เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ นิยาย บท 448

บทที่ 448 คุณดีใจเร็วเกินไปแล้ว

ซุนเซี่ยงเฉิงนั่งอยู่ตรงนั้น มีลูกชายนั่งอยู่ที่เก้าอี้ข้างๆ เป็นเพื่อนกัน ทั้งสองกำลังนั่งรอปาฏิหาริย์อยู่นอกห้องผ่าตัด!

เมื่อครู่เขาเห็นชายที่ประสบอุบัติเหตุเดียวกันออกมาแล้ว หมอบอกว่าการผ่าตัดประสบความสำเร็จดีและรักษาขาเอาไว้ได้! ครอบครัวผู้ป่วยดีใจจนน้ำตาไหล จากนั้นผู้ป่วยก็ถูกเข็นไปยังห้องพักคนไข้

ตอนนี้เด็กชายก็คาดหวังว่ามารดาของตนจะโชคดีเช่นเดียวกัน!

ยิ่งเวลาไหลผ่านไปอย่างเชื่องช้า สองพ่อลูกก็ยิ่งร้อนรน!

พวกเขาสองคนซื้อขนมปังมาตอนเที่ยง แต่กลับไม่ได้กินแม้แต่คำเดียว น้ำก็ดื่มไปเพียงสองสามขวด

ซุนเซี่ยงเฉิงกำมือแน่น คิดอะไรมากมายจนรู้สึกไม่สบายใจ จึงรีบสะบัดหัวไล่ความคิดเลวร้ายและน่ากลัวเหล่านั้นออกจากสมอง แต่ว่า…จะทำอย่างไรความหวาดกลัวเหล่านั้นก็ยังคงไม่หายไป

เขายอมรับว่าเขากลัวมากจนสองมือสั่นระริก

ขณะนั้นเอง จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่ามีมืออันอบอุ่นคู่หนึ่งกุมมือเขาเอาไว้ เมื่อหันไปก็พบว่าลูกชายกำลังเบิกตากว้างจ้องมองมาที่ตนอย่างเด็ดเดี่ยวพลางบอกว่า “พ่อครับ แม่ต้องไม่เป็นอะไรแน่! จริงๆ นะครับ!”

คำพูดประโยคนี้ของลูกชายทำให้ซุนเซี่ยงเฉิงรู้สึกแสบจมูก กระบอกตามีน้ำตาคลอ เขารีบสูดหายใจลึกครั้งหนึ่งแล้วเงยหน้าขึ้น กะพริบตาไม่ยอมให้น้ำตาไหลออกมา ไม่ยอมให้ลูกชายเห็นความอ่อนแอของตน…

จากนั้นเขาก็ได้ยินลูกชายพูดขึ้นอีกครั้งว่า “พ่อครับ ต่อให้แม่ไม่อยู่แล้ว ผมก็จะดูแลพ่อให้ดี…”

เด็กที่ยังไม่เติบโตเป็นผู้ใหญ่คนนี้คิดไปไกลมาก เขาพยายามเลียนแบบท่าทางของผู้ใหญ่ เลียนแบบคำพูดคำจาและน้ำเสียงของผู้เป็นมารดา กล่าวแต่ละคำออกมาอย่างจริงจัง

แม้น้ำตาของเขาจะไหลจนเข้าไปในปากแล้ว แต่สายตากลับเด็ดเดี่ยวแน่วแน่หาใดเปรียบ ท่าทางเช่นนี้ทำให้ซุนเซี่ยงเฉิงที่อายุสามสิบกว่าปีถึงกับโผเข้ากอดลูกชายแล้วร้องไห้ออกมา

เขาไม่คิดเลยว่าลูกชายที่ปกติเป็นเด็กซุกซนจะกล่าวคำที่ทำให้เขาอบอุ่นหัวใจเช่นนี้ออกมาได้ แม้กระนั้น ซุนเซี่ยงเฉิงยินดีเห็นท่าทางซุกซนไม่รู้ความของลูกมากกว่าจะอยากเห็นท่าทางราวกับผู้ใหญ่ตัวน้อยเช่นนี้

ซุนเซี่ยงเฉิงที่เป็นคนเข้มแข็งมาตลอดร้องไห้จนน้ำหูน้ำตาไหล ส่งเสียงสะอึกสะอื้นออกมา

ในตอนที่นาฬิกาแขวนผนังตีบอกเวลาสิบเจ็ดนาฬิกา ประตูห้องก็เปิดออก สองพ่อลูกรีบลุกขึ้นแล้วเดินไปอย่างร้อนรน

“หมอ หมอครับ! ภรรยาผมเป็นยังไงบ้างครับ!”

“คุณอา คุณลุง แม่ผม…เป็นยังไงบ้างครับ…”

เมื่อทุกคนเห็นสายตาร้อนอกร้อนใจของทั้งสองก็ยิ้มออกมา หลี่เป่าซานพูดขึ้นว่า “การผ่าตัดประสบความสำเร็จมากครับ พวกคุณวางใจได้เลย”

ประโยคนี้ทำให้ซุนเซี่ยงเฉิงถึงกับใจสั่น! เข้าไปกอดหลี่เป่าซานแล้วพูดว่า “ขอบคุณมากครับคุณหมอ!”

โปโปตัวน้อยที่อยู่ข้างๆ ก็โค้งตัวลงแล้วพูดขึ้นว่า “ขอบคุณครับคุณลุง!”

หลี่เป่าซานตบซุนเซี่ยงเฉิงเบาๆ “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรครับ ไปห้องพักผู้ป่วยเถอะ ตอนนี้ผู้ป่วยถูกส่งตัวไปที่ห้องพักแล้วครับ”

……

……

เมื่อมาถึงห้องพักผู้ป่วยแล้ว พวกเขาก็เพิ่งทราบว่าผู้ป่วยต้องถูกส่งตัวไปที่ห้อง ICU เพื่อสังเกตอาการต่อไป เพราะผู้ป่วยได้รับการถ่ายเลือดไปถึงสองในสามของร่างกาย ยังไม่ทราบว่าจะมีปฏิกิริยาอะไรหรือไม่ ทั้งยังมีเรื่องการฟื้นฟูอวัยวะต่างๆ ให้ต้องจัดการอีกมากมาย หลังจากนี้ยังมีปัญหาอีกมาก!

แต่เพื่อให้เธอได้พบกับสามีและลูกชาย ทางโรงพยาบาลจึงจัดแจงให้อยู่ในห้องสังเกตอาการไปก่อนชั่วคราว

ซุนเซี่ยงเฉิงพาลูกชายเดินเข้ามาในห้อง ในที่สุดครอบครัวก็ได้พบหน้ากันแล้ว

ซุนเซี่ยงเฉิงไม่กล้าแตะต้องภรรยา เพราะตอนนี้ทั่วทั้งตัวของเธอเต็มไปด้วยบาดแผล คิดแล้วเขาก็ปวดใจจริงๆ

ขณะเดียวกัน ลูกชายก็ยืนมองผู้เป็นมารดาอยู่ข้างๆ ทันใดนั้นก็พูดขึ้นว่า “แม่ครับ ผมสาบานกับพระเจ้าไว้แล้วว่าถ้าแม่ตื่นขึ้นมา ต่อไปผมจะไม่ซนอีก จะไม่ดื้ออีก จะเชื่อฟังคำพูดของแม่ จะตั้งใจกินข้าว…”

จู่ๆ ลูกชายก็รู้ความขึ้นมาเช่นนี้ ทำให้เธอยิ้มออกมาพร้อมน้ำตา ซุนเซี่ยงเฉิงจึงรีบเช็ดน้ำตาให้ภรรยา แล้วพูดด้วยอารมณ์ซับซ้อนว่า “ที่รัก โปโปโตแล้ว!”

เธอกะพริบตาใส่

เฉินชางยืนมองดูภาพบรรยากาศอันอบอุ่นอยู่ตรงนั้น จู่ๆ ก็รู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำมาคุ้มค่าแล้ว

รางวัลการแข่งขันประกวดวิดีโอการผ่าตัดของสมาคมศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีประจำมณฑลตงหยางอะไรกัน!

ตำแหน่งคณะกรรมการสมาคมศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีประจำมณฑลตงหยางอะไรกัน…

สิ่งเหล่านี้เมื่อมาอยู่ต่อหน้าชีวิตอันสดใหม่ จะมีน้ำหนักแค่ไหนกันเชียว

หน้าที่ของหมอคือช่วยชีวิตผู้ป่วยช่วยและรักษาผู้คนไม่ใช่หรือ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ