บทที่ 273 คุณคิดค้นวิธีของตัวเองขึ้นมา!
เมื่อเทียบกันกับหลอดเลือดใหญ่ในช่องท้องแล้ว หลอดเลือดบริเวณมือ…ช่างเย้ายวนใจจริงๆ!
ค่ากำลังสายตาที่เพิ่มขึ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์มีความคัญมากอย่างเห็นได้ชัดยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
เฉินชางหยิบคีมเข็มขึ้นมาและเตรียมลงมือเย็บหลอดเลือดด้วยความระมัดระวัง เพราะหลอดเลือดมีขนาดเล็กมาก
การเย็บหลอดเลือดยังไม่ยากมากเท่าการเย็บเส้นประสาท การเย็บเส้นประสาทจำเป็นต้องใช้ความละเอียดอ่อนสูงมาก
ดังนั้น โดยทั่วไปแล้ว การศัลยกรรมมือจึงมักถูกเรียกว่าจุลศัลยกรรม
ปกติแล้วกำลังขยายของกล้องจุลทรรศน์คือหกถึงสิบเท่า แต่เฉินชางเคยชินกับการกำลังขยายที่ แปดเท่า
ตัวเลขนี้ เมื่อใช้คู่กับกำลังสายตาที่มี ส่งผลให้การผ่าตัดดำเนินไปอย่างราบรื่น
ในเวลานี้ ความรู้สึกภายใต้เลนส์แว่นผ่าตัดมีความสำคัญมาก ในมือของเฉินชางถือคีมจับเข็มไว้ ระหว่างที่เขากำลังเย็บหลอดเลือด จู่ๆ เขาก็มีความรู้สึกที่ต่างไปจากเดิมอย่างคาดไม่ถึง
ความรู้สึกนี้ไม่ชัดเจน แต่…เป็นความรู้สึกที่น่าทึ่งมาก เขารู้สึกว่าการวินิจฉัยผนังหลอดเลือดของเขายกระดับสูงขึ้นมาก!
นี่มัน…นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย
เฉินชางพลันตกตะลึง เขาไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อน แต่…หลังจากที่เขาสวมแว่นตาผ่าตัด ความรู้สึกนี้ก็ชัดเจนมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
หรือว่าเป็น…
ผลของความสามารถของกำลังสายตาในการมองเห็นที่เพิ่มขึ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์?
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉินชางก็เข้าใจได้ทันทีว่า ผลลัพธ์ของไอเทมยาหยอดตาที่ได้มาคือกำลังสายตาบวกห้า ความสามารถของกำลังสายตาในการมองเห็นครอบคลุมหลายสิ่ง
ประโยชน์ที่ได้รับจากความสามารถของกำลังสายตาในการมองเห็นที่เพิ่มขึ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์ยังครอบคลุมถึงความสามารถในการวินิจฉัย แยกแยะ ความละเอียดกับความคมชัดของภาพที่เห็น…เป็นต้น กล่าวได้ว่าครอบคลุมหลายอย่างมาก
เฉินชางอดตื่นเต้นดีใจไม่ได้!
สำหรับสายงานด้านอื่นแล้ว ทักษะนี้อาจมีประโยชน์ไม่มากนัก แต่สำหรับอาชีพแพทย์แล้ว บอกได้เลยว่าทักษะนี้เป็นทักษะขั้นเทพทักษะหนึ่ง!
การผ่าตัดมีกระบวนการที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อนเยอะมาก และยิ่งการผ่าตัดขั้นสูงมากเท่าไรความละเอียดอ่อนก็จะยิ่งสูงตาม
การผ่าตัดเส้นประสาทจำเป็นต้องใช้ความละเอียดอ่อนที่สูงมาก!
ณ ขณะนี้ เฉินชางรู้สึกว่าการเย็บหลอดเลือดไม่ยากเหมือนแต่ก่อนแล้ว!
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฝีมือในการเย็บของเฉินชางละเอียดลออมากยิ่งขึ้น ความประณีตจึงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
สิ่งนี้ทำให้ถานจงหลินกับอันเยี่ยนจวินที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ด้านข้างเกิดความรู้สึกเย็นวาบที่สันหลังขึ้นมาทันใด
เพราะฝีมือในการเย็บหลอดเลือดของของเฉินชางทำให้พวกเขารู้สึกว่าเรื่องยากกลายเป็นเรื่องง่ายในพริบตา!
ความละเอียดประณีตในการเย็บหลอดเลือดเล็กโดยรอบกับการเย็บหลอดเลือดใหญ่ค่อนข้างใกล้เคียงกัน ฝีมือล้ำเลิศทีเดียว…
เย็บหลอดเลือดแดงเรเดียลซ่อมแซมเสร็จสมบูรณ์แล้ว ก็ตามด้วยการเย็บซ่อมแซมหลอดเลือดแดงอัลน่า…และหลอดเลือดแดงเล็กที่อยู่โดยรอบ เช่น หลอดเลือดแดงที่อยู่ระหว่างปลายแขนด้านหลัง เป็นต้น
ถานจงหลินกับอันเยี่ยนจวินที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ข้างๆ ถึงกับตกตะลึงจนตาค้าง
นี่คือการเย็บหลอดเลือดโดยรอบจริงหรือ?
ใช้เวลาไม่นานก็เย็บเสร็จหมดแล้ว
ถานจงหลินคลายหลอดเลือดแดงที่ผูกไว้ และทดสอบระบบไหลเวียนเลือดทันที!
เมื่อเห็นสีของปลายนิ้วมีเลือดมาหล่อเลี้ยง ทั้งสองก็สบหน้ากัน สมบูรณ์แบบ!
เฉินชางเริ่มเย็บเส้นประสาท!
ขั้นตอนนี้ค่อนข้างยากกว่าการเย็บหลอดเลือดมาก!
โดยหลักการแล้วยิ่งเส้นประสาทบริเวณมือที่ได้รับบาดเจ็บได้รับการรักษาเร็วเท่าไร สมรรถภาพการทำงานของเส้นประสาทก็จะยิ่งฟื้นฟูจนกลับมาเป็นปกติได้เร็วขึ้นเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ ตอนที่ถานจงหลินอยู่ที่โรงพยาบาลประชาชนแห่งมณฑล เขาถึงได้รีบร้อนที่จะส่งตัวกัวจื้อหย่งมาที่โรงพยาบาลอันดับสองโดยด่วน เพราะเขากังวลว่าจะรักษาผู้ป่วยล่าช้าเกินไปจนส่งผลกระทบกับการฟื้นของผู้ป่วยหลังการรักษาได้
หัวใจสำคัญในการเย็บซ่อมแซมเส้นประสาทบริเวณมือคือวิธีที่นำมาใช้ในการเย็บเส้นประสาท
วิธีการเย็บเส้นประสาทแบ่งออกเป็นสองวิธีได้แก่ Epineurial neurorrhaphy กับ Group fascicular neurorrhaphy
โดยทั่วไปแล้ว เมื่อเส้นประสาทเกิดความเสียหาย แค่ใช้วิธี Epineurial neurorrhaphy ก็เป็นอันเรียบร้อย
สำหรับเส้นประสาทสัมผัสที่แตกออกเป็นกิ่งก้านสาขา ควรใช้ Group fascicular neurorrhaphy
หมายความว่าอย่างไร
หมายความว่าเส้นประสาทไม่ได้รวมกันเป็นช่อเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่นในขณะนี้ เส้นประสาทอัลน่าบริเวณหลังข้อมือได้รับบาดเจ็บ สามารถเย็บด้วยวิธี Group fascicular neurorrhaphy เฉพาะเส้นประสาทส่วนนี้ได้ แต่เส้นประสาทตำแหน่งอื่นอาจต้องใช้การเชื่อมต่อเส้นประสาทคนละวิธี
สิ่งเหล่านี้ก็เป็นเหมือนกับ…การเชื่อมต่อสายไฟ สายดิน สายที่มีไฟ สายนิวทรัล (ผมพบว่าผมเป็นอัจริยะคนหนึ่ง ยกตัวอย่างได้เห็นภาพ!)
ทว่าเส้นประสาทของผู้ป่วยในเวลานี้บาดเจ็บจนมีสภาพที่ไม่สมบูรณ์ ในตอนที่เฉินชางเตรียมจะดึงเส้นประสาทมาเย็บซ่อมแซม เขารู้สึกได้ถึงแรงดึงรั้ง ความยาวของเส้นประสาทไม่พอ!
เมื่อถานจงหลินเห็นสถานการณ์ และเห็นเฉินชางขมวดคิ้ว เขาก็ถามขึ้นว่า “เสี่ยวเฉิน ความยาวไม่พอหรือครับ จะต้องปลูกถ่ายเส้นประสาทหรือเปล่าครับ”
เฉินชางส่ายหน้า “ผมจะลองดู ตอนนี้แรงดึงรั้งค่อนข้างมาก ถ้าคลายความตึงได้สักหน่อย…อาจพอแก้ไขได้บ้าง”
อันเยี่ยนจวินมองเส้นประสาทที่ขาดเสียหายเส้นนั้นด้วยความรู้สึกกังวลเล็กน้อย “ต่อให้คลายแล้ว ผมก็ยังกังวลว่าจะยังไม่มากพอให้แก้ไขได้…”
อย่างไรก็ตาม หากปลูกถ่ายเส้นประสาท จะไม่ส่งผลดีเท่ากับการเย็บโดยตรง และจะทำให้สูญเสียประสาทสัมผัสหลังจากตัดเส้นประสาทออกจากตำแหน่งที่นำมาปลูกถ่าย
การรื้อกำแพงฝั่งตะวันออกเพื่อนำอิฐจากกำแพงฝั่งนี้ไปต่อเติมซ่อมแซมกำแพงฝั่งตะวันตกเป็นวิธีที่เป็นทางเลือกสุดท้ายที่คนเราจะทำ แต่ถ้าครอบครัวมีเงินอยู่บ้าง พวกเขาก็คงไม่เลือกวิธีนี้
การเย็บซ่อมแซมเส้นประสาทก็เช่นเดียวกัน ถ้าเย็บซ่อมแซมได้ เฉินชางก็จะไม่ยอมปลูกถ่ายเส้นประสาทจากตำแหน่งอื่นมา
เฉินชางเริ่มแยกเส้นประสาททั้งสองข้างออกอย่างระมัดระวัง เริ่มทำการเปลี่ยนตำแหน่งเชื่อมต่อเส้นประสาท
หลังจากเปลี่ยนแปลงตำแหน่งเล็กน้อย ความยาวที่เพิ่มขึ้นกลับมีไม่ถึงหนึ่งมิลลิเมตร!
ความยาวที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยสร้างความรู้สึกกระอักกระอ่วนใจอย่างหนักในทันใด!
จำเป็นต้องปลูกถ่ายเส้นประสาท? ไม่จำเป็น!
ไม่ปลูกถ่ายก็แล้วกัน? เย็บยากเกินไป!
ต่อให้เย็บได้อย่างสมบูรณ์ก็เป็นไปได้ว่าจะไร้ความรู้สึก
นี่เป็นเรื่องสร้างความรู้สึกลำบากใจอย่างหนัก!
ถานจงหลินเงียบขรึมไม่พูดจา เขาไม่รู้ว่าเขาควรจะทำอย่างไรดี
เป็นความรู้สึกเจ็บปวดจนจุกอก!
จะกลืนก็ไม่เข้า จะคายก็ไม่ออก
เขาเงยหน้ามองเฉินชาง ทว่าสิ่งที่เห็นคือ…สีหน้าที่ดูพึงพอใจมาก?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ