มีกล้องวงจรปิด?
นี่เป็นหลักฐานที่ไม่เลวเลย!
ฉินเสี้ยวยวนแค่นเสียงเย็นในใจ คิดว่ารอให้ผมดูภาพบันทึกก่อนค่อยจัดการกับคุณ!
นี่มันเด็กบ้าชัดๆ
อันเยี่ยนจวินชะงัก ให้ตายเถอะ ใช่แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุเหนือคาด ในห้องปฏิบัติการจึงมีเครื่องบันทึกภาพ ยิ่งไปกว่านั้นยังบันทึกขั้นตอนการผ่าตัดได้ด้วย ต่อไป…คงแย่แล้ว!
หากเด็กคนนี้ทำอะไรผิด ไม่ใช่ว่ามีหลักฐานเรียบร้อยเลยหรือ?
ผู้เชี่ยวชาญทั้งสองคนจากโรงพยาบาลประชาชนแห่งมณฑลทอดถอนใจ สบตากัน “ดูคลิปก่อนเถอะ”
ตัวคลิปต้องดึงมาจากศูนย์เฝ้าสังเกตการณ์ ไม่ได้อยู่ที่แผนกฉุกเฉิน
จะอยู่ที่นี่ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร ทันใดนั้นทุกคนต่างก็เดินมุ่งหน้าไปยังศูนย์เฝ้าสังเกตการณ์
ตลอดทาง ฉินเสี้ยวยวนมีสีหน้าเคร่งขรึม ใบหน้ามืดครึ้มไม่พูดอะไรสักคำเดียว ส่วนจางเค่อฉินเต็มไปด้วยความหงุดหงิด นี่ยังทำให้เขาไม่สบายใจยิ่งกว่าการรับมือกับผู้ร้ายเสียอีก
ส่วนหลิวซือฉีและถานจงหลินกลับสงบกว่ามาก “ทุกท่านอย่าเพิ่งร้อนใจไปเลย พวกเราไปดูเทปก่อน หากว่ามีปัญหาใหญ่พวกเราค่อยทำการผ่าตัดใหม่”
ในขณะที่ถานจงหลินพูดประโยคนี้ ในใจก็ไม่ได้คิดดีเท่าไหร่นัก
มันจะง่ายขนาดนั้นที่ไหนกัน!
เมื่อมาถึงศูนย์สังเกตการณ์ พอพนักงานทราบเป้าหมายของคนใหญ่คนโตหลายท่านนี้จึงรีบดึงเทปบันทึกภาพออกมา กล้องวงจรปิดจะเป็นกล้องที่มีลักษณะพิเศษ ขยายภาพได้ แม้แต่เสียงก็ยังได้ยินชัดเจน
ตอนนี้อันเยี่ยนจวินกำลังคิดหาวิธีรับมือไม่หยุด!
ส่วนฉินเยว่ที่ตามมาด้วยก็เอาแต่ทอดถอนใจ ผู้นำเหล่านี้ไม่รู้จักเผื่อใจเลยจริงๆ
ส่วนเฉินชางเป็นหมอเวร ไม่สามารถตามมาได้ตามใจ
พวกเขากดข้ามช่วงแรกไปจนกระทั่งเข้าสู่การผ่าตัด
เมื่อถึงตอนที่เฉินชางใช้แหนบหาเศษทรายเหล็กและเศษเหล็กออกมา ในขั้นตอนนี้ก็พอมองออกแล้วว่าฝีมือพื้นฐานของเฉินชางไม่เลวเลย ทั้งใจกล้าและละเอียดอ่อน
ฉินเสี้ยวยวนเป็นหมออายุรกรรมไม่ใช่ศัลยแพทย์ แต่จากประสบการณ์อันยาวนานทำให้พอจะมองเรื่องพวกนี้ออกบ้าง
ใกล้จะถึงขั้นตอนการเย็บแผลแล้ว ทุกคนเฝ้าสังเกตต่อไปอย่าอดทน
ฉินเสี้ยวยวนอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า “ผู้อำนวยการหลิว หัวหน้าแผนกถาน ดูให้ดีนะครับ ถ้ามีอะไรตรงไหนไม่ถูกต้อง จะรู้ทันทีแน่”
ถานจงหลินและหลิวซือฉีพยักหน้าเงียบๆ
แต่ในตอนที่พวกเขาเห็นมือของอู๋กังผ่านวีดีโอเทปในระยะใกล้ขนาดนั้นก็ยังอดขมวดคิ้วไม่ได้
เสียหายรุนแรงมาก!
ผิวหนังเสียหายในระดับร้ายแรง เส้นเลือดเละเทะจนปรากฏออกมา มีเส้นเอ็นหลายส่วนที่เสียหายไปจนหมด
สีเลือดก็ดูไม่ดี!
ถานจงหลินอดไม่ได้ที่จะถอนใจ “ความเสียหายระดับนี้นับว่ายุ่งยากจริงๆ เด็กคนนั้นพูดถูกแล้ว ถ้าหากยืดเยื้อเวลาต่อไปคงไม่เป็นประโยชน์ในการฟื้นตัวภายหลัง”
จางเค่อฉินอ้าปากแต่กลับไม่รู้จะพูดอะไรดี
ถานจงหลินพูดต่อไป “ถ้าว่ากันตามจริง หากให้ผมเป็นคนเย็บเส้นเอ็นนี้ผมก็ไม่กล้ารับประกันว่าจะฟื้นฟูได้เหมือนปกติหรือเปล่า ยังไงซะ…ระดับความยากก็มากเกินไป”
“แต่ว่า…หมอคนนี้ใจร้อนไปหน่อย…”
คำพูดของถานจงหลินยังไม่จบก็ออกไปไม่ได้อีก เพราะเฉินชางเริ่มลงมือแล้ว!
“ใจร้อนเกินไปจริงๆ ไม่ใช่แค่ใจร้อนไปหน่อย การผ่าตัดเร่งด่วนแบบนี้ทำให้ไม่มีเวลามากพอจะพิจารณาว่าจะเย็บเส้นเอ็นมุมไหนแล้วจะใช้วิธีการยังไง ใจร้อนเกินไปจริงๆ!”
เฉินชางใช้คีมหยุดเลือดหนีบเส้นเอ็นไว้ แหวกออกมาเห็นเส้นเอ็นยาวประมาณสามสิบเซ็นติเมตร แทงเข็มที่ปลายทั้งสองข้างในระยะห่างจากปลายหนึ่งจุดห้าเซนติเมตรแล้วทำการเย็บไปยังเส้นเอ็มตามแนวขวาง ดึงให้ทั้งสองด้านยาวเท่ากัน หลังจากนั้นจึงเย็บไปตามจุดเย็บด้านข้างในแนวทแยง ดำเนินการเช่นนี้ไปสองถึงสามครั้ง สุดท้ายจึงเย็บในตำแหน่งใกล้เคียงจุดที่คีมห้ามเลือดหนีบไว้ประมาณสามมิลลิเมตร…
ผู้อำนวยการฉินอดทอดถอนใจไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปต้องคุยเรื่องนี้กับหัวหน้าแผนกฉุกเฉินสักหน่อยแล้ว
แต่ว่าไม่นานหลิวซือฉีก็ตกตะลึง!
การเย็บจะเร็วเกินไปหรือเปล่า?
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีความเข้าใจในเส้นเอ็นและกล้ามเนื้ออย่างลึกล้ำ มิฉะนั้นคงเย็บอย่างแม่นยำขนาดนี้ไม่ได้แน่!
ชายหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดา!
วิธีการเย็บทำให้หลิวซือฉีจำเป็นต้องดูอย่างจริงจังมากขึ้น
เมื่อเทียบกับหลิวซือฉี ถานจงหลินขมวดคิ้วแน่นยิ่งกว่า!
เขาพบจุดแปลกๆ อยู่อย่างหนึ่ง และยังเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากด้วย นั่นก็คือเฉินชางเลือกตำแหน่งและเวลาในการเย็บได้ดีมากตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำแหน่งที่แทงปลายเข็มเข้าไป!
ทันใดนั้นสีหน้าของถานจงหลินพลันเปลี่ยนไป!
นี่เป็นไปไม่ได้!
เป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด
ระดับการประสานของเส้นเอ็นทั้งสองสูงขนาดนี้เลยหรือ?
ถานจงหลินมองจนอึ้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ