เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ นิยาย บท 112

กัวเฉิงมองนางพยาบาล “ผู้อำนวยการมาหรือ?”

นางพยาบาลพยักหน้า “ใช่ค่ะ ไม่ใช่แค่ผู้อำนวยการ ยังมีคนมาด้วยสองคน บอกว่าเป็นญาติผู้ป่วยค่ะ”

กัวเฉิงขมวดคิ้ว ส่วนเฉินชางไม่พูดอะไร ยังคงผ่าตัดต่อไป

อาการของผู้ป่วยไม่ดีนัก แม้ดูผิวเผินจะไม่เห็นปัญหาใหญ่ แต่หากยืดเยื้อต่อไปจะต้องเกิดปัญหาแน่นอน! เมื่อถึงตอนนั้นจะผ่าตัดอีกครั้งก็ไม่ทันแล้ว!

กัวเฉิงพูดกับเฉินชางว่า “หมอเฉินครับ คุณผ่าตัดไปนะครับ เดี๋ยวผมจะไปดูหน่อยว่ามีเรื่องอะไร”

กัวเฉิงพูดจบก็เดินออกไปหน้าห้องผ่าตัด พบคนทั้งสามที่มี “อาวุธครบมือ” กำลังเดินมาพอดี

ซุนเจิ้งเหว่ยมองไปที่กัวเฉิง “การผ่าตัดยังราบรื่นดีหรือเปล่า?”

กัวเฉิงส่ายหน้า “สถานการณ์ไม่ดีเลยครับ เดิมทีจะผ่าตัดด้วยการส่องกล้อง แต่เมื่อส่องกล้องดูแล้วพบว่าอาการของผู้ป่วยแย่มาก สภาพของลำไส้ไม่ดี ลำไส้เล็กส่วนดูโอดีนัมบวมจนเป็นหนอง ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก และกระเพาะมีพังผืดติดช่องท้องจนเห็นได้ชัด ทำให้มองสามเหลี่ยมถุงน้ำดีไม่ชัด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการผ่าตัดเลย!”

เมื่อกัวเฉิงพูดจบ จิ้นชิงจื้อก็อดเครียดขึ้นมาไม่ได้ แต่เขารู้ว่าห้องผ่าตัดไม่ใช่สถานที่ที่จะทำตัวไร้อารยะ และทำอะไรมั่วๆ ไม่ได้ด้วย ดังนั้นจึงมองไปที่เพื่อนเก่าด้วยท่าทางเคร่งเครียด “หลี่เฮ่อ…”

หลี่เฮ่อโบกมือ “ไม่เป็นไร มีฉันอยู่นายวางใจเถอะ ไปรอด้านนอกเลย ถ้านายเข้าไปด้านในอาจจะยุ่งยาก ผู้อำนวยการซุน คุณกับชิงจื้อไปพักผ่อนก่อนเถอะ”

ซุนเจิ้งเหว่ยพยักหน้า “กัวเฉิง หมอคนนั้นเป็นใคร? ทำไมดูหนุ่มขนาดนั้นล่ะครับ”

กัวเฉิงดวงตาเปล่งประกายเล็กน้อย “เขาชื่อเฉินชาง เป็นผู้เชี่ยวชาญที่ผมเชิญมาจากโรงพยาบาลอันดับสองครับ”

ซุนเจิ้งเหว่ยส่งเสียงอืมครั้งหนึ่ง อายุเท่านี้เองหรือ? เขาคือผู้เชี่ยวชาญที่กัวเฉิงเชิญมาจากโรงพยาบาลอันดับสองหรือ?

กัวเฉิงคนนี้นี่! ผู้เชี่ยวชาญจะหนุ่มขนาดนี้ได้อย่างไร! เฉินชาง…เฉินชาง?

ซุนเจิ้งเหว่ยส่งเสียงพึมพำอยู่หลายครั้ง แต่อย่างไรก็ไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน

เขาจะร้ายกาจขนาดไหนกันเชียว? ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลอันดับสองจะสู้ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาล 301 ได้หรือ?

ซุนเจิ้งเหว่ยพยักหน้า “คุณไปบอกให้หมอเฉินถอยไปเถอะ นี่คือผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาล 301 ที่มาจากเมืองหลวง หัวหน้าหลี่เฮ่อ”

กัวเฉิงรู้สึกกระอักกระอ่วนไปโดยพลัน

เขาเป็นคนเชิญเฉินชางมา ตอนนี้พอมีผู้เชี่ยวชาญมาจากเมืองหลวงก็จะบอกให้เฉินชางวางมือ นี่จะทำให้อีกฝ่ายขายหน้าขนาดไหนกัน?

การแย่งหน้าที่บนเตียงผ่าตัดถือเป็นเรื่องต้องห้าม

กัวเฉิงมีสีหน้าไม่ดี “ผู้อำนวยการซุน…หมอเฉินชางเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ผมเชิญมาอย่างยากลำบาก ทำแบบนี้…ไม่ดีเลยนะครับ!”

จิ้นชิงจื้อรีบพูดขึ้นว่า “หัวหน้าแผนกกัว คุณวางใจเถอะ หลังจากจบเรื่องนี้ผมจะจัดการเอง คุณไม่ต้องกังวล ผมจะอธิบายเองครับ สุขภาพของพ่อผมสำคัญกว่า! พวกเราไปผ่าตัดก่อนเถอะ ทำเสร็จค่อยว่ากัน!”

เมื่อเทียบกับทุกคน หลี่เฮ่อยังตัดสินใจได้ดีกว่า “อีกสักครู่ผมจะไปผ่าตัดด้วยกันกับหมอเฉิน พวกคุณออกไปก่อนเถอะ การผ่าตัดจะยืดเยื้อไม่ได้แล้ว”

จากนั้นจึงเดินเข้าไปที่เตียงผ่าตัดโดยไม่อธิบายอะไรเพิ่มเติม

กัวเฉิงรู้สึกปวดหัวจริงๆ เขารีบเดิมตามหลี่เฮ่อเข้าไป

หากเทียบกับหลี่เฮ่อ กัวเฉิงชอบเฉินชางมากกว่า เพราะต่อให้หลี่เฮ่อเก่งแค่ไหน จะมาไกลจากเมืองหลวงหรือมีความสัมพันธ์มากมายอย่างไร แต่เฉินชางอายุยังน้อยก็มีความสามารถในการผ่าตัดที่ไม่ธรรมดาขนาดนี้แล้ว รวมกับความถ่อมตัวของเขา อีกทั้งตอนนี้ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลอันดับสอง วันหน้าจะร่วมมือกันง่ายกว่า

เมื่อคิดถึงตรงนี้ กัวเฉิงก็อดถอนใจไม่ได้…

ตอนนี้เฉินชางไม่มีอารมณ์ไปสนใจเรื่องอื่น เนื่องจากการผ่าตัดดำเนินมาถึงช่วงเวลาสำคัญแล้ว

กระเพาะ ลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ติดกันอยู่ในช่องท้อง ยิ่งไปกว่านั้น ลำไส้เล็กยังบวมจนเป็นหนอง ลำไส้ใหญ่มีการเสียหายเล็กน้อย ตอนนี้แยกออกจากกันยากมาก!

หลี่เฮ่อมองเพียงปราดเดียวก็พบว่าปัญหาอยู่ที่ใด เมื่อเห็นเฉินชางหยิบเครื่องอัลตร้าฟอร์มเมอร์[1]ขึ้นมาใช้งานด้านหน้า ส่วนมือซ้ายก็ถือตะขอเกี่ยวคอยแยกอวัยวะอย่างระมัดระวัง หลี่เฮ่อก็อดชะงักไปไม่ได้ ชายหนุ่มคนนี้พอมีฝีมืออยู่บ้าง!

ระดับการเป็นพังผืดของช่องท้องนี้ค่อนข้างสูง สภาพของลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ก็แย่มาก หากคิดจะแยกออกจากกันก็แยกออกทื่อๆ ไม่ได้ เนื่องจากหากใช้แรงมากไป ไม่ว่าคุณจะแยกออกได้หรือไม่ก็จะทำให้ลำไส้เสียหายแน่นอน!

ตอนนี้จึงจำเป็นต้องใช้อัลตร้าฟอร์มเมอร์เป็นทัพหน้าอย่างชาญฉลาด ค่อยๆ แยกพังผืดออกทีละน้อย

วิธีการนี้ดูเหมือนง่าย! แต่ความจริงอันตรายมาก

หลี่เฮ่อไม่กล้ารบกวนเฉินชาง เพราะหากมือสั่นขึ้นมาเพียงนิดเดียวจะเกิดปัญหาได้

ขั้นตอนนี้ผู้ผ่าตัดจำเป็นต้องมีมือที่มีพละกำลังสูง มีความนิ่งและความอดทนที่ดี เพราะมือทั้งสองต้องอยู่ในสภาพนี้มากกว่าสามสิบนาที และยังต้องทำงานอยู่ตลอดเวลาด้วย

หลี่เฮ่อทำได้หรือเปล่า? เขาเองก็ไม่กล้ารับประกัน! เพราะปกติการผ่าตัดเช่นนี้จะกำหนดให้มีหมอสองถึงสามคนผ่าตัดร่วมกัน