บทที่ 464 มีเสี่ยวเฉินอยู่ด้วยคงไม่มีปัญหาอะไรมาก!
ถึงแม้ฉินเสี้ยวหยวนจะไม่ใช่หมอที่ประจำแผนกส่องกล้อง แต่ประสบการณ์ด้านคลินิกหลายปีของเขาก็ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เมื่อได้ยินคำพูดเซียวเหอ เขาก็ขมวดคิ้วทันที
เซียวเหอกล่าวต่อไป “ผู้อำนวยการฉิน ผมกังวลว่าอาจเป็นแผลทะลุที่หลอดอาหาร แต่…ไม่ทราบว่าจะลามไปถึงหลอดเลือดแดงใหญ่หรือเปล่า ดังนั้นกันไว้ก่อนดีกว่า!”
นี่เป็นหนึ่งในอาการเริ่มต้นของเนื้องอก ซึ่งปกติจะมีอาการค่อนข้างซับซ้อนเช่นนี้เอง ยิ่งเป็นฉินเสี้ยวหยวนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้องอกมาตลอดชีวิตก็ยิ่งรู้เรื่องนี้ดี
แรกเริ่มเดิมทีแผนกเนื้องอกวิทยาของโรงพยาบาลอันดับสองถูกเรียกว่า ‘แผนกอายุรศาสตร์ครอบคลุม’ เพราะเนื้องอกเกี่ยวพันกับระบบต่างๆ ค่อนข้างมาก ดังนั้นจึงถูกเรียกว่าเป็นแผนกอายุรศาสตร์ครอบคลุม ต่อมาจึงเปลี่ยนเป็นแผนกเนื้องอกวิทยาอย่างเป็นทางการ และค่อยๆ แตกออกมาเป็นแผนกเนื้องอกหนึ่ง เนื้องอกสอง…
อย่างไรก็ตาม เมื่อต้องคุยกับผู้ป่วยจะเรียกว่า ‘แผนกอายุรศาสตร์ครอบคลุม’ เช่นเดิม ไม่ใช่ ‘แผนกเนื้องอกวิทยา’ เพราะครอบครัวผู้ป่วยไม่อยากให้ผู้ป่วยรู้ว่าตัวเองเป็นเนื้องอก
ดังนั้นหากเป็นคนวงในของโรงพยาบาลจะเรียกว่าแผนกเนื้องอกวิทยา แต่เมื่อพูดกับผู้ป่วยจะเรียกว่าแผนกอายุรศาสตร์ครอบคลุม
เมื่อฉินเสี้ยวหยวนได้ยินเซียวเหอกล่าวว่าเป็นแผลที่หลอดอาหารก็มีปฏิกิริยาขึ้นมาทันที เพราะเมื่อหลอดอาหารเป็นแผล หรือเกิดการทะลุขึ้นมา จะส่งผลไปทำลายถึงหลอดเลือดแดงใหญ่ได้ง่ายมาก และอาจทำให้หลอดเลือดแดงเป็นแผลไปด้วย!
หากหลอดเลือดแดงเสียหาย สถานการณ์ก็จะอันตรายขึ้นไปอีก
คิดแล้วฉินเสี้ยวหยวนก็รีบกำชับหวงเหว่ยเหยียนว่า “เหว่ยเหยียน ทำเรื่องแอดมิดก่อนเลย ไปที่แผนกศัลยกรรมหัวใจนะ เดี๋ยวพวกเราจะตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง”
หวงเหว่ยเหยียนเห็นฉินเสี้ยวหยวนกล่าวด้วยท่าทางหนักอึ้งเช่นนั้นก็ปฏิบัติตามอย่างจริงจัง
จะอย่างไรก็คิดไม่ถึงจริงๆ เมื่อครู่นี้ยังสบายๆ อยู่เลย ไม่ทันไรก็ทำท่าว่าจะป่วยเป็นโรคร้ายแรงขึ้นมาเสียแล้ว!
คิดแล้วหวงเหว่ยเหยียนก็ไม่กล้าหย่อนยาน เขารีบพยักหน้ารับแล้วตามฉินเสี้ยวหยวนไปทำตามขั้นตอนทันที ส่วนจี้หรูอวิ๋นก็อยู่เป็นเพื่อนหวงหย่งอี้
ขณะเดินไปทำเรื่อง ฉินเสี้ยวหยวนก็ถือโอกาสหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรบอกให้เถามี่และเฉินชางรีบมาที่โรงพยาบาล
เถามี่อาศัยอยู่ที่ตึกพักอาศัยสำหรับบุคลากรจึงไม่ยุ่งยาก ไม่ถึงสิบนาทีก็มาถึงห้องโถงของแผนกฉุกเฉินแล้ว
ส่วนเฉินชางกำลังเล่นมือถือดูทีวีอยู่ด้วยกันกับฉินเยว่ เมื่อได้รับโทรศัพท์จากฉินเสี้ยวหยวนก็รีบเปลี่ยนชุดทันที กระทั่งฉินเยว่ก็ยังตามไปด้วย
ตอนที่เฉินชางมาถึงโรงพยาบาล หวงหย่งอี้ทำเรื่องแอดมิทเสร็จแล้ว และถูกส่งตัวไปตรวจต่อที่แผนกรังสีวิทยาแล้ว
ฉินเยว่เห็นมารดายืนรออยู่นอกแผนกรังสีวิทยาก็เดินเข้าไปหา
ส่วนเฉินชางเมื่อเห็นเซียวเหอก็รีบยื่นหน้าเข้าไปถามทันที “หัวหน้าเซียว อาการเป็นยังไงบ้างครับ”
เซียวเหอมองเฉินชาง เขาพิจารณาครู่หนึ่งก่อนตอบ “อาจบาดเจ็บที่หลอดอาหาร และทะลุไปถึงหลอดเลือดแดงใหญ่ครับ”
เมื่อเขากล่าวออกมาเช่นนี้ กระทั่งเฉินชางก็ยังตกใจ!
นี่ไม่ใช่อาการป่วยเล็กๆ เลย หากถึงขั้นทำให้มีเลือดออกที่ระบบทางเดินอาหารส่วนบนเป็นจำนวนมาก อาจมีอันตรายถึงชีวิต!
ปกติถ้าตรวจเจอจะต้องรีบผ่าตัดทันที ดังนั้นเมื่อเฉินชางได้ยินเช่นนี้จึงให้ความสำคัญขึ้นมาทันที “วินิจฉัยหรือยังครับ”
เซียวเหอส่ายหน้า “ส่งไปเอ็กซเรย์แล้วครับ”
เฉินชางได้ยินดังนั้นก็ตรงไปยังห้องปฏิบัติการของแผนกรังสีวิทยาทันที
หลายวันมานี้เฉินชางคุ้นเคยกับหมอที่แผนกรังสีวิทยาขึ้นมาก เพราะทั้งสองแผนกอยู่ชั้นหนึ่งเหมือนกันจึงเจอหน้ากันบ่อยๆ ดังนั้นเมื่อเห็นเฉินชางเข้ามา หยางหลินผู้เป็นหมอของแผนกรังสีวิทยาก็ไม่ได้ใส่ใจนัก
เฉินชางเดินเข้าไปหาแล้วพูดว่า “เหล่าหยาง รบกวนดูหน่อยครับว่าหลอดเลือดแดงใหญ่เสียหายหรือเปล่า”
หยางหลินพยักหน้า
ภาพเอกซเรย์มีความสำคัญต่อการวินิจฉัยและการตรวจพบอาการบาดเจ็บที่หลอดอาหารจนทะลุไปถึงหลอดเลือดแดงใหญ่เป็นอย่างมาก
เมื่อผลเอกซเรย์ออกมาแล้ว หยางหลินก็ขมวดคิ้ว “โอ้โห ชางเอ๋อร์ คุณอาจจะเดาถูกจริงๆ ก็ได้! ดูสิ ประจันอก[1]บวมมาก ช่องอกด้านซ้ายมือบริเวณระหว่างหัวใจกับกระบังลมหนาขึ้น การไหลเวียนโลหิตที่หลอดเลือดแดงใหญ่ก็หายไป…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ