เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก นิยาย บท 52

“……”เด็กหนุ่มไม่แยแสสนใจ

ญาณีล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของเขาโดยตรง!

ไวศิษฎ์ตกใจกับการกระทำของเธอ“เห้ย!ชายหญิงไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวกันสิ”

พอคลำเจอโทรศัพท์ของเขาก็หยิบออกมาอย่างทันที ก่อนจะถอยหลังไปหนึ่งก้าว จ้องมองเขาด้วยสายตาเยือกเย็น“ไม่ได้ยินที่ตำรวจบอกเหรอ? ว่าต้องพาครอบครัวมา นายกะจะอยู่ที่นี่ตลอดชีวิตหรือไง?”

“คุณก็อยู่นี่ไม่ใช่หรือไง?”ไวศิษฎ์สายตาเต็มไปด้วยความดูถูกดูแคลน“อย่าติดต่อไปหาเขานะ!”

ญาณียื่นโทรศัพท์ไปตรงหน้าของเขา เหมือนกับสั่งว่าให้“ปลดล็อก!”

“ผมไม่อยากเจอเขา!”

“เขาก็คงไม่อยากเจอนายเหมือนกันนั่นแหละ!”ญาณีท่าทางเหมือนกับพี่สาวคนคนโต“รีบปลดล็อกเดี๋ยวนี้ เร็วเข้า!”

ไวศิษฎ์หมดคำพูด ปลดล็อกอย่างหมดหนทาง ญาณีไม่เปิดหน้ารายชื่อ กดหมายเลขก่อนจะโทรศัพท์ออกไปตรงๆเลยทันที

ในเวลานี้ ภีมพลยังคงเดินเล่นอยู่ที่สวนสนุกเป็นเพื่อนกับนภาลัย เธอกินปิงถังหูหลูเม็ดสุดท้ายเสร็จแล้ว

ภีมพลซื้อสายไหมให้กับเธอหนึ่งอัน ยื่นไปตรงหน้าของเธอ“ให้คุณ”

ท่าทางเหมือนกับหุ่นยนต์ คำพูดสองคำเหมือนกับหุ่นยนต์ นภาลัยถลึงตาโต“นี่คุณอยากจะให้ฉันเป็นเบาหวานหรือไง? เพิ่งจะกินปิงถังหูหลูหมดไปเองนะ”

“แสดงว่าคุณไม่เอาสินะ?”ภีมพลพูดถาม

“กินไม่ไหวแล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นก่อนที่จะให้ของกับผู้หญิง จะต้องถามก่อนใช่ไหม?”

“……”เธอตอบไม่ถูก“คุณจงใจใช่ไหม?!”

ในเวลานี้เอง โทรศัพท์ก็ดังขึ้น ภีมพลมือหนึ่งถือสายไหม มือหนึ่งล้วงเข้าไปหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า ตอนที่เขาเห็นสายที่แสดงอยู่นั้น ก็อึ้งตะลึงไปอย่างเห็นได้ชัด

แต่ไหนแต่ไรศิษฎ์ไม่เคยเป็นฝ่ายโทรมาหาเขาก่อนเลย

ภีมพลตะลึงไปหลายวินาที

นภาลัยชำเลืองตามองเขาด้วยความสงสัย“รับสิ”

นิ้วเรียวยาวของเขาสไลด์ปุ่มรับสาย พอได้ฟังเนื้อหาจากภายในสาย ภีมพลก็พูดขึ้น“ได้ จะไปเดี๋ยวนี้”

เกรงว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาพูดคุยกับญาณีด้วยท่าทีที่ดีขนาดนี้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

พอวางสายแล้ว เขาก็พูดกับนภาลัย“วันนี้เที่ยวต่อไม่ได้แล้ว ผมต้องไปที่สถานีตำรวจ ผมจะให้คนขับรถส่งคุณกลับไปก่อน”

“ไปทำอะไรที่สถานีตำรวจ?”นภาลัยพลั้งปากพูดออกมา“ฉันจะไปกับคุณด้วย!”

พอพูดจบ ก็กลัวว่าเขาจะเข้าใจผิด เธอรีบพูดอธิบายต่อทันที“ฉันไม่ได้เป็นห่วงคุณนะ แต่แค่……คุณดูสิ ที่นี่คนเยอะจะตาย เรียกรถลำบาก แล้วคุณก็ไม่มีทางไปส่งฉันกลับไปก่อนแน่นอน ไม่อย่างนั้นมันจะเสียเวลาอยู่ไม่น้อยเลย”

ภีมพลหันตัวเดินตรงไปยังลัมโบร์กินี่อย่างรวดเร็ว ไม่ได้บอกว่าจะไม่พาเธอไปด้วย

นภาลัยตามหลังของเขา ในใจเต็มไปด้วยความสงสัย เกิดเรื่องอะไรที่ทำให้เขาประหม่าขนาดนี้กันนะ?

ตามเขาขึ้นไปบนรถด้วยความรีบร้อน คนขับรถสตาร์ทรถอย่างรวดเร็ว

นภาลัยไม่ได้พูดถามอะไรมากมาย รู้สึกว่าใบหน้านั้นของเขานิ่งขรึมถึงขนาดที่ทำให้คนสั่นเทาได้เลย อากาศทั่วทั้งรถก็ชวนให้รู้สึกตื่นกลัวเช่นกัน

เขาถือสายไหมรูปกระต่ายขาวเอาไว้อยู่หนึ่งอัน ทั้งน่ารักทั้งเย็นชาจริงๆ คงจะเป็นกังวลใจกับเรื่องทางสถานีตำรวจมากเกินไป จนลืมสายไหมอันนี้ไปเลยสินะ?

ภีมพลคิ้วขมวดเล็กน้อย แววตานิ่งลึก

จนกระทั่งรถมาจอดตรงที่สถานีตำรวจ ภีมพลไม่รอให้คนขับรถมาเปิดประตู เขาเปิดประตูลงไปจากรถอย่างรวดเร็ว นภาลัยก็รีบตามออกไปเช่นกัน

ภีมพลเดินถือสายไหมตลอดทางจนมาถึงห้องรอสอบสวน!

ญาณีที่เดิมทีรู้สึกดีใจอย่างมาก แต่วินาทีที่เห็นว่านภาลัยก็เข้ามาด้วยเหมือนกันนั้น ภายในใจก็รู้สึกอัดอั้นทันที ทำไมถึงพาเธอมาด้วย?

ภีมพลจ้องมองไวศิษฎ์ ไวศิษฎ์หลบสายตาของเขา แม้ว่าใบหน้าจะได้รับบาดเจ็บ แต่หน้าก็ยังคงดื้อรั้นอยู่

นภาลัยรู้สึกได้ว่าบรรยากาศมันผิดแปลก

วินาทีต่อมา ภีมพลก็เดินตรงไปยังห้องสอบสวน

ทั้งสองคนที่อยู่ข้างนอกไม่ได้พูดคุยกัน ญาณีมองนภาลัย นภาลัยหลบสายตาของเธอ หยิบโทรศัพท์ออกมาเลื่อนดูติ๊กต็อก

ญาณีสีหน้ายุ่งยากซับซ้อน ภายในใจบอกไม่ถูกว่ากำลังรู้สึกอะไรอยู่

ดูท่าภีมพลคงจะไม่ได้มองว่าเธอเป็นคนนอกสินะ

ไม่นาน ภีมพลก็ออกมา จ้องมองไวศิษฎ์ด้วยสีหน้าเยือกเย็น

“ผมไม่ได้ให้คุณมาหรอกนะ แต่พี่ญาณีดึงดันจะติดต่อคุณให้ได้”น้ำเสียงของเด็กหนุ่มดูถูกดูแคลนอย่างมาก ไม่ได้จ้องมองเขาตรงๆตั้งแต่แรก

ท่าทีของเด็กหนุ่มทำให้แววตาสีดำของภีมพลเปลี่ยนไปนิ่งลึกอย่างไร้ขอบเขต แววตาแฝงไปด้วยรังสีอันตราย

ญาณีกลัวว่าเขาจะโมโห จึงรีบพูดโน้มน้าวขึ้นมา“ภีมพล คุณไม่ต้องไปโกรธไวศิษฎ์หรอก เรื่องนี้โทษเขาไม่ได้จริงๆ เป็นความผิดของผู้ชายคนนั้น ศิษฎ์แค่ยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น ตอนนั้นฉันก็อยู่ที่นั่นด้วยเหมือนกัน ฉันเป็นพยานให้ได้!จริงๆนะ!”

ภีมพลจ้องมองไวศิษฎ์ ครึ่งหน้าปูดบวม กระดาษที่อุดจมูกเอาไว้ก็ย้อมจนเป็นสีแดง ไม่ว่าท่าทางที่แสดงออกมาจะปล่อยใจสบายๆขนาดไหนก็ปกปิดความอัดอั้นลำบากใจเอาไว้ไม่มิดอยู่ดี การทะเลาะวิวาทกันในครั้งนี้ เขาพ่ายแพ้อย่างเห็นได้ชัด

“ภีมพล……”ญาณีไม่อยากทำให้เรื่องมันต้องมาพังลงแบบนี้ ถึงยังไงเธอก็เป็นคนโทรศัพท์ไป

“ถ้าใจกล้าก็สู้ให้ชนะสิ อย่าก่อเรื่องซะจนมาอับอายขายขี้หน้าที่สถานีตำรวจแบบนี้”ภีมพลน้ำเสียงเย็นชา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก