ชีวิตที่อยู่ร่วมห้องกับสาวๆ 18+ นิยาย บท 22

บทที่ 22 เฉินเฟิงแกมันจิตอกุศลมาก

และแล้วสิ่งที่ผมคิดนั้นผิด ผมคิดมากเกินไปหยู่ถิงเธอแค่อยากให้ผมเลี้ยงอาหารมื้อค่ำให้เธอเป็นการตอบแทน

ถึงแม้ว่าคำขอนี้มันจะไม่ได้มีแรงจูงใจเหมือนกับสิ่งที่ผมได้คิดไว้ แต่สุดท้ายก็ตกลงเธอโดยดี

หยู่ถิงหัวเราะเยาะเบาๆ หลังจากนั้นก็ได้ขับรถตรงมาที่ซุปเปอร์มาเก็ต และเธอก็เลือกซื้อแผ่นห่อเกี๊ยวผักและเนื้อมา เธอบอกว่าอยากกินเกี๊ยว อยากให้ผมห่อให้เธอกิน

เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเด็กบ้านนอกคอกนาอย่างผม เมื่อตอนกลับไปถึงคฤหาสน์หรูของหยู่ถิงผมก็ตรงไปที่ห้องครัวเตรียมทำเกี๊ยวทันที

และแน่นอนว่าหยู่ถิงไม่ได้ช่วยผมอะไรเลยแม้แต่น้อย ฮ่า ๆ มิหนำซ้ำเธอยังมากวนผมอีก

และเกี๊ยวที่เธอห่อเองนั้นรูปร่างหน้าตามันเลยคำว่าเกี๊ยวไปมากเลยทีเดียว

”เกี๊ยวคงพอสำหรับสองคนกินแล้วล่ะ งั้นเตรียมลวกลงหม้อได้เลย”

ตอนที่ผมเตรียมจะเก็บเครื่องครัวให้เข้าที่ หยู่ถิงก็ได้มาขวางไว้ และเธอบอกว่าให้ทำเพิ่มอีกชุดนึง ผมถามว่าทำให้ใคร เธอก็ไม่ตอบ

ถึงเธอจะไม่บอก ผมก็รู้แล้ว เพราะสักพักก็ได้ยินเสียงประตูห้องถูกเปิดออก ในห้องรับแขกก็ได้ยินเสียงใสบริสุทธิ์จากสาวน้อย

“พี่คะ หนูกลับมาแล้วค่ะ”

เสียงนี้ฟังดูใสมาก ไพเราะเหมือนเสียงนกหวางหลีที่นุ่มนวลชวนให้คล้อยตาม แต่ เอ... ทำไมเสียงมันคุ้นๆจัง และพบก็ไม่ทันรอ ให้หยู่ถิงทำการแนะนำผมก็รีบพรวดพราดออกจากห้องครัว ไปที่ห้องรับแขก

และเมื่อผมเดินไปถึงห้องรับแขกก็ได้เจอกับเจ้าของเสียงนั่น ใบหน้างดงามนั่น เธอคือลู่ปู้หนาน ผมถึงกับงงเล็กน้อย

หยู่ถิงกับลู่ปู้หนาน................เป็นพี่น้องกันเหรอเนี่ย!

และเมื่อย้อนกลับไปมองหยู่ถิง ถึงแม้ว่าความสวยเธอจะไม่น้อยหน้าไปกว่าลู่ปู้หนานแต่ดูๆแล้วโครงหน้าทั้งสองคนนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ถ้าถามผมว่าทั้งสองมีอะไรที่เหมือนกันนั้น ผมตอบได้เลยว่าความหยิ่งของทั้งคู่นั้นสมบูรณ์ทีเดียวล่ะ

ในตอนที่ผมหันไปมองลู่ปู้หนานเธอก็เหมือนว่ากำลังมองผมอยู่เหมือนกัน มองกันไปมองกันมา ก็ต่างตะลึงกับสิ่งที่เห็น

หยู่ถิงที่นั่งอยู่ข้างๆผม เธอหันมามองผม แล้วก็หันไปมองลู่ปู้หนานด้วยความสงสัยและถามว่า “นี่พวกเธอรู้จักกันด้วยเหรอ?”

ผมพยักหน้าตอบ ”ใช่ เค้าเรียนขับรถที่เดียวกับผม แถมยังหัดขับคันเดียวกันด้วย”

ลู่ปู้หนานหัวเราะแล้วพูดว่า “บังเอิญจัง ไม่ยักรู้มาก่อนนะเนี่ย ว่านายเป็นเพื่อนกับพี่สาวฉัน”

ใช่ คิดไม่ถึงเหมือนกัน ไม่นึกไม่ฝันเลยล่ะ

หลังจากพูดคุยกันพอหอมปากหอมคอ ผมก็ได้อ้างขอเข้าไปดูเกี๊ยวที่ยังต้มไว้ในครัว จริง ๆคืออยากหลบให้พ้นจากสองพี่น้องนี่มากกว่า ฮ่า ๆ

หลังจากนั้นไม่นาน หยู่ถิงก็ตามผมเข้ามาในครัวด้วย

และผมก็ได้ตัดสินใจถามในสิ่งที่อยากรู้ออกไป “คุณแซ่หยู่ แต่เธอแซ่ลู่ แถมคุณสองคนหน้าตาก็ไม่เหมือนกันเลย เป็นลูกพี่ลูกน้องกันเหรอ?”

หยู่ถิงส่ายหน้าและตอบว่า “เปล่า พี่น้องกันแท้ๆแค่ต่างพ่อต่างแม่”

คำตอบนี้ทำให้เธอสบายใจจริงๆ โตมาจนป่านนี้แล้วยังไม่เคยเจอพี่น้องแท้ๆคู่ไหนที่ต่างพ่อต่างแม่กันหรอก

หลังจากที่หยู่ถิงเห็นสีหน้าที่งวยงงของผม เธอก็รีบอธิบายให้ฟังต่อว่า แม่แท้ๆของเธอนั้นจากไปตั้งแต่เธอยังเด็ก และพ่อเธอก็ได้แต่งงานใหม่ และแม่เลี้ยงของเธอก็มีลูกติดมาด้วย นั่นก็คือลู่ปู้หนาน ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่สายเลือดแท้ๆของตระกูลหยู่ แต่เราก็เข้ากันได้ดีตั้งแต่ยังเล็ก นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ต่อให้ไม่ใช่น้องสาวแท้ของฉัน แต่ฉันกลับรู้สึกผูกพันและสนิทมากกว่าพี่น้องแท้เสียอีก

ผมไม่อยากจะเชื่อ มันเป็นไปได้ยากมากที่พี่น้องคนละสายเลือดจะมีความสัมพันธ์ที่ดีแบบนี้ ไม่เห็นเหมือนในละครน้ำเน่าที่ทำร้ายกับไปทำร้ายกันมา เหมือนกับแค้นกันมาเป็นชาติ หลังจากที่ลวกเกี๊ยวตักใส่จานเสร็จเราก็ได้นั่งกินเกี๊ยวด้วยกัน

หยู่ถิงก็นั่งที่ข้างผม ส่วนลู่ปู้หนาน นั้นนั่งตรงข้าม ต่างคนก็ต่างกินเกี๊ยวในจานของตัวเอง พูดไปหัวเราะไป ดูๆแล้วบรรยากาศไปได้สวย

หยู่ถิงก็ชมผมใหญ่ว่าผม ทำไส้เกี๊ยวได้อร่อยมาก ส่วนลู่ปู้หนาน ก็คล้อยตามเล่นชมกันไปใหญ่ ทำผมนี่อายจนต้องก้มหน้าเลย ก็สองพี่น้องเล่นชมผมซะขนาดนี้ ผมจะไม่อายได้ยังไง

แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้ผมนั้นรู้สึกเขินทำตัวไม่ถูกจริง ๆ ก็คือมือซ้ายของผมตอนนี้ได้อยู่ที่ใต้โต๊ะกำลังลูบขาที่สวยงามของ หยู่ถิง ที่ห่อด้วยกางเกงลำลองหลวม ๆ และเท้าขวาที่ถอดรองเท้านั้นก็กำลังเขี่ยขาอ่อนขาวๆของลู่ปู้หนาน ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตที่อยู่ร่วมห้องกับสาวๆ 18+