"สวยจัง" พารันเอ่ยชมเบาๆให้พอได้ยินกันสองคนเมื่อเจ้าสาวเดินเข้ามายืนตรงหน้า พร้อมกับยกมือไหว้เตชินท์ในตอนที่เขาส่งมือพัดชามาให้ เป็นความหมายความว่ายินยอมยกลูกสาวให้อย่างเต็มใจ
"ฝากลูกสาวพ่อด้วยนะ" เตชินท์ส่งยิ้มบางๆให้เด็กหนุ่ม หันมองลูกสาวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ก่อนจะเดินออกไป
พัดชายิ้มรับคำชมจากว่าที่เจ้าบ่าว หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวจนกลัวว่ามันจะหลุดออกมานอกเบ้า ทั้งที่บอกกับตัวเองว่าไม่ได้ให้ความสำคัญกับการแต่งงานนัก แต่เมื่อวันนั้นมาถึงจริงๆกลับตื่นเต้นจนมือไม้สั่น เพราะนี่เป็นการแต่งงานครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต
พารันมองพัดชาด้วยสายตาตื้นตันเปี่ยมล้นด้วยความสุข เขาวาดฝันมาตลอดว่าสักวันหนึ่งจะมีโอกาสได้พูดคำปฏิญาณต่อหน้าเธอในงานแต่งงาน เมื่อวันนั้นมาถึงเหมือนการรอคอยได้สิ้นสุดลง และมันจะกลายเป็นความทรงจำที่สวยงามไปชั่วชีวิตของเขาและพัดชา
พิธีการดำเนินไปเรื่อยๆ บรรยากาศรอบข้างอบอวลไปด้วยและความยินดีและรอยยิ้ม โดยมีบาทหลวงทำหน้าที่สำคัญ
"คุณพารันและคุณพัดชา ท่านทั้งสองมาที่นี่โดยไม่ถูกบังคับ แต่มาด้วยความสมัครใจอย่างแท้จริง เพื่อเข้าพิธีสมรสหรือ?"
"ครับ/ค่ะ"
"เมื่อเข้าสู่ชีวิตสมรสแล้วท่านทั้งสองพร้อมที่จะรักและยกย่องให้เกียรติแก่กันและกันไปตลอดชีวิตหรือ?"
"ครับ/ค่ะ"
"ท่านทั้งสองพร้อมที่จะน้อมรับบุตรซึ่งพระเจ้าประทานให้ และอบรมเลี้ยงดูตามกฎของพระคริสตเจ้าและพระศาสนจักรด้วยความเข้าใจดีต่อกันหรือ?"
"ครับ/ค่ะ"
"โดยที่ท่านทั้งสองมีเจตจำนงที่จะสมรสกันขอให้จับมือขวาของกันและกัน และแสดงความสมัครใจต่อหน้าพระเจ้าและศาสนจักรของพระองค์"
พารันและพัดชาหันหน้าเข้าหากันเมื่อสิ้นสุดคำพูดของบาทหลวง พร้อมกับจับมือขวาของกันและกัน แม้ฝ่ามือจะเย็นเฉียบเพราะความตื่นเต้นแต่กลับอบอุ่นใจ พารันกล่าวคำปฏิญาณอย่างหนักแน่น หากแต่รอบดวงตาแดงก่ำ
"ข้าพเจ้าพารันขอรับคุณพัดชาเป็นภรรยา และขอสัญญาว่าจะถือซื่อสัตย์ต่อคุณ ทั้งในยามสุขและยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย เพื่อรักและยกย่อง ให้เกียรติคุณจนกว่าชีวิตจะหาไม่"
"ข้าพเจ้าพัดชาขอรับคุณพารันเป็นสามี และขอสัญญาว่าจะถือซื่อสัตย์ต่อคุณ ทั้งในยามสุขและยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย เพื่อรักและยกย่อง ให้เกียรติคุณจนกว่าชีวิตจะหาไม่"
พิธีการยังคงดำเนินไปเรื่อยๆหลังเจ้าบ่าวและเจ้าสาวกล่าวคำปฏิญาณ ใช้เวลาเพียงไม่นาน จนมาถึงช่วงเวลาสำคัญที่หลายคนรอคอย
"พี่พัดชาโยนมาทางนี้เลยค่า!" นาร์เนียตะโกนบอกพร้อมดึงชายกระโปรงขึ้นเล็กน้อย มองช่อดอกไม้สีขาวในมือพัดชาอย่างมุ่งมั่น ทำเอาเหมราชที่ยืนมองอยู่ข้างหลังกลอกตาไปมา
"ถ้าอยากแต่งขนาดนั้นก็ไปบอกเฮียเหมนู้นไป" ไพลินที่ยืนอยู่ข้างๆผลักเพื่อนรักออกให้พ้นทาง แล้วเบียดออกมายืนขวางหน้าไว้ แต่กลับโดนญาณินที่ยืนอยู่ข้างหลังรัดลำคออย่างแรง
"ข้ามศพนิลไปก่อนเถอะเจ๊"
"อึก! อยากตายเหรอยัยปัญญานิ่ม!"
"นุ่มนิ่มต่างหาก"
"ปล่อย! คิดจะสู้กับฉันเหรอ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เพื่อน(ไม่)สนิท