บทที่ 402 เข้าใจผิด!
จางจื้อซิน ฉินเสียง หยางเทา ทั้งสามล้วนเป็นสมาชิกสมาคมศัลยแพทย์ความงามแห่งมณฑล ฉินเสียงเป็นประธาน หยางเทาเป็นรองประธาน ถือว่าเป็นคนใหญ่คนโตในวงการ แต่ตอนนี้ทั้งสามกำลังห้อมล้อมหญิงอายุห้าสิบกว่าปีคนหนึ่งเอาไว้
เธอมีรูปร่างผอม แต่งหน้าอย่างดีจนมองอายุไม่ออก สวมชุดกี่เพ้าดูเหมาะสม ทว่าดูไปแล้วกลับคุ้นๆ
กงไต้เจินยิ้มพลางพูดกับพวกฉินเสียงและจางจื้อซินว่า “การศัลยกรรมความงามในเมืองอันหยางเติบโตได้ดีทีเดียวนะคะ ผู้อำนวยการจาง คลินิกศัลยกรรมของคุณดูมีรสนิยมมากเลยนะคะ”
จางจื้อซินยิ้มตาม “ก็พอมีคุณสมบัติกับเขาบ้างละครับ ยังไงผมก็เป็นผู้อำนวยการคนหนึ่ง”
กงไต้เจินแค่นเสียง เดินไปเยื้องย่างเข้าไปในคลินิก เธอสำรวจการตกแต่งภายในตึกแล้วหัวเราะออกมา “ค่ะ คงตั้งใจมากจริงๆ ดูแล้วให้ความรู้สึกหรูหราและน่าเชื่อถือ”
เมื่อเอาคำว่าหรูหราและน่าเชื่อถือมารวมกันกลับให้ความรู้สึกไม่เหมาะสมนัก แต่เมื่อนำมาใช้กับวงการศัลยกรรมความงามกลับดูเหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง เพราะอย่างไรพวกมันก็เกี่ยวกับความหรูหราและน่าเชื่อถือทั้งหมด
กงไต้เจินมองจางจื้อซินด้วยท่าทางราวกับกำลังครุ่นคิดบางอย่าง จากนั้นจึงกล่าวไปอย่างหยอกเย้าว่า “ผู้อำนวยการจาง ฉันได้ยินว่าวันนี้เฉินชางมีผ่าตัด วันนี้ฉันเดินทางมาไกลก็เพราะอยากดูเขาผ่าตัด คุณคงไม่ปฏิเสธหรอกนะคะ”
จางจื้อซินรีบฉีกยิ้ม “ปฏิเสธหรือ จะเป็นไปได้อย่างไรครับ! แต่…วันนี้ค่อนข้างพิเศษ คือการผ่าตัดถูกเลื่อนออกไปแล้วน่ะครับ เดี๋ยวผมจะให้เสี่ยวเฉินลงมานะครับ”
จากนั้นเขาจึงยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรออก ทว่าขณะนั้นเอง จู่ๆ ประตูลิฟท์ก็เปิดออก เฉินชางและสวีโหรวเดินมาทางด้านนี้อย่างเปิดเผย
กงไต้เจินเห็นเฉินชางก็อดมองสำรวจไม่ได้ ชายคนนี้อายุน้อยจริงๆ แต่ก็มีความสามารถมาก บุคลิกดีน่าเชื่อถือ เห็นแล้วรู้สึกมั่นคง คงเป็นชายหนุ่มคนนี้สินะ
กงไต้เจินแปลกใจขึ้นมา
ฉินเสียงเห็นดังนั้นก็รีบเดินเข้ามา “เสี่ยวเฉิน ขออนุญาตแนะนำหน่อยนะครับ ท่านนี้คือรองหัวหน้าสมาคมศัลยแพทย์ความงามแห่งประเทศจีน ท่านรองกง”
เฉินชางยิ้ม กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ดูไม่เย่อหยิ่งหรือต่ำต้อยเกินไป “ท่านรองกง สวัสดีครับ ได้ยินชื่อเสียงของคุณมานานแล้ว”
กงไต้เจินแย้มยิ้มออกมาเล็กน้อย “หมอเฉิน ฉันก็ได้ยินชื่อเสียงคุณมานานแล้วค่ะ อยากมาศึกษาแลกเปลี่ยนความรู้กันสักหน่อย พอดีฉันมีโอกาสพบผู้ป่วยที่ทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกกับคุณ บอกตามตรงฉันรู้สึกประหลาดใจจริงๆ ค่ะ ฉันอยากมาแลกเปลี่ยนความรู้กับคุณนานแล้วแต่ก็ไม่มีเวลา วันนี้เป็นวันเสาร์พอดี เลยตั้งใจเดินทางจากเมืองหลวงมาเลยค่ะ สายงานอาชีพของพวกเราเปรียบเสมือนใต้หล้าของคนหนุ่มอย่างคุณ หญิงชราอย่างฉันเลยอยากมาแลกเปลี่ยนกันสักหน่อย เพื่อร่วมพัฒนาความรู้ไปด้วยกัน!”
กงไต้เจินอายุห้าสิบกว่าแล้ว ไม่นานก่อนหน้านี้เป็นวันเกิดเธอพอดี จึงมีนักเรียนกลุ่มหนึ่งไปอวยพรวันเกิด
เมื่อคนในวงการศัลยกรรมความงามมารวมตัวกันก็ต้องคุยเรื่องในวงการ ในงานเลี้ยง เธอบังเอิญได้ยินนักเรียนพูดถึงหมอน้อยในเมืองอันหยางคนหนึ่งที่ผ่าตัดเสริมหน้าอกในราคาหนึ่งล้านหยวน นี่ทำให้เธอตกใจจริงๆ
การคิดราคาสูงเช่นนี้ ถ้าไม่มีความสามารถจริงๆ คงทำไม่ได้ แน่นอนว่านี่อาจเป็นเพียงโฆษณาชวนเชื่อที่ถูกนำมาพูดเป็นเสมือนบทสนทนาหลังอาหาร แค่ฟังไปก็พอแล้ว กงไต้เจินที่เป็นผู้ใหญ่ในวงการก็ไม่ได้รู้สึกสนใจอะไร และยิ่งไม่จำเป็นต้องมาดูด้วยตาตัวเองเลย!
แต่สองสามวันหลังจากนั้นเธอกลับได้ยินชื่อเฉินชางอีกครั้ง ทั้งยังได้เห็นผลงานผ่าตัดของเฉินชางอีกด้วย เมื่อเห็นแล้วกงไต้เจินก็สนใจในตัวเฉินชางขึ้นมาทันที!
คนไข้ที่ว่านี้เคยไปหากงไต้เจินเมื่อหลายเดือนก่อน แต่เพราะเป็นงานยากเกินไปเธอจึงต้องกลับไปพิจารณาเสียหน่อย
เพราะสภาพคนไข้ค่อนข้างพิเศษ เธอจึงจำได้ดี คิดไม่ถึงว่าเวลาผ่านไปเพียงไม่นาน เมื่อเปรียบเทียบกับก่อนหน้านี้แล้วจะทำให้กงไต้เจินตกตะลึงได้จริงๆ เธอทึ่งมาก!
การที่กงไต้เจินประหลาดใจนั่นหมายความว่าคนผู้นั้นควรค่าแก่การพิจารณา ตอนนี้เธอรู้สึกจริงๆ ว่าราคาหนึ่งล้านหยวนคุ้มค่ามาก!
ชั่วขณะนั้น กงไต้เจินก็มีความคิดอยากเห็นเฉินชางผ่าตัดขึ้นมาทันที
……
ส่วนคำค่อนแคะของจางจื้อซินเธอไม่รู้เลยสักนิด หากรู้จะมาอย่างไร้ยางอายเช่นนี้หรือ จะอย่างไรเธอก็ถือเป็นผู้อาวุโสในวงการ ไม่จำเป็นต้องมาตรวจสอบหรือจ้องจับผิดเฉินชางเลย ยิ่งไปกว่านั้น เฉินชางมีรายได้เท่าไหร่ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ อีกอย่าง การที่ผู้น้อยค่อนแคะผู้ใหญ่รังแต่จะทำให้ตัวเองเสื่อมเสีย ผู้คนจะพูดกันว่าไม่เคารพผู้ใหญ่
กงไต้เจินสนใจเฉินชางจริงๆ! ทว่าที่จางจื้อซินพูดค่อนแคะเธอให้เฉินชางฟังก็เพราะความเข้าใจผิด เนื่องจากนักเรียนของกงไต้เจินก็คืออันจิ้งที่เป็นหนึ่งในผู้บริหารคลินิกศัลยกรรมแอนนี่
เพื่อนในสายอาชีพเดียวกันก็คือศัตรู คำพูดนี้ไม่ผิดเลย
ถึงอย่างไรจางจื้อซินก็เป็นผู้อำนวยการคลินิก จะต้องคิดให้มาก มีเรื่องอะไรนิดหน่อยก็ต้องหาทางป้องกันและคิดถึงอนาคตไว้ก่อน เป็นเช่นนี้จนเคยชินแล้ว ดังนั้นจึงกลัวว่าคราวนี้จะเป็นแผนร้ายอะไร
อีกทั้งเขาก็อยากปกป้องเฉินชางด้วย เขากลัวเฉินชางถูกจ้องจับผิด ไม่ดีต่ออนาคตของเฉินชาง ดังนั้นจึงได้เตือนไปเช่นนั้น!
สุดท้ายความเข้าใจผิดก็เกิดขึ้นแล้ว ทำให้เฉินชางเห็นหญิงชราคนนี้เป็นศัตรูไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม เฉินชางฟังดูแล้วพบว่าทั้งน้ำเสียงและการกระทำของกงไต้เจินเต็มไปด้วยความเกรงอกเกรงใจ ไม่เหมือนมาจ้องจับผิดเลยสักนิด อีกอย่าง เธอคนนี้ดูใจดีมาก คำพูดคำจาก็ไม่ได้ทำให้ผู้รับฟังรู้สึกไม่ดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ