สำหรับหวังหย่ง การผ่าตัดตลอดสองวันนี้เรียกได้ว่ามีแต่ประโยชน์ไม่มีโทษ เขาไม่เคยรู้สึกได้รับการเติมเต็มและได้พัฒนาความรู้เหมือนสองวันนี้มาก่อนเลย!
หวังหย่งผ่าตัดถุงน้ำดีเสร็จไปแล้วหนึ่งเคสโดยมีเฉินชางคอยช่วยเหลือ แม้จะไม่คล่องเช่นเฉินชาง แต่ก็ผ่าตัดสำเร็จได้อย่างราบรื่น
การผ่าตัดต้องฝึกฝนบ่อยๆ จึงจะเชี่ยวชาญ เฉินชางคล้ายกับมีตาวิเศษ มักพบจุดที่หวังหย่งยังทำไม่ดีพออยู่เสมอ
หมอที่ผ่าตัดถุงน้ำดีได้ ค่อยๆ ถือกำเนิดขึ้นในแผนกฉุกเฉินแล้ว!
เมื่อมีหวังหย่งมาเข้าร่วมการผ่าตัด ทำให้งานดำเนินไปอย่างมีระบบระเบียบมากขึ้น การผ่าตัดสี่สิบกว่าเคสกำลังดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบ
ผู้ป่วยเข้ารับการผ่าตัดไปตามคิวจนเสร็จตั้งแต่ยังไม่ถึงวันพุธ ตอนนี้มีผู้ป่วยราวๆ สิบกว่าคนที่แอดมิทอยู่ในโรงพยาบาลเพื่อรอผ่าตัดและฟื้นตัว ตอนนี้จู่ๆ ทุกคนก็รู้สึกว่า…ทำไมอยู่ดีๆ ผู้ป่วยเกี่ยวกับถุงน้ำดีถึงได้ลดน้อยลงล่ะ?
ในฐานะที่หลี่เป่าซานเป็นหัวหน้าแผนก เขารู้สึกราวกับใบหน้าเปล่งแสงได้ อย่างไรเสีย การมีเฉินชางและหวังหย่งอยู่ก็ทำให้แผนกฉุกเฉินมีหมอเก่งๆ เพิ่มขึ้นอีกสองคน! ทำให้ห้องผ่าตัดของแผนกฉุกเฉินเริ่มก้าวเข้าสู่ระดับสูง เข้าร่องเข้ารอยมากขึ้นแล้ว
จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงวันพุธ การประชุมใหญ่ของโรงพยาบาลก็เริ่มขึ้น! หัวหน้าแผนกที่เกี่ยวข้องต่างพากันมาร่วมประชุม จางโหย่วฝูผู้เป็นหัวหน้าแผนกศัลยกรรมทั่วไปรอวันนี้มานานแล้ว!
การประชุมครั้งนี้จะเป็นการสรุปเรื่องต่างๆ ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเรื่องที่สำคัญที่สุดของสัปดาห์ที่แล้วก็คือเรื่องที่แผนกฉุกเฉินได้รับห้องผ่าตัดใหม่
ตอนนี้หลี่เป่าซานกำลังกล่าวรายงานความก้าวหน้าของงานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ที่แผนกได้รับห้องผ่าตัดใหม่มา
ทว่าในขณะที่รายงานอยู่นั้นเอง จู่ๆ จางโหย่วฝูก็กล่าวขัดขึ้นมาว่า “ดูเหมือนสถานการณ์ที่หลี่เป่าซานรายงานจะไม่เป็นความจริงนะครับ!”
เมื่อเขากล่าวออกมาเช่นนี้ ทุกคนรอบๆ ต่างพากันเงยหน้าขึ้น!
จางโหย่วฝูกล่าวว่า “เท่าที่ผมรู้ ตอนนี้ห้องผู้ป่วยของแผนกฉุกเฉินรับคนไข้เกินอัตรา ทรัพยากรในการกู้ชีพถูกใช้ไปจำนวนมาก หากใครไม่ทราบคงคิดว่าแผนกฉุกเฉินเป็นแผนกผู้ป่วยในแล้ว!”
หลี่เป่าซานกล่าวขึ้นบ้าง “ลักษณะการรักษาพยาบาลของแผนกฉุกเฉินมีความพิเศษของตัวมันเอง และที่แผนกก็มีทรัพยากรในการกู้ชีพเพียงพอ ทำให้รับหน้าที่ในการช่วยชีวิตได้ทั้งหมด ไม่ทราบว่าเรื่องที่หัวหน้าแผนกจางกล่าวถึงคือด้านใดหรือครับ”
จางโหย่วฝูเห็นหลี่เป่าซานค้านหัวชนฝาจึงคิดไปว่า ยังไม่ยอมรับสินะ? ดังนั้นจึงกล่าวออกมาอย่างละเอียด “ผมได้ยินมาว่าแผนกฉุกเฉินรับผู้ป่วยที่ต้องผ่าตัดถุงน้ำดีมาสี่สิบกว่าคน ในนั้นมีผู้ป่วยประเภทถุงน้ำดีอักเสบ นิ่วในถุงน้ำดี…และโรคที่บ่งชี้ว่าต้องทำการผ่าตัดอื่นๆ อีก ผมพูดถูกหรือเปล่าครับ? ผู้ป่วยสี่สิบกว่าคนนี้รออยู่ในห้องพักผู้ป่วยของแผนกฉุกเฉิน แบบนี้จะไม่ส่งผลกระทบกับการหมุนเวียนผู้ป่วยฉุกเฉินหรือครับ?”
หลี่เป่าซานชะงักไปครู่หนึ่ง ตอนนี้ห้องพักผู้ป่วยในแผนกฉุกเฉินมีคนแค่สิบห้าคนนะ? มีผู้ป่วยแอดมิทมากขนาดนั้นที่ไหนกัน คนพวกนั้นออกจากโรงพยาบาลไปหมดแล้ว โอเคไหม…
หลี่เป่าซานพยักหน้า “ใช่ครับ! ผมกำลังจะรายงานพอดี หลายวันนี้ในแผนกฉุกเฉินมีผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดถุงน้ำดีเกือบสี่สิบคน แต่ว่า…ทุกคนได้รับการจัดการอย่างเหมาะสมแล้วครับ”
จางโหย่วฝูเห็นหลี่เป่าซานพูดเช่นนี้จึงหัวเราะออกมาทันที “ในหมู่ผู้ป่วยเหล่านี้มีหลายคนที่ต้องผ่าตัดให้เสร็จภายในสามวัน หัวหน้าแผนกหลี่ ในฐานะที่คุณเป็นหัวหน้าแผนกฉุกเฉินควรเข้าใจเรื่องนี้ดีกว่าพวกเรานะครับ! ที่ผมอยากจะถามก็คือ แผนกฉุกเฉินมีความสามารถที่จะผ่าตัดสี่สิบกว่าเคสให้เสร็จภายในสามวันหรือ?”
“เท่าที่ผมรู้ หัวหน้าหลี่ยุ่งทุกวัน คุณต้องไปเข้าร่วมการผ่าตัดขนาดใหญ่อยู่บ่อยๆ ดังนั้นภายในแผนกฉุกเฉินจึงมีแค่เฉินปิ่งเซิงที่มีความสามารถมากพอที่จะผ่าตัดถุงน้ำดีได้ คนคนเดียวจะผ่าตัดได้สี่สิบกว่าเคสเลยหรือครับ?”
“ในเมื่อแผนกฉุกเฉินไม่มีความสามารถมากพอที่จะผ่าตัดสี่สิบเคสได้สำเร็จ แล้วทำไมถึงได้รับผู้ป่วยมากขนาดนั้นล่ะครับ? ทำแบบนี้ไม่เพียงแต่จะไม่เป็นผลดีต่อการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยฉุกเฉินทั่วไป ทั้งยังไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพของผู้ป่วยด้วยนะครับ!”
“ดังนั้นผมคิดว่าแผนกฉุกเฉินจัดการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก็พอแล้ว รับผิดชอบงานรักษาพยาบาลฉุกเฉินไปให้ดีก็พอ ส่วนเรื่องการผ่าตัดก็มอบให้แผนกที่เกี่ยวข้องไปทำดีกว่า! และเรื่องห้องผ่าตัด ในเมื่อไม่ให้แผนกศัลยกรรมทั่วไปของพวกเรา ก็ควรมอบให้เป็นห้องผ่าตัดรวมนะครับ”
“ความหมายของผมก็คือ ไม่ใช่ว่าจะไม่ให้ห้องผ่าตัดกับแผนกฉุกเฉิน แต่มันยังไม่ถึงเวลา ผมคิดว่าควรรอให้แผนกฉุกเฉินตั้งทีมผ่าตัดของแผนกขึ้นมาให้ได้ก่อน พอถึงเวลาที่แผนกจัดการเรื่องนี้ได้ดี ค่อยมอบห้องผ่าตัดให้แผนกฉุกเฉินก็ได้นะครับ!”
หัวหน้าแผนกทุกคนที่อยู่ในที่ประชุมเข้าใจแล้ว! พูดไปพูดมา สุดท้ายก็ต้องการแย่งห้องผ่าตัดนั่นเอง!
อย่าได้ดูถูกห้องผ่าตัดเป็นอันขาด สำหรับแผนกแผนกหนึ่ง ห้องผ่าตัดห้องหนึ่งสร้างกำไรได้อย่างน่ากลัว นี่เป็นสิ่งที่จะต้องแย่งชิงกัน!
จู่ๆ หลี่เป่าซานก็ยิ้มออกมา “ดูเหมือนหัวหน้าแผนกจางใส่ใจเรื่องความก้าวหน้าของแผนกพวกเรามากเลยนะครับ ผมทำตารางสรุปผลมาแล้ว นี่คือรายงานข้อมูลตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มตั้งแต่ที่แผนกฉุกเฉินได้รับห้องผ่าตัด!”
“ตั้งแต่ที่แผนกฉุกเฉินได้รับมอบห้องผ่าตัดมาเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ และหากนับตั้งแต่จัดเตรียมอุปกรณ์เรียบร้อยแล้วก็จะเป็นเวลาสี่วัน พวกเราทำการผ่าตัดไปทั้งหมดหกสิบเจ็ดเคส ในนั้นมีการผ่าตัดถุงน้ำดีด้วยการส่องกล้องสี่สิบห้าเคส การผ่าตัดไส้ติ่งห้าเคส การผ่าเย็บกล้ามเนื้อแปดเคส…”
เมื่อหลี่เป่าซานกล่าวรายงานออกมาทั้งหมด ทุกคนที่อยู่ในห้องประชุมก็อดตื่นตะลึงไม่ได้!
ผ่าตัดหกสิบเจ็ดเคสในสี่วัน!
ไม่ว่าจะเป็นแผนกไหน หากมีผลงานเช่นนี้ก็ดูถูกไม่ได้จริงๆ
เมื่อจางโหย่วฝูได้ยินดังนั้นก็แค่นเสียงหัวเราะออกมาครั้งหนึ่ง “จะโม้ก็ช่วยทำให้มันเนียนหน่อยเถอะครับ? หัวหน้าแผนกหลี่ นี่คือการประชุมใหญ่ของโรงพยาบาล ไม่ใช่ที่ที่คุณจะมาล้อเล่นได้ ตัวเลขนี้คุณทำไม่ได้แน่นอน! แผนกฉุกเฉินไม่มีความสามารถขนาดนี้แน่!”
หลี่เป่าซานยิ้มจางๆ ออกมา “การผ่าตัดทุกเคสมีบันทึกการผ่าตัดอยู่นะครับ ใช่แล้ว หัวหน้าแผนกจาง คุณอาจไม่เข้าใจแผนกฉุกเฉินของพวกเรามากนัก แผนกของพวกเรามีคนที่ผ่าตัดถุงน้ำดีได้ทั้งหมดสามคน ซึ่งในสามคนนี้มีเฉินปิ่งเซิงที่คุณพูดถึงอยู่ด้วย นอกจากเขาแล้วยังมีเพื่อนร่วมงานของพวกเราอีกสองคน คนหนึ่งก็คือเฉินชางที่เพิ่งจะได้รับบรรจุไป อีกคนก็คือหวังหย่ง”
“มีหมอสามคนแล้ว จะยังผ่าตัดสี่สิบกว่าเคสภายในสามวันไม่ได้อีกหรือครับ?”
“ยิ่งไปกว่านั้น พวกเรามีผู้ป่วยเยอะมาก ไม่ใช่แค่สี่สิบเคสเท่านั้น ห้องผ่าตัดของพวกเราไม่เคยว่างเลย แต่ผมกลับได้ยินว่าตอนนี้ที่แผนกศัลยกรรมทั่วไปมีผู้ป่วยไม่เยอะ แต่มีห้องผ่าตัดมาก หัวหน้าแผนกจาง ถ้าคุณต้องการ พวกเราร่วมมือกันก็ได้นะครับ”
เมื่อคำนี้ถูกกล่าวออกมา จางโหย่วฝูก็แทบจะกระอักเลือด!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ