวขึ้นมาอย่างระมัดระวัง แล้วใส่เข้าไปในปากของตนเอง
ดวงตาโตของจ้าวชิงเหอเป็นประกาย "มันหวานมาก หวานยิ่งกว่าน้ำตาลดำ และน้ำตาลทรายแดงเสียอีก!"
“อืม หวานกว่าน้ำตาลทรายแดงจริงด้วย”
หวังซื่อไห่เห็นด้วย ราวกับว่าเขาได้กินน้ำตาลทรายแดงจริง ๆ
น้ำตาลเป็นยาชูกำลัง แต่ชาวบ้านไม่มีกำลังจับจ่าย
จะมีก็แต่เวลาเยี่ยมญาติในช่วงเทศกาลวันหยุดเท่านั้นที่ชาวบ้านพอจะได้กินน้ำตาลดำบ้าง
น้ำตาลทรายแดงนั้นมีแต่คนรวยเท่านั้นที่จะได้กิน
"ข้าเคยกินแต่น้ำตาลดำ น้ำตาลทรายขาวนี้หวานกว่าน้ำตาลดำมาก"
เอ้อหู่ยังคงแสวงหาคำตอบ แต่พวกเขาไม่ได้เสแสร้งเป็นผู้อวดรู้
ลุง ลุงหานซาน และต้าหู่ชิมน้ำตาลทรายแดงอีกครั้ง เพื่อเปรียบเทียบก่อนจะพยักหน้าอย่างแรง
“น้ำตาลทรายขาวนั้นหวานกว่า แต่คุณค่าทางยานั้นไม่ดีเท่าน้ำตาลทรายแดง!”
หวังหยวนเหลือบมองจ้าวชิงเหอ "เมื่อหญิงสาวต้องการบำรุงเลือด ดีที่สุดคือดื่มน้ำน้ำตาลทรายแดง"
จ้าวชิงเหอหน้าแดง และมองหวังหยวนอย่างเขม็ง "ถุย พูดไปเรื่อยl!"
ลุง หวังหานซานไอแห้ง ๆ ต้าหู่ เอ้อหู่ และซื่อไห่ทำหน้ามึนงงอย่างไม่เข้าใจ
เอ้อหู่พูดอีกครั้ง "พี่หยวน พี่รู้วิธีนี้ได้อย่างไรกัน?"
“ยังต้องถามเหรอ?”
หวังซื่อไห่เงยหน้าขึ้นและพูดกับตัวเองว่า "หวังหยวนต้องเรียนรู้มาจากหนังสือน่ะสิ"
“ฉลาดมาก!”
หวังหยวนยกนิ้วให้ หวังซื่อไห่เป็นคนช่างจินตนาการ ทำให้เขาไม่ต้องคิดหาเหตุผล
“ไอ้โง่!”
เมื่อมองไปเห็นหวังซื่อไห่ที่กำลังทำสีหน้าภาคภูมิใจ จ้าวชิงเหอก็กลอกตามองบน
หากมีวิธีการทำน้ำตาลทรายขาวในหนังสือ มันก็ต้องมีขายในตลาดแล้วสิ ทำไมจะต้องรอจนกว่าลูกพี่ลูกน้องของฉันทำมันด้วยล่ะ!
“เจ้าหยวน!”
ลุงตัดประเด็น "เจ้าจะขายน้ำตาลทรายขาวนี้ในราคาจินละเท่าไหร่?"
เอ้อหู่ลูบหัวของตัวเอง "น้ำตาลทรายแดงขายได้สามร้อยเหวิน แต่น้ำตาลทรายขาวนี้ซึ่งหวานกว่าน้ำตาลทรายแดงก็คงต้องขายในราคาสี่ร้อยอีแปะแล้วล่ะ!"
ต้าหู่พยักหน้าซ้ำ ๆ น้ำตาลสี่ร้อยอีแปะเป็นเงินจำนวนมากแล้ว
“สี่ร้อยอีแปะถูกเกินไป!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่
รอ update อยู่น๊าา กำลังสนุกเลย...
เรื่องนี้ ดีมากครับ รบกวน อัพเดท ไวๆ ใจจะขาดแล้ว ขาดตอนไปเดือนนึงแล้วครับ...
รอตอนต่อไปอยู่นะครับ แอดมิน...
ฮ่องเต้ในนิยายนี้ จับสลากได้ตำแหน่งมาแน่นอน...
ขอบคุณ admin ครับ เรื่องนี้สนุกจริงๆ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ ผมคอยอ่านอยู่ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณครับที่มาลงต่อให้ เรื่องนี้ผมว่าสนุกมาก...
สงสัยคงไม่ได้อ่านต่อแน่เลย พอจะมีใครรู้ชื่อนิยายเรื่องนี้บ้างไหมครับ จะเป็นแบบจีนหรืออังกฤษก็ได้...
ถ้าทุกประเทศมีผู้นำเหมือนฮ้องเตชิงหลงที่ปัญญาอ่อนไม่เป็นตัวของตัวเองทั้งโง่เขลาเบาปัญญาคงไม่มีแผ่นดินอยู่...
เลิกอัพแล้วหรอครับ เสียดายจัง / รอนานเลยครับ...