บทที่ 415
ชายคนนั้นเห็นหวังหย่งไม่พูดอะไรจึงคิดว่าอีกฝ่ายไม่มีเหตุผล ด้วยเหตุนี้จึงไม่ไว้หน้าเข้าไปใหญ่! คำด่าก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น! ถึงกับยกเอาเรื่องตลกร้ายเกี่ยวกับหมอบนอินเทอร์เน็ตมาด่าเลยทีเดียว บ้างก็ว่าถ้าไม่จ่ายสินบนก็จะไม่ยอมทำเรื่องผ่าตัดให้ หนักกว่านั้นก็จำพวกเลี้ยงไข้ผู้ป่วยอะไรพวกนั้น
พอหวังหย่งเอ่ยปากพูดก็ถูกเสียงตะโกนของเขากลบจนมิด
หวังหย่งเห็นว่าอธิบายไปก็ไร้ผลจึงหมุนตัวเดินหนีทันที คิดจะก็ไปติดต่อหัวหน้าแผนก
แต่ในตอนนั้นเอง ชายคนนั้นก็ดึงหวังหย่งเอาไว้ “ทำไม จะหนีเหรอ ผมจะบอกอะไรให้ ถ้าวันนี้คุณไม่อธิบายให้ชัดเจน คุณจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น! แล้วถ้าพ่อผมเป็นอะไรไป คุณรอขึ้นศาลได้เลย!”
“หมอขยะ เศษสวะเอ๊ย!”
เฉินชางสีหน้าเปลี่ยนไปทันที รีบเดินไปเบื้องหน้าโดยพลัน
หวังหย่งเป็นเพื่อนร่วมงานของเขา และถือเป็นเพื่อนกันด้วย ในบางความหมายก็ถือเป็นลูกศิษย์ของเขาอีกต่างหาก เมื่ออีกฝ่ายเจอเรื่องเช่นนี้เ ฉินชางย่อมเข้าไปปกป้องโดยไม่แม้แต่จะคิด
แต่ว่า…คิดไปคิดมา เฉินชางก็สวมถุงมือก่อนแล้วค่อยเดินไป เพราะถ้าไม่สวมถุงมือก็จะไม่ได้รับการเสริมพลังกาย…ถ้ามีเรื่องตบตีกันขึ้นมาคงเสียเปรียบแย่
พลังบวกห้าเท่ากับพละกำลังเพิ่มขึ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์ เดิมทีเฉินชางก็มีรูปร่างสูงเพรียวอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น การทำงานอยู่ในแผนกฉุกเฉินก็ต้องใช้พลังมหาศาล ถือเป็นการฝึกฝนร่างกายไปในตัว ต่อให้เป็นชายร่างใหญ่คนนี้ก็ไม่แน่ว่าจะสู้ได้
เฉินชางเดินเข้ามาเอ่ยขัดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ปล่อยมือก่อนครับ มีอะไรก็พูดกับผมได้ หรือถ้าคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการรักษาของพวกเรา คุณจะร้องเรียนหรือแจ้งตำรวจก็ได้ทั้งนั้น!”
ชายร่างใหญ่เห็นเฉินชางก็พูดโดยหน้าไม่เปลี่ยนสีสักนิด “กองหนุนหรือไง”
เฉินชางส่ายหน้า ดวงตาจับจ้องไปที่ชายคนนั้น “ไม่ใช่กองหนุนครับ นี่ไม่ใช่การวิวาท ที่นี่คือโรงพยาบาล คุณปล่อยมือก่อนเถอะ”
ชายคนนั้นชะงักไป เขาปรายตามองมาที่เฉินชาง “คุณไปเรียกหัวหน้าแผนกของพวกคุณมาเถอะ ผมไม่พูดกับคุณหรอก! วันนี้ถ้าไม่มีคำอธิบายให้ผม ผมจะไม่ยอมปล่อยเขาแน่”
เฉินชางวางมือตนเองลงบนข้อมืออีกฝ่ายจากนั้นก็ออกแรงบีบ ทันใดนั้นเรี่ยวแรงอันมหาศาลก็แผ่ออกมาจนเขาต้องรีบปล่อยหวังหย่ง
ชายคนนั้นตะลึงพรึงเพริดไปทันที!
พละกำลังของเฉินชางเมื่อครู่นี้ทำให้เขาตกใจจริงๆ!
เขาไม่คิดเลยว่า…หมอน้อยคนนี้จะมีเรี่ยวแรงมากมายขนาดนี้
การกระทำของเฉินชางทำให้คนที่ล้อมดูอยู่รอบๆ ตกใจไปเช่นกัน อย่างไรเสียเช้าวันจันทร์ก็เป็นช่วงที่แผนกฉุกเฉินวุ่นวายที่สุด หากเกิดเหตุการณ์ที่สอดรู้สอดเห็นได้เช่นนี้จึงไม่มีเหตุผลที่จะไม่มาชมดู
ความจริงผู้ป่วยจะได้รับความเห็นใจจากผู้ป่วยด้วยกันง่ายกว่า ในการรักษาพยาบาล หลายคนมักรู้สึกว่าผู้ป่วยเป็นผู้อ่อนแอ ดังนั้นในฐานะที่เป็นผู้ป่วยเหมือนกัน ทำให้เชื่อคำพูดของชายคนนั้นไปตามสัญชาตญาณ
การกระทำนี้ของเฉินชางทำให้คนรอบๆ ตกใจกันหมด
เฉินชางเหมือนวางมือบีบลงไปตามใจก็ทำให้ชายร่างสูงใหญ่คนนี้ตกใจจนต้องรีบปล่อยมือแล้ว เรื่องตะลึงพรึงเพริดเช่นนี้ดูจะเหลือเชื่อเกินไป!
หมอน้อยคนนี้มีแรงมหาศาลขนาดนี้เชียว! ถึงกับหยุดชายรูปร่างสูงใหญ่ที่มีความสูงถึงร้อยเก้าสิบเซ็นติเมตรเอาไว้ได้ในเวลาเพียงพริบตาเดียว นี่…ต้องใช้แรงขนาดไหนกัน
ชายคนนั้นเห็นเฉินชางแข็งแรงเพียงนี้ก็ชะงักไป เฉินชางจึงฉวยโอกาสช่วงหยุดชะงักพูดกับหวังหย่งว่า “เอาประวัติคนไข้เตียงสิบเอ็ดมาให้ผมทีครับ”
หวังหย่งสูดหายใจลึก ส่งสายตาขอบคุณให้เฉินชางพร้อมพยักหน้าแล้วเดินไปข้างๆ
ชายคนนั้นอยากพูดอะไรบางอย่างแต่กลับถูกเฉินชางจ้องเขม็ง “ผมขอดูประวัติผู้ป่วยก่อนนะครับ อีกเดี๋ยวคุณค่อยพูด”
เฉินชางเป็นคนมีเหตุผล ช่วงเวลาสำคัญก็ใช้กำลังได้ นี่ทำให้ชายคนนั้นพูดอะไรไม่ออก
ไม่นานหวังหย่งก็เดินถือประวัติคนไข้เข้ามา จากนั้นก็ถ่ายประวัติอาการมาให้ฉบับหนึ่ง ด้านบนมีบันทึกประวัติอาการเจ็บป่วยเอาไว้อย่างละเอียด
เฉินชางอ่านจบก็ต้องขมวดคิ้วทันที
หวังหย่งมองชายคนนั้นด้วยรอยยิ้มเย็นชา กล่าวเสียงดังว่า “ผู้ป่วยเป็นโรคถุงน้ำดีอักเสบ อาการกำเริบเมื่อสามวันก่อน ปล่อยเวลาผ่านไปเกินเจ็ดสิบสองชั่วโมงแล้วถึงค่อยส่งตัวมาที่โรงพยาบาล ตอนแอดมิทสภาพร่างกายของผู้ป่วยย่ำแย่มาก ผมตรวจเลือดดูแล้วพบว่า TSB[1] ในเลือดสูงมาก! AST[2] ALP[3] อะไรพวกนี้ก็ไม่ปกติ
ถึงจะประเมินออกมาแล้วว่าค่าการทำงานของหัวใจตับและไตยังอยู่ในระดับปกติ แต่ผู้ป่วยอายุแปดสิบปีแล้ว โรคถุงน้ำดีอักเสบกำเริบมามากกว่าเจ็ดสิบสองชั่วโมงแบบนี้อาจจะมีการติดเชื้อในช่องท้องร่วมด้วย ตอนนี้อุณหภูมิร่างกายของผู้ป่วยค่อนข้างสูง เห็นได้ชัดว่าผู้ป่วยติดเชื้อ ต้องให้ผู้ป่วยอยู่ห้อง ICU เพื่อติดตามอาการก่อน รอให้สภาวะร่างกายฟื้นตัวเป็นปกติก่อนค่อยผ่าตัด แต่เขาบอกว่าผมไม่ยอมผ่าตัดให้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ