เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ นิยาย บท 292

บทที่ 292 การจัดการของเมิ่งซี

กว่าจะปลีกตัวจากหัวหน้าทั้งสองที่ติดตามตนได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย หลังจากที่เฉินชางเป็นอิสระจากการติดตามแล้วในที่สุด เขาก็รีบมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาลตงต้าก่อนห้าโมง

ในตอนที่เดินทางไปถึงแผนกศัลยกรรมหัวใจ เขาพบว่าทุกคนต่างก็กำลังยุ่งอยู่กับงาน

หัวหน้าเมิ่งซีอาจารย์ที่ปรึกษาของตนไม่อยู่ในห้องทำงาน แต่…หมอเก่อฮว๋ายที่เคยแข่งเย็บหลอดเลือดกับตนอยู่!

เฉินชางรีบเดินเข้าไปหาทันที “สวัสดีครับอาจารย์เก่อ”

เก่อฮว๋ายหันมามองด้วยรอยยิ้ม นับจากตอนนั้นที่เจอกันก็ห่างหายกันไปเดือนกว่า กล่าวตามความจริง เก่อฮว๋ายจำเฉินชางไม่ค่อยได้

ถึงอย่างไรเสียก็เคยเจอหน้ากันแค่ครั้งเดียว “คุณคือ…”

เฉินชางมองเก่อฮว๋ายแล้วหัวเราะ “อาจารย์เก่อ ผมเป็นลูกศิษย์ของหัวหน้าเมิ่งไงครับ”

เก่อฮว๋ายตระหนักได้ทันใด สีหน้าที่แสดงออกดูค่อนข้างโอเวอร์ “อ้อ! คุณก็คือ…คนๆ นั้น!”

เฉินชางถอนหายใจออกมา ฝีมือการแสดงที่โอเวอร์เกินจริงไปมาก ถ้าใช้ความตั้งใจเพิ่มสักนิดก็คงจะดี

ดูแล้วการพ่ายแพ้เมื่อครั้งนั้นยังน่าเวทนาไม่มากพอ เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉินชางก็ตัดสินใจแน่วแน่อยู่ภายในใจว่า ครั้งหน้าจะไม่ยอมอ่อนข้อให้อีก

คนอื่นพ่ายแพ้เพียงครั้งเดียวจดจำมั่นอยู่ในใจ ดูอย่างตัวละครที่ชื่อเซียวเหยียนในเรื่องสัประยุทธ์ทะลุฟ้าที่สูญเสียปราณยุทธ์ฉับพลันคนนั้น ‘สามสิบปีกระแสน้ำในลำธารแปรผันไปทางทิศตะวันออก สามสิบปีกระแสน้ำในลำธารไปทางทิศตะวันตก อย่าดูหมิ่นคนตกอับ’ คำกล่าวนี้กล่าวไว้ได้ดีมาก!

คุณนี่มันจริงๆ เลยนะ แค่พริบตาเดียวก็ลืมกันไปแล้ว

เฉินชางรีบกล่าวพร้อมเสียงหัวเราะ “ใช่ครับๆ! ผมคือคนๆ นั้น เอ่อ…อาจารย์เก่อครับ อาจารย์เมิ่งไม่อยู่หรือครับ”

เก่อฮว๋ายหันมามองเฉินชาง “อ้อ อยู่ที่ห้องผ่าตัดน่ะครับ คุณจะรอเธอที่นี่หรือจะไปหาเธอที่ห้องผ่าตัดก็ได้ครับ”

เฉินชางคิดไปคิดมา สุดท้ายยังคงตัดสินใจว่ารอที่ห้องทำงานก็แล้วกัน

เพราะถึงอย่างไรเสีย ห้องผ่าตัดก็ไม่ใช่ห้องที่จะเดินเข้าออกได้ตามอำเภอใจ ถ้าไม่ใช่เพราะถานจงหลินมาผ่าตัดที่โรงพยาบาลอันดับสองบ่อยๆ ก็คงไม่สิทธิ์เดินเข้าออกห้องผ่าตัดตามอำเภอใจเช่นนี้ได้

ส่วนเฉินชางไม่ได้เป็นบุคคลที่เป็นที่รู้จักในโรงพยาบาลตงต้า…คงไม่มีใครยอมปล่อยให้คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างเขาเดินเข้าไปในห้องผ่าตัดแน่

เฉินชางว่างจนรู้สึกเบื่อก็เลยหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาดู หลังจากรอไปได้ประมาณหนึ่งชั่วโมง เวลาราวหกโมงเย็น เมิ่งซีก็กลับเข้ามาที่ห้องทำงานแล้ว

เฉินชางรีบลุกขึ้นทันที “สวัสดีครับอาจารย์เมิ่ง!”

เมิ่งซีมองเฉินชาง ดึงหน้ากากอนามัยลง พยักหน้าเล็กน้อย หลังจากที่นั่งลงแล้วก็เหยียดยืดขาทั้งสองข้างแล้วจึงจัดท่านั่งให้สบาย

ผ่าตัดสามเคสติดต่อกันตลอดช่วงบ่าย เป็นอะไรที่ค่อนข้างเหน็ดเหนื่อยมากจริงๆ

“นั่งลงเถอะ”

เฉินชางพยักหน้าพร้อมกล่าวขอบคุณ

ตอนนี้เป็นเวลาใกล้เลิกงานแล้ว ผู้คนจึงไม่ค่อยมาก

เพิ่งจะนั่งลงได้ครู่หนึ่งก็รู้สึกว่าอากาศค่อนข้างร้อน เมิ่งซีปลดกระดุมชุดกาวน์ออก เธอค่อนข้างรู้สึกอึดอัดและอบอ้าวจนทนไม่ไหว

เมิ่งซีถามขึ้นว่า “เพิ่งเลิกเรียน?”

ถึงแม้ว่าเฉินชางจะไม่ได้ไปเข้าชั้นเรียน แต่อิงตามระเบียบการแล้วจะต้องเข้าชั้นเรียนแล้ว เขากล่าวตามความจริงด้วยความสุขุมเยือกเย็นมาก “เอ่อ หลังจากฉลองวันชาติ ก็เริ่มติดตามอาจารย์ที่ปรึกษาอย่างเป็นทางการแล้วครับ”

เมิ่งซี “อ้อ” แล้วก็กล่าวขึ้นว่า “หัวหน้ากวน หัวหน้าสำนักงานบัณฑิตศึกษาเคยบอกฉันเรื่องคุณแล้ว บอกว่า…คุณทำงานอยู่แผนกฉุกเฉินโรงพยาบาลอันดับสอง คุณทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยใช่มั้ย”

เฉินชางหัวเราะกระอักกระอ่วน เขาประพฤติตัวไม่สมกับการเป็นนักศึกษาปริญญาโทจริงๆ คนอื่นๆ ต่างก็ไปติดตามอาจารย์ที่ปรึกษาของตนเองตามโรงพยาบาลที่อาจารย์ที่ปรึกษาสังกัดอยู่และฝึกอบรมที่นั่น แต่เฉินชางทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลอันดับสองอยู่แล้วจึงทำได้แค่เลือกวิธีพบกันครึ่งทาง

“ครับ แต่อาจารย์เมิ่งครับ ผมจะพยายามมาพบอาจารย์ให้บ่อยที่สุด”

เมิ่งซีดูเหมือนว่าจะกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ หลังจากที่นิ่งเงียบอยู่สองสามนาที เธอก็มองเฉินชางพร้อมกล่าวขึ้นว่า “ฉันจะให้ตัวเลือกคุณสองตัวเลือก…

…ตัวเลือกที่หนึ่งก็คือคุณไม่ต้องมาพบฉัน ถึงเวลาเข้าชั้นเรียนก็ไปเข้าเรียน ใช้ชื่อฉันเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาก็พอ ฉันเองก็ไม่คิดจะก้าวก่ายพฤติกรรมของคุณ ถึงยังไง…ถึงยังไงก็สถานการณ์ของคุณก็เป็นสถานการณ์ที่พิเศษ คุณทำงานแล้ว อายุก็ไม่น้อย ฉันไม่ได้ตั้งเงื่อนไขอะไรกับคุณ เรียนให้จบอย่างราบรื่นอย่าสร้างปัญหาให้ฉันก็พอ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ