เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ นิยาย บท 26

สรุปบท บทที่ 26 นิสัยยังต้องปรับปรุง!: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

สรุปตอน บทที่ 26 นิสัยยังต้องปรับปรุง! – จากเรื่อง เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ โดย Internet

ตอน บทที่ 26 นิสัยยังต้องปรับปรุง! ของนิยายSlice of Lifeเรื่องดัง เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ฉินเสี้ยวยวนมองเฉินชาง กระแอมออกมาครั้งหนึ่งแล้วพยักหน้าเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดที่มีกับเสี่ยวเฉินและแสดงถึงความอบอุ่นใส่ใจ เขาจึงพยายามย้อนคิดไปถึงสายตาและท่าทีที่ได้เห็นรักครั้งแรกเมื่อสามสิบปีก่อน แล้วแสดงมันออกมา

“สหายเสี่ยวเฉิน เมื่อครู่ผมเข้าใจคุณผิดไปหน่อย อย่าได้ใส่ใจนะครับ ครั้งนี้คุณทำได้ไม่เลวเลย”

“อู๋กังเป็นวีรบุรุษของพวกเรา คราวนี้คุณทำถูกแล้ว ผมจะคุยกับหัวหน้าแผนกของพวกคุณสักหน่อย พยายามต่อไปนะครับ! ผมเห็นถึงความสามารถของคุณนะครับ!”

เมื่อเฉินชางได้ฟังก็ยิ้มออกมา ก่อนจะพยักหน้า “ขอบคุณครับผู้อำนวยการฉิน เกรงใจเกินไปแล้ว นี่เป็นสิ่งที่ผมสมควรทำ”

แต่ว่า…ถึงแม้เฉินชางจะพูดอย่างเป็นมิตร แต่ในใจกลับรู้สึกหดหู่ไม่สบายใจ

เขาถึงกับเห็นว่าในสายตาของผู้อำนวยการฉิน…มีความรักอยู่?

น่ากลัวเป็นบ้า!

เมื่อคิดถึงตรงนี้เฉินชางก็ถอยหลังไปเงียบๆ ก้าวหนึ่ง

เมื่อฉินเสี้ยวยวนได้ยินก็คิดว่า อ่า! ไม่เลว!

ผลลัพธ์ไม่เลว ยิ่งไปกว่านั้น…

เด็กคนนี้มีความตระหนักรู้ดีทีเดียว

“อืม ดี! ไม่เลวๆ ฝึกฝนต่อไปนะครับ โรงพยาบาลของพวกเราต้องการบุคคลผู้มีความสามารถแบบคุณ เดี๋ยวผมกลับไปจะคุยกับหัวหน้าแผนกของพวกคุณสักหน่อย จะต้องให้สอนคุณให้ดี!”

[ติ๊ง! ค่าความรู้สึกดีของฉินเสี้ยวยวน +5!]

เฉินชางชะงักไป ผู้อำนวยการฉินถึงกับเจ้าชู้ขนาดนี้เลยหรือ ความรู้สึกดีที่มีต่อฉันเพิ่มขึ้นอีกแล้ว

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็สูดหายใจลึก หากฉันเป็นคนรู้จักยอมคน ใครจะทวงความยุติธรรมให้ฉันล่ะ หัวหน้าเหล่าเฉินก็เชื่อไม่ค่อยได้

ว่ากันว่าในโรงพยาบาลมีกฎลับๆ อยู่ ดูเหมือนจะไม่ได้โกหกสักนิด!

แต่ว่า…สั่งสอนให้ดี ฟังแล้วก็ไม่เลวเลย!

ฉินเสี้ยวยวนกดโทรศัพท์ จากนั้นจึงรีบร้อนเดินออกไป ในขณะที่เดินไปยังมองไปทางหลิวซือฉีและถานจงหลินด้วยสายตาครุ่นคิด

“ทั้งสองท่าน ผมมีธุระบางอย่างต้องขอตัวไปก่อนนะครับ ต้อนรับไม่ได้แล้ว ส่วนคุณ อันเยี่ยนจวิน อยู่เป็นเพื่อนทั้งสองหน่อยนะครับ”

พูดจบก็รีบร้อนจากไป

เมื่อเห็นฉินเสี้ยวยวนจากไปแล้ว ดวงตาของถานจงหลินและหลิวซือฉีก็เปล่งประกาย

“คือ…หมอเฉินออกไปหน่อยนะครับ พวกเราไปคุยกันหน่อย” ถานจงหลินยิ้มจนตาหยี ลากเขาไปด้านข้าง

“การเย็บเส้นเอ็นของคุณทำได้ไม่เลวเลย เรียนมากับใครหรือครับ?”

เฉินชางยิ้ม “ก็เรียนมาจากหมอในแผนกนี่แหละครับ การเย็บเส้นเอ็นของอาจารย์อันก็ดีมากนะครับ”

อันเยี่ยนจวินหน้าแดง ทำใจให้สงบ พยายามไม่ส่งเสียง ยืนเงียบอยู่กับที่

ถานจงหลินหัวเราะ เอ่ยถามเฉินชาง “อืม นี่เดินไปคุยไปดีไหมครับ?”

เมื่อพูดจบก็ดึงเฉินชางออกไปด้านนอกในบริเวณที่ไม่มีคนอื่น “เสี่ยวเฉิน ผมว่าเทคนิคของคุณไม่เลวเลยนะครับ เคยคิดไปทำงานที่โรงพยาบาลประชาชนแห่งมณฑลหรือเปล่า? แผนกศัลยกรรมของพวกเราขาดคนมีความสามารถแบบคุณ”

เฉินชางชะงักไป “หัวหน้าแผนกถาน…ผม…”

ถานจงหลินถอนใจออกมาครั้งหนึ่ง “คนที่มีความสามารถก็ควรได้รับการปฏิบัติอย่างคนมีความสามารถ ถ้าคุณไปที่นั่น อย่างอื่นผมอาจไม่กล้ารับประกัน แต่สัญญาบรรจุอย่างเป็นทางการจะต้องได้รับการแก้ไขได้หนึ่งปีแน่นอน”

เฉินชางเบิกตากว้าง สัญญาบรรจุ?

แพทย์ที่จบแค่ปริญญาตรีคนหนึ่งถึงกับได้รับสัญญาบรรจุจากโรงพยาบาลประชาชนแห่งมณฑลที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ เลยหรือ?

หลิวซือฉีเองก็เดินออกมา พูดอย่างต้องการเน้นย้ำ “ถูกต้อง! คุณเสี่ยวเฉินคิดให้ดีนะครับ ไม่ต้องรีบร้อนตัดสินใจ ถ้าคุณยินดีพวกเราก็ต้อนรับเสมอ”

หลังจากพูดจบหลิวซือฉีและถานจงหลินก็แลกเบอร์โทรศัพท์และวีแชทกับเฉินชาง จากนั้นจึงรีบร้อนเดินจากไป

ตอนนี้อันเยี่ยนจวินจึงค่อยเดินออกมา มองไปยังเฉินชางด้วยท่าทางลับๆ ล่อๆ “เสี่ยวเฉิน พวกเขาพูดอะไร?”

เฉินชางบอกไปตามจริง “พวกเขาอยากให้ผมไปที่โรงพยาบาลประชาชนแห่งมณฑลจะให้สัญญาบรรจุกับผม แล้วยังจะสั่งสอนให้ดีๆ ด้วยครับ”

อันเยี่ยนจวินกรอกตา “ชิ! อย่าเอาอย่างเหล่าเฉินเชียว วันๆ เอาแต่ขี้โม้…ตกลงพูดอะไรกันแน่…”

เฉินชาง “…”

“เขาบอกว่าผมหล่อน่ะครับ”

อันเยี่ยนจวินไตร่ตรองอย่างละเอียด จากนั้นจึงพยักหน้าเดินออกไปราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง เดินไปไกลแล้วยังไม่วายหันกลับมามองเฉินชาง “คำพูดนี้ไม่ได้โกหกเลย!”

เฉินชาง “…”

เขามองโทรศัพท์ในมือ คิดด้วยความลังเล

จางเค่อฉินยิ้ม “หมอเสี่ยวเฉิน คุณอาจไม่จำเป็นต้องมาหาพวกเรา แต่ต่อไปพวกเราคงต้องรบกวนคุณไม่น้อย”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ จางเค่อฉินก็เก็บรอยยิ้มบนใบหน้ากลับไป พูดอย่างจริงจังว่า “เป็นตำรวจแบบพวกเรา แล้วยังเป็นตำรวจกองปราบ ทุกวันต้องรับมือกับโจรผู้ร้ายมากมายทำให้ได้รับบาดเจ็บอยู่บ่อยๆ ดังนั้นต่อไปนี้คงต้องรบกวนคุณไม่น้อย”

เฉินชางพบว่าบนใบหน้าของจางเค่อฉินมีความจริงใจและความกังวลปรากฏอยู่จึงรีบเอ่ยปลอบ “ได้ครับ ต่อไปถ้าพวกคุณมีอะไรก็มาหาผมได้โดยตรง!”

“ผมเปิดทางให้พวกคุณแล้ว ไม่ว่าตอนไหน แค่โทรมาผมก็จะรับทันที!”

ไม่มีภารกิจและไม่มีรางวัล แต่เฉินชางกลับคิดแบบนั้นจริงๆ

หมอเป็นอาชีพที่มีแรงกดดันสูง ต้องแข็งแกร่ง

แต่ความรับผิดชอบของตำรวจยังมากกว่าหมอซะอีก ทั้งยังต้องมีความกล้าหาญ พวกเขาเป็นผู้ปกป้องสังคม

ที่เขาได้ใช้ชีวิตอย่างสงบเป็นเพราะมีคนรับผิดชอบปกป้องเส้นทางนี้อยู่จริงๆ

เมื่อเห็นอู๋กังมีสีหน้ายินดี เฉินชางจึงรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างนี้ไม่สำคัญ

คนเราทำสิ่งที่พึงกระทำ หลีกเลี่ยงสิ่งที่ไม่พึงกระทำ

แต่มีคนกลุ่มหนึ่ง ทั้งๆ ที่รู้ว่าอันตรายแต่ยังนำร่างกายเข้าไปเสี่ยงโดยไม่ย่อท้อ

เมื่อคิดถึงตอนที่อู๋กังยอมเสียสละตัวเองเพื่อช่วยคนอื่นจนถูกยิง เฉินชางก็รู้สึกเลือดในกายร้อนขึ้นหลายส่วน

[ติ๊ง! ภารกิจช่วยเหลืออู๋กังสำเร็จ: การเย็บเส้นเอ็นของคุณเพิ่มขึ้นถึงระดับปรมาจารย์]

[ติ๊ง! ทักษะการเย็บเส้นเอ็น: ระดับปรมาจารย์

ผลพิเศษ:

1. อัตราการเกิดพังผืดต่ำ

2. การฟื้นตัวสูง (ระดับการประสานของการเย็บเส้นเอ็นช่วยเพิ่มความเร็วในการฟื้นตัวของเส้นเอ็นได้)]

แต่ว่า…ผมเย็บเส้นเอ็นไปมากขนาดนั้น ไม่ดรอปของหน่อยเหรอ?

ดูเหมือนระบบต้องปรับปรุงนิสัยหน่อยนะ

Next

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ