บทที่ 281 เป็นตายเท่ากัน!
ตั้งแต่ทำงานที่แผนกฉุกเฉิน เฉินชางก็กลายเป็นคนที่มีความตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
ไม่มีช่วงเวลาไหนเลยที่ผ่อนคลาย บางครั้งเวลาที่กำลังหลับอยู่แล้วได้ยินเสียงไซเรนที่ล่างตึก เฉินชางก็จะเปิดผ้าห่มออกและลุกจากเตียงทันที
ปีนี้ดีขึ้นบ้างแล้ว อาจเป็นเพราะเคยชินกับชีวิตเช่นนี้แล้วก็เป็นได้
ดังนั้นชั่วขณะที่ได้ยินเสียงเรียกขอความช่วยเหลือ เฉินชางก็วิ่งไปตามต้นตอของเสียงโดยอัตโนมัติ ก่อนที่สติของเขาจะทันตอบสนองเสียอีก
จิ่งหรานเองก็เช่นกัน!
จิ่งหรานเป็นศัลยแพทย์ทรวงอก มักจะร่วมมือกับแผนกฉุกเฉินเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยเคสต่างๆ อยู่เสมอ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาถูกบ่มเพาะให้กลายเป็นคนที่มีความตื่นตัวเช่นนี้
เป็นความตื่นตัวเวลาที่ได้ยินคำว่า ‘ช่วยด้วย โจรปล้น ฆาตกรรม!’
ในฐานะคนเป็นหมอเวลาที่ได้ยินคำว่า ‘ช่วยด้วย’ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมักจะกลายเป็นความรับผิดชอบของตนเองทันที
การช่วยชีวิตและรักษาผู้บาดเจ็บเป็นหน้าที่ของคนเป็นหมอ
ด้วยเหตุนี้ ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ถึงแม้จะมีเรื่องหมอถูกต่อว่าเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง แต่คุณก็ยังคงเห็นหมอลุกขึ้นมาช่วยคนเวลาเกิดเหตุตามป้ายรถเมล์ ลานกว้าง บนรถไฟ และบนเครื่องบินอยู่เสมอ
บางครั้งถึงแม้ช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายจะเกิดขึ้นตรงหน้า ก็ยังคนมีคนบางคนที่ไม่หวาดกลัว เพราะคนเหล่านั้นมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว
ก็เหมือนที่กัวจื้อหย่งกระโจนเข้าไปช่วยเด็กสามคนในช่วงเวลาคับขันโดยไม่คิดอะไรทั้งสิ้น เฉินชางกับจิ่งหรานในเวลานี้ก็เช่นกัน มีเพียงความคิดเดียวในใจคือ ช่วยคนก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน!
เดิมทีคิดว่าสถานที่เกิดเหตุอยู่ห่างออกไปไม่ไกล แต่คิดไม่ถึงว่าผู้ประสบเหตุไม่ได้ตกบริเวณนี้ แต่เป็นอาคารก่อสร้างที่ต้องเดินอ้อมไปด้านหลังตึกสำนักงานขาย
ทั้งสองคนไม่สนใจว่าจะต้องวิ่งลุยฝุ่นไปตลอดทาง ระหว่างที่กำลังรีบร้อนวิ่งไปถึงจุดเกิดเหตุก็ใช้เวลาไปสามถึงห้านาทีแล้ว!
ในเวลานี้ มีคนเจ็ดแปดคนยืนอยู่รอบๆ
เฉินชางรีบตะโกนขึ้นว่า “ทุกคนหลีกทางด้วยครับ พวกเราเป็นหมอ!”
คำพูดหนึ่งประโยค ทำให้ผู้คนพากันสลายตัว!
เมื่อไม่มีใครยืนมุง สภาพของผู้บาดเจ็บก็ปรากฏสู่สายตาเฉินชางกับจิ่งหราน!
เมื่อเห็นสภาพของผู้ป่วย เฉินชางก็อดวิตกกังวลไม่ได้
สิ่งที่เห็นคือเหล็กเส้นที่แทงทะลุลำคอช่วงล่างผ่านทรวงอกซีกขวา เลือดออกเยอะมาก ชีวิตของผู้บาดเจ็บตกอยู่ในอันตราย เขาถูกเหล็กเส้นยาวสิบเมตรกว่าเสียบอยู่ ขยับไม่ได้!
เฉินชางก้มลงไปดู เหล็กเส้นที่แทงทะลำคอช่วงล่างทะลุผ่านทรวงอกซีกขวา แท่งเหล็กเส้นแตกต่างจากของจูหย่งวั่งเมื่อครั้งนั้น เหล็กเส้นมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณยี่สิบห้ามิลลิเมตร ความยาวประมาณสิบเมตรกว่า!
ทั้งยังมีแผ่นหินที่เชื่อมติดอยู่กับแท่งเหล็กเส้น ทำให้ผู้บาดเจ็บขยับเขยื้อนไม่ได้
เป็นภาพที่เต็มไปด้วยความรุนแรง ทำให้ผู้คนเห็นตุการณ์ต่างตัวสั่นขนลุกของพองอย่างควบคุมไม่อยู่
ในเวลานี้เลือดยังคงไหลทะลักออกาจากทรวงอกไม่หยุด เฉินชางกับจิ่งหรานเห็นแล้วก็รู้สึกใจสั่น!
ผู้ป่วยเป็นชายวัยกลางคนร่างกายกำยำ อายุไม่ถึงห้าสิบปี สวมชุดคนงาน ใบหน้าเปื้อนฝุ่น ทว่าในตอนนี้เขาขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น กัดฟันกรอด มือทั้งสองข้างกำหมัดแน่น ไม่พูดอะไรสักคำ!
ความเจ็บปวดเช่นนี้เป็นความเจ็บปวดที่แสนสาหัส แต่ชายผู้บาดเจ็บนิ่งเงียบไม่ส่งเสียงใดๆ ใบหน้าดำคล้ำของเขาเปี่ยมด้วยความทรหดอดทน เหมือนชายชาตรีผู้แข็งแกร่งที่เคยเห็นในโทรทัศน์มาก
แต่เฉินชางรู้ดีว่าชายชาตรีผู้แข็งแกร่งที่เคยเห็นในโทรทัศน์เป็นแค่การแสดง แต่ผู้บาดเจ็บคนนี้แสร้งทำแบบนั้นไม่ได้!
ใครจะเอาชีวิตตัวเองมาล้อเล่น?
เฉินชางทำงานอยู่ในแผนกฉุกเฉินมาสามปี ยังช็อกกับภาพเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้านี้เลย
คนงานคนอื่นๆ ที่ยืนอยู่รอบๆ ต่างตกใจกลัวจนตัวแข็งทื่อ!
เฉินชางรีบกล่าวทันทีว่า “โทร 119!”
จิ่งหรานอยู่ในอาการตกตะลึง เขารีบหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออก
ในเวลานี้ เฉินชางจำเป็นต้องรู้อย่างกระจ่างแจ้งว่าผู้บาดเจ็บได้รับบาดเจ็บตรงไหนอย่างไร และตรึกตรองอย่างรวดเร็วว่าอวัยวะส่วนไหนของร่างกายบ้างที่จะได้รับผลกระทบไปด้วย รวมถึงเวลาที่ช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บต้องระวังด้านใดบ้าง
หลังจากที่โทรแจ้ง 119 แล้ว จิ่งหรานก็โทรออกอีกเบอร์ด้วย เขาไม่ได้โทรไปที่ศูนย์ฉุกเฉิน 120 แต่โทรไปที่แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาล ทว่าก็ไม่มีใครรับสาย
จิ่งหรานร้อนใจจนมือขวาที่ถือโทรศัพท์มือถือของเขาสั่นเล็กน้อย เมื่อได้เสียงตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด สีหน้าของเขาก็ซีดเผือด เขาโกรธจนอยากจะเขวี้ยงโทรศัพท์มือถือทิ้ง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ