ตอน บทที่ 201 หลอดอาหารทะลุ! จาก เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 201 หลอดอาหารทะลุ! คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายSlice of Life เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
บทที่ 201 หลอดอาหารทะลุ!
การที่โรงพยาบาลไม่มีแผนกศัลยกรรมทรวงอกนับเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมากมากเรื่องหนึ่ง!
หรือการที่โรงพยาบาลขาดแผนกใดแผนกหนึ่งไป ล้วนเป็นเรื่องที่จัดการได้ยากมากเช่นกัน
ในตอนนี้ เซียวเหอกำลังเผชิญกับปัญหาเช่นนี้อยู่!
เหล่าหยางเป็นผู้ป่วยเก่าแก่ของเซี่ยวเหอ ทั้งยังเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน เขาเป็นผู้ป่วยประจำของเซียวเหอมาหลายสิบปีแล้ว เมื่อปี 2007 เขามาส่องกล้องเพราะภรรยาของเขามีเลือดปนอยู่ในอุจจาระ และด้วยเสียงยุยงของเสี่ยวหยางลูกเขาตื๊อให้เขาส่องกล้องด้วย เหล่าหยางเองในตอนนั้นก็อยากรู้อยากลองเทคโนโลยีใหม่ๆ ก็เลยส่องกล้องด้วย
ตอนไม่ตรวจก็ไม่รู้ พอได้ตรวจก็พบติ่งเนื้องอก ผลคือเอาชิ้นเนื้อไปตรวจแล้วพบว่าเป็นมะเร็งกระเพาะ!
เรื่องนี้สำหรับครอบครัวคนจนแล้วเรียกได้ว่าเป็นเรื่องร้ายแรงใหญ่โต
เมื่อป่วยก็ต้องรักษา ครอบครัวหมดเงินเป็นแสนหยวนเพื่อทำการผ่าตัดที่เมืองหลวง เดินทางไปๆ มาๆ เพื่อรับยามากิน จนกระทั่งทั้งครอบครัวหมดตัว
โชคดีที่เงินหมดไปแล้ว คนยังมีชีวิตอยู่
เซียวเหอจำได้ว่าครั้งก่อนเขาคุยกับหมอแผนกเนื้องอกวิทยา ได้คุยกันถึงประเด็นหนึ่ง นั่นก็คือเรื่องอะไรที่น่าเจ็บปวดใจมากที่สุด
หยางซีหมอแผนกเนื้องอกวิทยาบอกว่า “มาที่โรงพยาบาล เรื่องที่น่าเจ็บปวดที่สุดคือเงินหมดแล้ว แล้วคนก็ไม่มีชีวิตอยู่แล้ว”
เหล่าหยางนับว่าโชคดี เจอเนื้องอกไว ก็เลยรักษาได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ทั้งยังนับว่าเป็นคนที่ฟื้นตัวไวด้วย
แต่เรื่องนี้สร้างความตื่นตระหนกให้กับคนในครอบครัว ก็เลยมักจะพาเหล่าหยางมาส่องกล้องตรวจทางเดินอาหารเป็นประจำ
ถึงเซียวเหอจะอธิบายปลอบโยนให้คลายกังวลครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่เป็นผล
ฐานะทางครอบครัวของเหล่าหยางไม่ดี เสี่ยวหยางลูกชายของเขาทำงานอยู่ที่เมืองอันหยาง ลูกสะใภ้เป็นพนักอยู่ร้านอาหาร ส่วนพ่อแม่เลี้ยงหลานอยู่ที่ชนบท
เสี่ยวหยางเป็นลูกกตัญญู พาพ่อมาส่องกล้องตรวจทางเดินอาหารที่โรงพยาบาลเป็นประจำ ให้พ่อได้ตรวจอย่างดี ทุกครั้งที่มาตรวจต้องเสียเงินค่าตรวจไม่น้อย ลูกสะใภ้ก็ไม่เคยปริปากบ่นสักคำ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ครอบครัวนี้จัดว่าเป็นครอบครัวที่เรียกได้ว่ารักใคร่กลมเกลียวครอบครัวหนึ่ง
เมื่อไปมาหาสู่ระหว่างบ้านกับโรงพยาบาลบ่อยครั้ง ความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัวกับเซียวเหอก็ยิ่งแน่นแฟ้น ทุกครั้งที่มาตรวจ เซียวเหอจะเป็นคนตรวจให้กับมือ จนพวกเขาแทบจะกลายเป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว
บวกกับเซียวเหอกับเหล่าหยางอยู่หมู่บ้านเดียวกัน ทั้งสองก็เลยยิ่งไม่มีกำแพงต่อกัน ทุกครั้งที่เหล่าหยางมาส่องกล้อง ก็จะเอาถั่ว ข้าวโพด มันฝรั่ง มันเทศ และลูกเดือยที่ปลูกเองมากฝาก
ในครั้งนี้ก็เป็นเหมือนทุกครั้ง เมื่อเหล่าหยางมาถึงก็ได้เจอกับเซียวเหอ “หัวหน้าเซียว ช่วงนี้ผมรู้สึกไม่ค่อยสบาย กินของแข็งๆ จะรู้สึกแสบร้อนจนทนไม่ไหว หัวหน้าเซียวดูให้ผมหน่อยว่าเป็นอะไร”
โดยทั่วไปส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยที่ส่องกล้องจะพักอยู่ที่โรงพยาบาล เพราะต้องการเบิกค่ารักษาภายหลัง ประกันสุขภาพของเหล่าหยางยื่นเบิกที่โรงพยาบาลอันดับสองได้เพียงห้าสิบถึงหกสิบเปอร์เซ็นต์ นับว่าไม่เบิกได้ไม่สูง เมื่อเทียบกับการนอนโรงพยาบาลจะเบิกได้ก้อนใหญ่กว่า แต่ก็ยังสู้มาหาเซียวเหอโดยตรงไม่ได้ เสียค่าส่องกล้องไม่กี่ร้อยหยวนเท่านั้น
เหล่าหยางส่องกล้องตรวจทางเดินอาหารบ่อยจนเคยชิน งดน้ำงดอาหารให้ท้องว่างมาตั้งแต่เช้า เตรียมตัวพร้อมทุกอย่าง เมื่อมาถึงโรงพยาบาลแล้วก็มาหาเซียวเหอโดยตรงเลย
เหล่าหยางกล่าวว่า “ช่วงนี้ผมมักรู้สึกว่าหลังกินอะไรเข้าไปแล้วจะแสบร้อนจนทนไม่ไหว ช่วงนี้เลยไม่กล้ากินอะไรแล้ว กินแต่โจ๊กน่ะครับ”
เพื่อที่จะประหยัดเงิน ถึงตอนส่องกล้องตรวจทางเดินอาหาร ถึงเหล่าหยางจะรู้สึกเจ็บแต่เขาก็ทนจนชินแล้ว ตอนที่เซียวเหอสอดอุปกรณ์เข้าไปทางลำคออย่างช้าๆ
เขารู้สึกว่าในครั้งนี้ค่อนข้างเจ็บกว่าครั้งก่อน!
เหล่าหยางก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คงจะอักเสบแหละมั้ง
ในตอนที่เซียวเหอสอดอุปกรณ์เข้าไปในส่วนลึกของหลอดอาหาร จู่ๆ ก็รู้สึกว่าเหล่าหยางกระตุก
“เหล่าหยาง คุณอดทนก่อน อย่าขยับครับ”
ความรู้สึกเจ็บเวลาส่องกล้องตรวจทางเดินอาหารไม่ถือว่าเป็นอันตราย และไม่สร้างความรู้สึกเจ็บมากนัก หลักๆ แล้วคือทำให้รู้สึกไม่สบาย ค่อนข้างทรมาน แต่เหล่าหยางมาตรงประจำทุกปี ทนต่อความรู้สึกเหล่านี้ได้ดีมาก
เหล่าหยางยังคงทนต่อไป
ทว่าในตอนที่เซียวเหอสอดอุปกรณ์เข้าไปลึกขึ้น ทันใดนั้นเหล่าหยางก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง!
ทันใดทันร่างกายของเขาก็พลิกบิดตัวอย่างควบคุมไม่ได้
เดิมทีอาการเช่นนี้ไม่น่ากลัวนัก ถึงอย่างไรเสียอุปกรณ์ที่สอดเข้าไปก็อ่อนนุ่ม ไม่ต่างอะไรจากหลอดพลาสติกมากนัก ทั้งยังมีขนาดเล็กเรียวยาวและอ่อนนุ่ม
อย่างมากที่สุดก็แค่รู้สึกไม่สบายนิดหน่อย
ทว่าในจังหวะที่เหล่าหยางพลิกบิดตัว ปลายอุปกรณ์ที่สอดเข้าไปก็ชนเข้ากับผนังหลอดอาหาร
เซียวเหอรู้สึกได้ถึงสัมผัสที่ว่างเปล่า!
เซียวเหอหน้าถอดสีทันใด!
มิน่าเล่าหัวหน้าเซียวถึงได้ตื่นตระหนก
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ทุกคนต่างก็มองเซียวเหอที่สีหน้าเคร่งเครียด
เวลานี้จำเป็นต้องรีบทำเรื่องย้ายโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัดให้เร็วที่สุด…
ถึงอย่างไรเสียทุกคนต่างก็รู้ว่าโรงพยาบาลอันดับสองเปี่ยมคุณธรรมขนาดไหน การผ่าผัดประเภทนี้โรงพยาบาลของเราทำไม่ได้ เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ทุกคนก็ถึงขั้นรู้สึกเศร้าใจ โรงพยาบาลไม่มีแผนกที่คอยเกื้อหนุน ทำให้หมอก็ขาดความมั่นใจ
หมอในแผนกมองเซียวเหอที่ข่มสีหน้าให้สงบนิ่ง ดึงสายอุปกรณ์ออกมาอย่างระมัดระวัง
เหล่าหยางที่นอนอยู่บนเตียง พลิกตัวลุกขึ้น มือทั้งสองข้างกุมอก และจากนั้นก็นั่งอยู่ในท่าคุกเข่า
รองหัวหน้าโหวซวี่มองเซียวเหอ “หัวหน้า…ติดต่อย้ายโรงพยาบาลทันมั้ย”
เซียวเหอขมวดคิ้วเข้าหากัน ย้ายโรงพยาบาล มีทางเดียวเท่านั้นหรือ!
ถึงอย่างไรเสียการผ่าตัดเย็บหลอดอาหารก็เป็นเรื่องที่โรงพยาบาลเราทำไม่ได้
หลังจากเซียวเหอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “ไปตามครอบครัวของเหล่าหยางเข้ามา พวกคุณแยกย้ายกันไปทำงานได้แล้วครับ”
พยาบาลรีบวิ่งออกไปตามครอบครัวเหล่าหยาง
ไม่นานเสี่ยวหยางกับคุณแม่ก็เดินเข้ามาในห้อง
เซียวเหอมองหน้าทั้งสองคนแล้วก็ถอนหายใจออกมา กล่าวอย่างช้าๆ “เกิดปัญหากับเหล่าหยางตอนที่ส่องกล้องครับ”
ภรรยาของเหล่าหยางตัวสั่นเทิ้มในทันใด ถามเซียวเหอด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ “หัวหน้าเซียวคะ…เกิดอะไรขึ้นคะ เจอโรคอะไรอีกหรือเปล่าคะ”
เซียวเหอส่ายหน้า “เปล่าครับ ไม่ตรวจเจอโรคอะไร ครั้งนี้…หลอดอาหารของเหล่าหยางทะลุครับ”
ทั้งสองสีหน้างุนงง ไม่เข้าใจว่าหมายความว่าอย่างไร
“หมายความว่ายังไง หัวหน้าเซียว…พวกเราต้องทำไง”
“…หลอดอาหารทะลุนี่น่ากลัวหรือเปล่า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ