เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ นิยาย บท 276

สรุปบท บทที่ 276 อาชีพแพทย์เป็นอาชีพที่เดินอยู่บนแผ่นน้ำแข็งที่บางเฉียบ! (1): เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

อ่านสรุป บทที่ 276 อาชีพแพทย์เป็นอาชีพที่เดินอยู่บนแผ่นน้ำแข็งที่บางเฉียบ! (1) จาก เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ โดย Internet

บทที่ บทที่ 276 อาชีพแพทย์เป็นอาชีพที่เดินอยู่บนแผ่นน้ำแข็งที่บางเฉียบ! (1) คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายSlice of Life เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

บทที่ 276 อาชีพแพทย์เป็นอาชีพที่เดินอยู่บนแผ่นน้ำแข็งที่บางเฉียบ! (1)

หลังจากนั้น ถานจงหลินก็เข้ามาอยู่ในทีมผู้ช่วยของเฉินชาง กลายเป็นผู้ช่วยคนที่สองของเฉินชาง ชื่อย่อคือเมียน้อย!

การเข้ามาของเมียน้อย ทำให้ทีมผู้ช่วยของเฉินชางเพิ่มบรรยากาศของการแข่งขันภายในทีมมากขึ้น

ส่วนอันเยี่ยนจวินเมียหลวงก็คุ้นชินกับสภาพแวดล้อมแล้วในที่สุด เขาเริ่มใช้เล่ห์เพทุบายกับถานจงหลินเพื่อให้ได้สิ่งที่ตนต้องการ

ทว่าบรรกาศการแข่งขันเช่นนี้เป็นประโยชน์อย่างเห็นได้ชัด ทั้งสองฝ่ายต่างอาศัยความสามารถของตนเองช่วงชิงสิ่งที่ตนต้องการกับคู่แข่ง ความกระตือรือล้นในการเรียนรู้พุ่งสูงขึ้นมาก

อันเยี่ยนจวินมีสถานะเป็นเมียหลวง ไม่ว่าจะอย่างไร เขาก็มีพยาบาลสาวสามคนเป็นสาวใช้ประจำกายคอยเป็นแรงสนับสนุน

สุดท้ายแล้วมีเพียงหนทางเดียวที่ทำให้พวกเธอจะยอมแข่งขันอย่างยุติธรรม ก็คือเฉินชางจะต้องอยู่ที่โรงพยาบาลอันดับสอง

หากเฉินชางโดนถานจงหลินชิงตัวไปแล้ว การต่อสู่แข่งขันก็ไร้ความหมาย

ในเวลานี้ จู่ๆ เฉินชางก็พบว่าเมียหลวงกับน้อยอยู่ร่วมกันเป็นบรรยากาศที่ไม่น่าอภิรมย์สักเท่าไร มากคนมากความ…เขาก็ค่อนข้างรู้สึกคิดถึงฉินเยว่ขึ้นมาทันใด

ไม่พูดคุยไม่ส่งเสียงดัง

ส่งเสียงเอ่ยชมเป็นครั้งคราว

นัยน์ตากลมโตกะพริบตาปริบๆ

เวลาผ่าตัดก็อารมณ์ดี

ประเด็นที่สำคัญที่สุดคือเจริญหูเจริญตา

ตาเฒ่าสองคนนี้ชิงรักหักสวาทด้วยพลังของพิษรักแรงหึง ทำให้เฉินชางเห็นหงุดหงิดใจเกินทน…

ในที่สุด วันที่ 1 ตุลาคม ก็มาถึง วันนี้ในตารางทำงานของเฉินชางเป็นสัญลักษณ์หนึ่งขีด ซึ่งหมายถึงวันเข้างานตามปกติ

ถึงแม้ว่าการเข้าเวรในแผนกฉุกเฉินจะงานหนักงานยุ่งราวกับออกรบ แต่…อย่างไรก็ไม่ได้น่าปวดหัวมากมายขนาดนั้น

ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมในวัยหนุ่มที่เป็นเต็มไปด้วยพลังชีวิตของขุนนางใหญ่ถึงได้เป็นช่วงวัยที่เหนื่อยมาก!

ตอนกลางวันบริหารงานแผ่นดิน ตกเย็นต้องรับมือกับงานทุกรูปแบบ…

เฮ้อ…

ในช่วงวันชาติ จำนวนผู้ป่วยลดน้อยลงมาก ปริมาณผู้ป่วยนอกลดลงกว่าครึ่ง

แต่อย่างไรก็ตาม แผนกฉุกเฉินก็ไม่ได้ยุ่งน้อยลง ในทีมศัลยแพทย์ของแผนกฉุกเฉิน นอกจากเฉินชางที่เข้าเวรปกติแล้วยังมีหวังหย่งด้วย ทั้งสองมือกับเคสต่างๆ จนหัวหมุนตลอดช่วงเช้า

ส่วนหมอเหยา ทีมอายุรแพทย์ของแผนกฉุกเฉินกลับงานยุ่งยิ่งกว่า เรียกว่าเหนื่อยเยี่ยงสุนัข เพราะวันนี้คนที่เขาเข้าเวรด้วยคือหมอเหยียนหมิง

หมอเหยียนเป็นหมอแผนกฉุกเฉินที่ขึ้นชื่อเรื่องขี้เกียจมาก วางมาดยิ่งกว่าหลี่เป่าซาน วันๆ ถือแก้วเก็บความร้อนเดินไปเดินมา พอมีผู้ป่วยเข้ามา ก็ค่อยให้คนไปตามมาตรวจอาการให้ผู้ป่วย

กล่าวโดยสรุปคือ แผนกฉุกเฉินเป็นแผนกที่หมอสูงวัยได้รับความสุขสบาย

โรงพยาบาลก็ไม่คิดจะถือสาหาความกับคนประเภทนี้ คิดแค่ว่าอยู่อีกปีสองปีก็เกษียณแล้ว ถึงอย่างไรการที่มีคนประเภทนี้อยู่ก็ไม่สร้างปัญหาใหญ่โตอะไร

ถึงแม้เหยียนหมิงจะไม่ค่อยใส่ใจกับหน้าที่สักเท่าไหร่ แต่ก็เป็นคนที่เอาตัวรอดได้ดีมาก นับว่าเป็นความสามารถประจำตัวอย่างหนึ่ง

ทุกวันนี้เวลาที่หมอแต่ละท่านต้องประจำจุดต่างๆ สิ่งแรกที่อาจารย์ของพวกเขาจะสอนก็คือการรู้จักเอาตัวรอด

เหยาจื้อเหวินกับเฉินชางเข้ามาทำงานที่โรงพยาบาลอันดับสองในรุ่นเดียวกัน เขาจบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยการแพทย์ตงหยาง สาขาอายุรศาสตร์โรคหัวใจ เป็นบุคลากรภายในสังกัดเหมือนกันกับหวังเชียนและฉินเยว่

เหยาจื้อเหวินมีนิสัยค่อนข้างเก็บตัว ไม่ใช่คนช่างพูด เวลาที่พบปะผู้คนก็มักจะยิ้มเป็นส่วนใหญ่ ดูเป็นคนขี้อายเหมือนกับผู้หญิง เป็นคนซื่อๆ ไร้พิษภัย การที่เขาได้เจอกับเหยียนหมิง นับว่าเป็นเรื่องที่โชคร้ายมาก

ตลอดช่วงเช้าทำงานไม่ได้หยุดพัก

เวลาประมาณสิบเอ็ดโมง เหยาจื้อเหวินวิ่งมาหาเฉินชางด้วยความรีบร้อน กล่าวด้วยน้ำเสียงค่อนกังวลใจ “หมอเฉินครับ คุณช่วยดูอาการผู้ป่วยให้ผมที!”

เฉินชางพยักหน้า ตามเหยาจื้อเหวินไปที่ห้องฉุกเฉิน

เฉินชางถามขึ้นว่า “มีประวัติอาการป่วยมั้ยครับ”

เหยาจื้อเหวินตอบ “โดยพื้นฐานประวัติอาการป่วยจากคำบอกเล่าของคนในครอบครัวพอจะนำมาเป็นข้อมูลในการวินิจฉัยได้ ผู้ป่วยมีประวัติความดันสูง ไขมันในเลือดสูง ไขมันพอกตับ ดังนั้น…เรายิ่งตัดความน่าจะเป็นที่ผู้ป่วยจะมีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดออกไปไม่ได้”

เฉินชางรับคำคำหนึ่ง กล่าวว่า “คุณสงสัยว่าจะเป็นภาวะช็อกจากโรคหัวใจ[2]หรือครับ”

เหยาจื้อเหวินพยักหน้า!

ระหว่างที่ทั้งสองคุยกันมาตรงนี้ ทั้งสองก็เดินเข้าไปในห้องฉุกเฉินแล้ว ในขณะนี้ผู้ป่วยนอนอยู่บนเตียงโดยติดเครื่องติดตามสัญญาณไว้อยู่

ในตอนที่เฉินชางเห็นผู้ป่วยเป็นครั้งแรก เฉินชางไม่เห็นอาการอะไรบนใบหน้าผู้ป่วยเป็นพิเศษ ผู้ป่วยนอนหมดสติอยู่บนเตียง ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ

ตัวเลขที่ปรากฏบนหน้าจอมอนิเตอร์ตรวจคลื่นใจฟ้าหัวใจปรากฏข้อมูล อัตราการเต้นของหัวใจ 120/นาที ถือว่าค่อนข้างเต้นเร็ว

ความดันโลหิตคือ 80/50 mmHg ความดันโลหิตต่ำ…ความดันโลหิตควรจะอยู่ที่ 90-140/60-90 mmHg

ความดันโลหิต 80/50 mmHg ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตามแต่ ตัวเลขนี้นับว่าต่ำไป แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าผู้ป่วยมีภาวะช็อกจากโรคหัวใจ

ทว่าทุกอาการบ่งชี้ยังไม่ชัด?

มีแนวโน้มไปในทางร้ายมากกว่าดี!

ผู้ป่วยมีประวัติเป็นโรคความดันโลหิตสูง แต่ในตอนนี้ความดันโลหิตลดลงจนเหลือแค่ 80/50 ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ไม่มีทางเลยที่เลือดจะถูกส่งไปหล่อเลี้ยงสมองได้เพียงพอ กล่าวให้เข้าใจง่ายก็คือ หัวใจเป็นเหมือนเครื่องสูบน้ำที่สูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงทั่วร่างกาย และในเวลานี้เครื่องสูบน้ำอ่อนกำลังจนไม่มีแรงสูบมากพอที่จะสูบน้ำไปหล่อเลี้ยงสมอง

และสมองเป็นอวัยวะที่ตอบสนองต่อสภาวะขาดเลือดขาดออซิเจนมากเป็นพิเศษ ในกรณีที่มีเลือดมาหล่อเลี้ยงลดลง มีออกซิเจนในสมองลดลง ก็จะทำให้หมดสติได้!

เฉินชางรีบตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจให้ผู้ป่วยอีกครั้ง เพื่อที่จะรักษาภาวะหัวใจขาดเลือดโดยเร็วที่สุด

เฉินชางลังเลงใจอยู่ครู่หนึ่ง “ผมจะออกไปถามครอบครัวเขาว่าเกิดอะไรขึ้น”

[1] การตรวจโทรโปนินไอ คือการตรวจวินิจฉัยโรคที่เกียวกับหัวใจ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเป็นต้น โทรโปนินเป็นองค์ประกอบของโปรตีนที่อยู่ในเซลล์ โดยปกติแล้วค่าโทรโปนินไอในคนปกติจะไม่ปนอยู่ในกระแสเลือด แต่ถ้าเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อหัวใจเสียหาย โทรโปนินจะถูกขับออกมาปะปนอยู่ในกระแสเลือด ทำให้มีค่าโทรโปนินที่สูงขึ้น

[2] ภาวะช็อกจากโรคหัวใจ (Cardiogenic Shock) ภาวะที่เกิดจากหัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงอวัยวัยวะต่างๆ ในร่างกายได้กะทันหัน ทำให้เกิดภาวะความดันต่ำ มักเกิดขึ้นจากภาวะหัวใจขาดเลือด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ