Carrus online : Black sheeP นิยาย บท 34

"เราว่าทำเป็นไม่เห็นแล้วไปกันเถอะ" เมย์พูดออกมาพร้อมทั้งถอนหายใจยาวๆ ก่อนเธอจะหันหลังและเดินวนกลับไป แต่ไม่ใช่แค่เมย์หรอกนะที่รู้สึกแบบนั้น เพราะผมเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน...

"ความลับเรื่องนั้นน่ะมันไม่เห็นจะเป็นความลับเลยนะ" ผมตอบกลับพร้อมทั้งหัวเราะแห้งๆและเตรียมจากไป ทว่าเป็นตอนนั้นเองที่ผมรู้สึกได้ถึงความอันตรายจากด้านหลัง

"ฟุบ..."

"ถ้าไม่หลบละก็... คริติคอลฮิตเลยนะ" ผมพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา ในขณะที่ปลายทวนของอีกฝ่ายนั้นยังคงเสมออยู่ข้างหูผมในระยะที่ห่างกันเพียงแค่คืบเดียว ความเร็วและความแม่นยำถือว่าสูงเป็นอย่างมาก แต่มันก็ยังไม่เพียงพอจะจัดการผมน่ะสิ

"แต่ในเมื่อฉันพูดออกไปแล้ว นายก็ต้องตอบแทนเหมือนกัน" ซุซุเนะตอบกลับด้วยเสียงต่ำ ทั้งการย่อตัวและการจับทวน ทุกอย่างล้วนบ่งบอกว่าเธอพร้อมต่อสู้และเตรียมรับการสวนกลับอยู่ตลอดเวลา สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เกมเมอร์ทั่วไปจะทำได้แน่ๆ มันต้องมีการฝึกทวนมาจากโลกจริงด้วย

"เขาไม่ได้ต้องการให้เราไปยุ่งสินะ..." เมย์กล่าวต่อตัวเองพร้อมทั้งหันหลังพิงไปยังต้นไม้ใกล้ๆ เช่นเดียวกับแพททริคและสกิลเล็ทที่ลดอาวุธลงเมื่อเห็นสัญญาณมือของชาน

"พีวีพี ถ้าใช้คำเชิญประลองก็ไม่ต้องมีใครตาย สนใจมั้ยละ?" ผมเอ่ยออกไปด้วยเสียงเรียบพร้อมทั้งส่งคำเชิญไปยังอีกฝ่าย

"เงื่อนไขละ..."

"ถ้าผมแพ้จะยอมรับคุณเข้าปาร์ตี้ก็ได้นะ" ผมตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ก็นะ ถ้ามองตามรูปแบบปาร์ตี้แล้วตอนนี้ผมยังขาดคนที่จะปะทะแนวหน้าอยู่ ถ้าได้ซุซุเนะมาการเคลียร์ดันเจี้ยนก็จะง่ายขึ้น และที่ผมยื่นข้อเสนอไปแบบนั้นก็เพราะต้องการทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาไม่ควรเอาอาวุธไปจี้ไว้ที่คอของใครต่อใครเขา...

แต่เหนือสิ่งอื่นใดผมต้องการรู้ฝีมือของเธอ...

"ตกลง" ซุซุเนะพูดจบก็ดีดตัวถอยออกไปทันที ก่อนจะเป็นผมที่เริ่มโจมตีด้วยกรงเล็บโลกันต์ เปลวเพลิงพลันพุ่งขึ้นสูงเป็นเกรียวเข้าล้อมตำแหน่งของเธอ แต่ซุซุเนะนั้นได้ใช้ทวนปักไปที่พื้นพร้อมทั้งดีดตัวถอยออกไปแทน

มันคือความสามารถจากค่าสถานะและความช่ำชองที่เป็นทุนเดิมของเธอเอง ไม่ใช่การอาศัยสกิลแต่อย่างใด

เป็นพวกมีฝีมือแน่นอน

"ไฟร์บอล!" ผมรีบซัดไฟร์บอลเข้าหาอีกฝ่ายทันที โดยที่ซุซุเนะหมุนควงทวนไปด้านหลังพร้อมๆกับใช้สกิลประเภทป้องกันขึ้นที่ด้านหน้าของตัวเองจนเกิดเป็นระลอกคลื่นที่สลายไฟร์บอลไป

"วิ๊ง!..."

แพ้ทาง... อัศวินเวทย์คือพวกที่มีสกิลการต้านทานเวทย์ค่อนข้างสูง และหนึ่งในจุดเด่นที่สุดก็คือสกิลสลายดาเมจเวทย์...

ชั่วอึดใจเดียวกันนั้นเองที่พื้นใต้เท้าของเธอได้ปรากฏเป็นตราเวทย์ขนาดใหญ่สีส้มสว่าง ก่อนซุซุเนะจะพุ่งเข้าหาผมด้วยความเร็วระดับทัดเทียม ทวนในมือทอประกายแสงสว่างวาบขึ้นครั้งหนึ่ง ก่อนมันจะถูกซัดเขาแทงเข้าที่ลำตัวพร้อมๆกับการกวาดฟันอย่างต่อเนื่อง

สกิลระดับE ท้าทาย

-เพิ่มความเร็วเท่ากับเป้าหมาย

-พลังโจมตีลดลง5%

ด้วยความเร็วที่ค่อนข้างมากทำให้ผมที่เคยถือความได้เปรียบด้านความเร็วกลายเป็นลำบากยิ่งกว่าเดิม ก่อนหนึ่งในการโจมตีของซุซุเนะจะเล็งมาที่ใบหน้าของผมจึงทำให้ผมพอมีโอกาสโต้ตอบกลับไป

ทวนถูกปัดเพื่อหักเหออกและโจมตีสวนกลับด้วยไฟร์บอลในระยะประชิด จนทำให้เธอต้องใช้อีกมือใช้สกิลสลายดาเมจ ทว่าเพราะการดีดตัวถอยไปด้วยจึงทำให้เธอถูกระเบิดยะเยือกเข้าเต็มๆ

"ตูม!!!

เสียงระเบิดพลันดันกึกก้องพร้อมๆกับไอเย็นที่สาดไปทั่วรอบด้าน ทว่าซุซุเนะที่ดีดตัวขึ้นสูงนั้นกลับมิได้สูญเสียพลังชีวิตลงไปเลยสักหน่วย สายตาและสีหน้ายังคงเรียบนิ่งราวกับคาดการณ์ทั้งหมดเอาไว้แล้ว

ทวนที่เคยเป็นสีเงินพลันระเบิดซ่านไปด้วยคลื่นสีขาวบริสุทธิ์ ก่อนคลื่นโจมตีของสกิลระยะไกลจะโถมลงมาจนถล่มพื้นที่บริเวณนั้นพังเป็นแทบๆราวกับหนามแหลม มันโหมกระหน่ำและบดขยี้จนเจาะพื้นให้กายเป็นรูกว้างกว่าครึ่งเมตรในทุกๆการโจมตี

สกิลระดับD เดธไซท์

-แทงอาวุธในมืออย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างคลื่นกระแทกระยะสิบเมตร สร้างความเสียหายกายภาพครั้งละ75หน่วย

-ลดเกราะคู่ต่อสู้ลง5ทุกครั้งที่โจมตีโดน

ผมรีบใช้คลั่งเพื่อเพิ่มความเร็วให้กับตัวเองทันที ก่อนจะหมุนตัวหลบและพุ่งเข้าประชิดกับอีกฝ่าย

ในเมื่อการโจมตีถูกสกัดได้ สิ่งที่ผมทำได้ดีที่สุดก็คือการต่อสู้ระยะประชิดเพื่อลดมานาของซุซุเนะ

ลูกเตะถูกเหวี่ยงปะทะจนเธอต้องรีบยกทวนขึ้นต้านรับ ก่อนผมจะบิดตัวและซัดหมัดปะทะเข้าที่ใบหน้าของเธอจนเสียหลักเซออกไป ถึงกระนั้นซุซุเนะก็ได้อาศัยแรงเหวี่ยงจากการถูกซัดบิดตัวเพื่อกวาดใช้สกิลที่เปลี่ยนให้ทวนของเธอเป็นสีน้ำเงินเข้ม

"ตูมมม!!!" คลื่นพลังเวทย์สีฟ้าครามพลันกลืนไปทั่วเบื้องหลังของผมทันที หากไม่กระโดดหลบคงถูกสกิลนั้นซัดปลิวออกไปแล้วแน่ๆ ทว่าด้วยระยะประชิดขนาดนี้ มันก็ง่ายที่จะโจมตีแล้วเมื่อทวนของซุซุเนะอยู่ในระยะวงกว้างเกินกว่าจะดึงกลับได้ทัน

"ข่มวัญ!"

[สำเร็จ เป้าหมายติดสถานะข่มขวัญ]

ค่าสถานะที่ลดลงกลายเป็นช่องว่างขนาดใหญ่ทันที แม้การตรึงจะไม่เกิดขึ้น แต่ผมก็มีเวลามากพอจะโจมตีเข้าปะทะที่ใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างแรงจนเอนถอยไป ก่อนจะถีบกดไปที่ทวนเพื่อปลดอาวุธของเธอออก ทว่าซุซุเนะเลือกที่จะปล่อยทวนออกและหมุนเข้าฟันศอกผมแทน

"ปัง!"

ด้วยความเร็วระดับนี้ผมจึงทำได้แค่ป้องกันเอาไว้ แต่ค่าสถานะนักรบดั่งเดิมแล้วมันคือกายภาพ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมกันได้ก็ใช่ว่าพลังชีวิตของผมจะไม่ลดลงไปด้วย

แต่ด้วยการใช้แขนขวาฟันซอกเข้าหาผมมันก็ได้ไม่คุ้มเสียอยู่ดี ช่วงด้านขวาทั้งหมดกลายเป็นเปิดออกโดยสมบูรณ์ ผมจึงถีบเข้าที่ข้อพับของอีกฝ่ายและใช้ขาสกัดพร้อมๆกับล็อคคอและเหวี่ยงทุ่มออกไป ก่อนจะใช้ไฟร์บอลโจมตีซ้ำแบบต่อเนื่อง

แม้จะแข็งแกร่งและแพ้ทาง แต่หากไร้ซึ่งมานาทุกอย่างก็จะเป็นอันจบ ผมเห็นได้อย่างชัดเจนว่าอีกฝ่ายกำลังจะใช้สกิลขึ้นกันดาเมจเหมือนทุกๆครั้ง แต่เธอกลับต้องเบิกตาค้างเมื่อมานาที่เกินกว่าครึ่งหลอดในตอนนี้กลายเป็นหมดสิ้น...

"ตูม! ตูม! ตูม!"

[การประลองสิ้นสุด ผู้ชนะ ชาน]

อืม... ผมกล้าต่อยหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่ลังเลก็เพราะคิดว่าเขาเป็นผู้ชายละนะ อาจจะแค่เล่นตัวละครผู้หญิงเพื่อเรียกร้องความสนใจจากผู้เล่นอื่น เพราะถึงยังไงก็มีเพลเยอร์จำนวนมากที่มักจะเล่นเป็นผู้หญิงอยู่แล้ว

แต่ต้องยอมรับก่อนว่าฝีมือของอีกฝ่ายนั้นถือว่าไม่เลวเลย ทักษะการต่อสู้ระยะประชิดผมรู้สึกได้เลยว่ามันต้องเป็นประสบการณ์จากชีวิตจริงแน่นอน ถ้าหากเล่นเกมแล้วละก็... มีเพียงเกมๆเดียวที่ทำให้ได้รับทักษะแบบนี้ มันคือลีค

"ฮึก... ฮึก... นายมันโหดร้ายเกินไปแล้วที่กล้าต่อยหน้าผู้หญิงแบบนี้" ซุซุเนะกระซิกออกมาทันที แต่ผมจะตอบอะไรได้ละ? ตอนนี้เธออาจจะเสแสร้งอยู่ก็ได้ ผมจึงได้แต่มองไปยังคนอื่นๆ

แต่ก็นะ เมย์ส่ายหัวออกมาด้วยความเอือมระอา ในขณะที่แพททริคดูมีความผิดหวังจนออกนอกหน้าอย่างเห็นได้ชัด เช่นเดียวกับสกิลเล็ทที่ถอนหายใจยาวๆเมื่อผมมองไปยังเธอ

"เอาเป็นขอโทษก็แล้วกัน ถือว่าเป็นการขอโทษ มาเข้าปาร์ตี้ด้วยกันมั้ย?"

"ฮึก... สำนึกไว้ซะด้วยละที่ฉันยอมเข้าร่วมปาร์ตี้ ไม่ไช่เพราะต้องการคำขอโทษหรอกนะ แต่แค่ไม่อยากให้พวกนายรู้สึกผิด"

อ่า... ท่าทีเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมืออีกแล้ว เมื่อกี้ยังกระซิกอยู่เลย ตอนนี้กลับตอบรับคำเชิญปาร์ตี้ด้วยท่าทางแบบนั่น แถมยังดูเมินผมแบบไม่ใยดีอีกต่างหาก

"งั้นก็มาดันเจี้ยนด้วยกันเถอะ"

"อื้ม! เดี๋ยวรับดาเมจให้เอง ไม่ได้อยากจะทำหรอกนะ แต่กลัวนายจะตายก่อน"

"มันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วนะฉันว่า.." แพททริคกล่าวด้วยเสียงแผ่วจนผมได้แต่มองไปยังอีกฝ่ายด้วยใบหน้าที่ต้องการสื่อว่าเราคือพวกเดียวกัน

"เอาเถอะ ได้คนมาเพิ่มก็ดีเหมือนกัน ว่าแต่ซุซุเนะมีชื่อที่เรียกง่ายกว่านี้มั้ย?" เมย์ถามออกมาด้วยรอยยิ้มกว้าง

"ซุซุเนะก็คือซุซุเนะ!"

"เราว่าถ้าคุยกันอยู่ตรงนี้คงไม่จบไม่สิ้นแน่ รีบไปกันดีกว่า..." ผมกล่าวออกไปเพื่อแยกให้ทั้งสองคนห่างออกจากกัน ก็นะท่าทีของซุซุเนะมันค่อนข้าง... ถ้าเป็นผู้ชายผมว่าเขาอาจจะไม่ได้โตพอจะเล่นคาร์รัสแน่ เพราะงั้น แค่บางทีนะ ซุซุเนะอาจเป็นผู้หญิงจริงๆก็ได้

ผมใช้เวลาเดินทางไปยังดันเจี้ยนเสียงเรียงของสุสานกระดูกราวๆสิบห้านาทีก็มาจนถึงอาณาเขตของมัน ปากถ้ำที่ซ่อนอยู่จนยากที่จะหาพบ

[คุณต้องการเข้าดันเจี้ยนระดับE เสียงเรียกสุสานกระดูกหรือไม่?]

[ยืนยัน]

ทันทีที่ผมตอบตกลงไป บรรยากาศโดยรอบก็ดูครึ้มลงไปทันที มันเหมือนกับตอนรับภารกิจไม่มีผิด

"ท- ที่นี่งั้นหรอ ท- ที่เราจะเข้าไป?" ซุซุเนะกล่าวออกมาด้วยเสียงสั่นจนผมอยากจะหัวเราะออกมาดังๆ ความอวดดีในตอนนี้มันต่ำซะจนแทบถึงขีดสุดเลยละ

"อืม ที่นี่แหละ มอนสเตอร์ในนี้ส่วนมากก็เป็นพวกโครงกระดูกกับวิญญาณ ถ้าเป็นอัศวินเวทย์คงสบายน่าดู" เมย์ตอบกลับด้วยสีหน้าเจื่อนๆคล้ายจะไม่อยากสนทนากับอีกฝ่ายเท่าไร ก็แหงละ ผมเองยังปวดหัวเลยเมื่อเจอแต่ละคำตอบของอีกฝ่าย

"ฉ- ฉันไม่ได้กลัวหรอกนะ! แต่จะเฝ้าทางเข้าไว้ให้ ขอบคุณไว้ซะด้วยที่มีฉันเป็นแนวหลังน่ะ!"

"แต่ก่อนหน้านี้คุณยังพูดว่าจะเป็นแนวหน้าอยู่เลยนะ? หรือว่าจริงๆแล้วคุณซุซุเนะเป็นพวกปากอย่างการกระทำอย่างหรอคะ?"

ดันเจี้ยนระดับE เสียงเรียกสุสานกระดูก!!! 1

ดันเจี้ยนระดับE เสียงเรียกสุสานกระดูก!!! 2

ดันเจี้ยนระดับE เสียงเรียกสุสานกระดูก!!! 3

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Carrus online : Black sheeP