บทที่ 300 ทำไมเป็นเฉินชางอีกแล้ว
หลังจากที่หยางซือฉีได้ยินสิ่งที่หมออัลตราซาวด์บอก เธอก็ถึงกับสับสนมึนงงทันใด!
ราวกับมีสายฟ้าผ่าฟาดลงกลางใจทำลายความมุ่งมั่นในใจเธอจนดับสิ้น
สีหน้าของเธอไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึก หยาดน้ำตาไหลพรากออกมาเป็นสาย
สิ้นหวัง!
อับจนทาง!
ฉันก็แค่อยากมีลูกสักคนหนึ่ง ทำไม่ถึงได้ยากเย็นนักนะ สวรรค์ได้โปรดเถอะ…
หยางซือฉีสวดอธิษฐานอยู่ในใจไม่หยุด เธอรู้สึกเหมือนเห็นเทียนเล่มหนึ่งที่อยู่ท่ามกลางสายลมที่โบกพัด แสงเทียนริบหรี่เอนไหวไปตามแรงลม เหมือนกับชีวิตลูกในครรภ์ของเธอ เธออยากจะปกป้อง แต่กลับพบว่าแค่เอื้อมไปสัมผัสยังเอื้อมไม่ถึงเลย…
หวาดกลัว!
เจ็บปวดรวดร้าว!
จนปัญญา!
ความรู้สึกอับจนหนทางหลากหลายรูปแบบกับความรู้สึกเศร้ารัดทดท่วมท้นไปทั่วร่างกายเธอ เธออยากจะปกป้องลูกรัก แต่กลับอับจนหนทางไร้ซึ่งเรี่ยวแรง
เมื่อเว่ยจวิ้นหมิงเห็นสถานการณ์แล้วก็รีบตรงเข้าไปหาภรรยาทันที เขากอดภรรยาเอาไว้ในอ้อมอกด้วยความนุ่มนวล
“ไม่เป็นไร! ไม่เป็นไรนะที่รัก! ที่รัก…ที่รักไม่ต้องกลัว!…ไม่เป็นไรจริงๆ เราพยายามกันมาตั้งนานขนาดนั้น สวรรค์จะต้องช่วยเราแน่…
…อย่าร้องไห้ ผมขอร้องนะ ที่รัก…”
เว่ยจวิ้นหมิงปลอบภรรยาไม่หยุด ทว่าปลอบไปปลอบมา ตนเองก็เริ่มสะอื้นไห้
…
…
ก่อนศตวรรษที่ยี่สิบ โรคหลอดน้ำเหลืองรั่วในช่องเยื่อหุ้มปอดถูกมองว่าเป็นโรคที่รักษาไม่หายมาโดยตลอด
การแพทย์ในอดีตยังไม่ก้าวหน้า เวลาที่ตรวจครรภ์ ถ้าพบว่าทารกมีภาวะน้ำคั่งในช่องเยื่อหุ้มปอด หมอก็มักจะประเมินว่าโอกาสรอดต่ำ หรือไม่ก็ระบุว่าพิการแต่กำเนิด และแนะนำให้เร่งคลอดเพื่อยุติการตั้งครรภ์
แต่ในช่วงหลายปีมานี้ การแพทย์ก้าวหน้าขึ้นตามยุคสมัย โอกาสรักษาหายของทารกที่เป็นโรคหลอดน้ำเหลืองรั่วในช่องเยื่อหุ้มปอดสูงขึ้น และไม่ผลข้างเคียงใดๆ จากโรคตกค้างด้วย
ดังนั้นคำแนะนำของหมอโรงพยาบาลท้องถิ่นจึงตรงประเด็นมาก!
ถ้าไม่เร่งคลอดเพื่อยุติการตั้งครรภ์ ก็ต้องย้ายโรงพยาบาล
เมื่อจางจิ้นเฟิงเห็นสองสามีภรรยาร้องไห้ น้ำเสียงของเธอก็อ่อนโยนขึ้นมาก “เสี่ยวหยาง คุณสงบสติอารมณ์ก่อน ทางเราจะรีบจัดทีมแพทย์ช่วยชีวิตทารกอย่างเต็มความสามารถ อารมณ์คุณเป็นแบบนี้จะยิ่งทวีความรุนแรงให้กับอาการของทารก”
คำพูดนี้ทำเอาหยางซือฉีถึงกับหยุดชะงัก เธอพยักหน้าไม่หยุด “ได้ค่ะหัวหน้า ฉันเชื่อคุณ ฉันเชื่อคุณทุกอย่าง ที่ฉันตั้งครรภ์สำเร็จก็เพราะคุณช่วยในตอนนั้น ฉันเชื่อว่าคุณจะต้องมีวิธี…”
ในเวลานี้หยางซือฉีกับเว่ยจวิ้นหมิงสองสามีภรรยาจะทำอะไรได้นอกจากอธิษฐานขอพร พวกเขาทำให้แค่ฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่จางจิ้นเฟิง
แต่…
จะแก้ปัญหาอย่างไร ในใจของพวกเขาก็ยังไม่มั่นใจ!
ถึงอย่างไร…เด็กก็ยังอยู่ในครรภ์ คงจะนำเด็กออกมาเพื่อผ่าตัด แล้วค่อยใส่กลับเข้าไปใหม่หลังจากผ่าตัดเสร็จแล้วไม่ได้
จะทำแบบนั้นได้อย่างไร!
ในเวลานี้สือฉีเดินเข้ามาด้วยความรีบร้อน เมื่อเห็นว่าหัวหน้าใหญ่ของแผนกสูตินารีเวชอยู่กันครบทั้งสามคน เขาก็ถึงกับชะงัก ในใจก็หวาดผวา แอบกล่าวในใจ แย่แล้ว จะต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่!
มนุษย์เราก็เป็นเช่นนี้ คนมีความสามารถสูงก็กล้าสู้กล้าทำ ไม่หวั่นเกรงต่อสิ่งใด ถ้าไม่มีความสามารถเป็นหลักประกัน ก็ไม่มีความมั่นใจ
เมื่อจางจิ้นเฟิงเห็นสือฉีเดินเข้ามา เธอก็มีมารยาทดีมาก
“หัวหน้าสือ มาแล้วหรือคะ คุณรีบมาช่วยดูเร็วเข้า” จางจิ้นเฟิงเรียกสือฉีให้เข้ามา
สือฉีฝืนใจเดินเข้าไป หมออัลตราซาวด์กล่าว “หัวหน้าสือคะ ตอนนี้สถานการณ์เป็นแบบนี้ค่ะ อัลตราชาวด์วัดปริมาตรน้ำที่คั่งอยู่ในช่องเยื่อหุ้มปอดได้สองร้อยห้าสิบมิลลิลิตร เกิดแรงดันมหาศาลทำให้ปอดยุบตัวลง ถุงลมไม่เจริญเติบโต หัวใจถูกดันไปด้านข้าง…
…ถ้าไม่รีบเจาะระบายของเหลวออกให้เร็วที่สุด ของเหลวก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทารกอาจหัวใจล้มเหลวและเสียชีวิตในครรภ์ได้…
…แล้วตอนนี้หัวใจของทารกก็อ่อนแรงลงเรื่อยๆ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ