บทที่ 477 ชางเอ๋อร์ รีบไปพักเถอะ!
เมื่อนำปลายหน้าตัดทั้งสองด้านมาประกบกัน ปลายหน้าตัดที่เดิมทีดูเละเทะราวถูกสุนัขแทะกลับเชื่อมต่อกันได้ในพริบตา!
เมื่อเมิ่งซีเห็นภาพนี้พลันต้องเบิกตากว้าง!
เฉินชางเปลี่ยนวิธีอีกแล้วหรือ
ภาพนี้ดูคล้ายกับฟันปลาสองด้าน เมื่อนำมาประกบกันแล้วก็ทำให้ปลายทั้งสองเชื่อมต่อกันได้พอดี
ภาพอันน่าทึ่งนี้ทำให้ทุกคนในห้องผ่าตัดประทับใจมาก
หากเดินออกไปจากประตูห้องผ่าตัดนี้แล้วอาจไม่ได้เห็นอีก หากนำไปพูดให้คนอื่นฟังคงไม่มีใครเชื่อ!
ช่วงเวลาอันน่าเหลือเชื่อที่ควรถูกเรียกว่ามายากลเช่นนี้ทำให้ทุกคนหายใจไม่ทั่วท้อง!
เมื่อครู่อาจดูเหมือนเฉินชางตัดเล็มส่วนล่างของหลอดเลือดโป่งพองไปตามใจ แต่ที่จริงเขาวางแผนไว้ดีแล้วนี่เอง! นี่เป็นสิ่งที่อยู่ในความคาดหมายของเขาแต่แรก!
แต่เพราะเป็นเช่นนี้ ทุกคนจึงตื่นตะลึงจนสั่นสะท้านไปหมด! ต้องมีความสามารถขนาดไหนกันจึงจะทำได้ถึงขั้นนี้ อย่างไรคุณก็เป็นแค่ศัลยแพทย์คนหนึ่ง เรื่องเหลือเชื่อเช่นนี้ ต่อให้เป็นนักออกแบบก็ไม่แน่ว่าจะทำได้!
หากไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง หากหัวหน้าแผนกเป็นคนเล่าให้ฟัง พวกเขาต้องไม่เชื่อแน่นอน!
ทว่าความจริงอยู่ตรงหน้าแล้ว ทุกคนจำเป็นต้องเชื่อว่านี่คือเรื่องจริง
หรือว่า…ความต่างชั้นของพวกเรามันมากขนาดนี้เชียวหรือ
พวกเราเห็นการผ่าตัดเป็นอาชีพ แต่อีกฝ่ายมองการผ่าตัดเป็นศิลปะ!
ที่แท้การเย็บก็ทำเช่นนี้ได้ด้วย!
เฮ้อ…
ในสมองของจิ่งหรานราวกับมีเพลงท่อนหนึ่งดังขึ้นมา
บอกไม่ถูกว่าทำไม ฉันจึงกลายเป็นคนธรรมดา
หากคุณชื่นชมใครบางคน การเย็บก็จะกลายเป็นเรื่องอัศจรรย์
ฉันอยากร้องถามดังๆ ว่าคุณทำสำเร็จได้อย่างไร
กระทั่งเพื่อนร่วมงานที่ยืนอยู่ข้างๆ ยังเดาได้เลยว่าตอนนี้ฉันตื่นเต้นอยู่!
ฉันกำลังอาลัยอาวรณ์ต่อคุณ…
จิ่งหรานรีบระงับความคิดของตน ถึงอย่างไรก็มีภรรยาแสนสวยก็รออยู่ที่บ้าน จะคิดฟุ้งซ่านไม่ได้เด็ดขาด
จิ่งหรานตื่นเต้นจริงๆ มีคู่หูผ่าตัดเช่นนี้ก็นับเป็นวาสนาอย่างหนึ่ง
……
เมิ่งซีมองเฉินชางด้วยสายตาสงสัย
ในสมองของไอ้เด็กนี่บรรจุอะไรไว้มากเท่าไหร่กันแน่นะ
ข้างในมีเวอร์เนียร์คาลิปเปอร์ หรือเครื่องสแกนอยู่หรือไง
ไม่งั้นจะทำเรื่องเหนือมนุษย์อย่างนี้ออกมาได้ยังไง
เฉินชางเตรียมเย็บต่อ ทันใดนั้นก็พบว่าอาจารย์เมิ่งเริ่มดูสติหลุดไปอีกแล้ว เธอกำลังเบิกตากว้างจ้องมองตนด้วยสายตาราวกับต้องการผ่าเปิดกะโหลกของตนออกมาดูอย่างไรอย่างนั้น!
เฉินชางอดพูดไม่ได้ว่า “อาจารย์เมิ่ง คุณจะเย็บหรือเปล่าครับ”
เมื่อเฉินชางเรียกเธอเช่นนี้ เมิ่งซีก็ได้สติกลับมา
แม้เฉินชางจะพูดเช่นนั้ นทว่าในคำพูดของเขากลับแฝงความหมายไว้ชัดเจนว่า: ยังไม่รีบมาช่วยอีก มัวอึ้งอะไรอยู่!
เห็นฉันเป็นผู้ช่วยเบ็ดเตล็ดไปซะแล้ว!
คิดถึงตรงนี้ เมิ่งซีก็ขุ่นเคืองแต่ไม่อาจระบายออกมาได้
ก็แค่เย็บไม่ใช่หรือไง
มีอะไรน่าสนใจกัน!
ชิ!
ขณะนั้นก็หันไปพูดกับพยาบาลว่า “ไหมเบอร์สี่ค่ะ”
พยาบาลส่งคีมจับเข็มมาให้ เมิ่งซีรับไว้พลางปรายตามองเฉินชาง: คอยดูเถอะ!
อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอรับคีมจับเข็มมาแล้ว จู่ๆ ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มลงมือจากตรงไหนดี!
เธอมองดูปลายตัดหลอดเลือดทั้งสอง รู้สึกราวกับเห็นรูปภาพสองภาพมาประกบกัน ดวงตาของเธอพลันมืดมน เกิดเป็นความสับสนมึนงง ความปรารถนาที่จะเป็นคนเย็บเองเลือนหายไปทันที
ไอ้หนูนี่…มันเอาความยากทั้งหมดมารวมไว้ในขั้นตอนการเย็บหลอดเลือดแดงใหญ่บริเวณช่องอก
เมื่อเทียบกับการปลูกถ่ายหลอดเลือดแล้ว การเย็บเช่นนี้ยังยุ่งยากกว่ามาก…ทั้งยังต้องใช้ความแม่นยำสูง หากเย็บไม่ระวังจนเกิดรูรั่วขึ้นมาคงพูดยาก
ยิ่งไปกว่านั้น หากเย็บไปตามรอยแผลอันซับซ้อนทื่อๆ จะทิ้งร่องรอยอะไรไว้หรือไม่ก็ยังไม่ทราบ อาจทำให้เกิดการตีบของหลอดเลือดแดงอีกครั้งก็เป็นได้!
คิดแล้วเมิ่งซีก็มือสั่นระริก!
เธอคิดว่านี่ไม่ใช่เพราะเธอกำลังกลัว แต่เป็นเพราะหน้าอกของเธอใหญ่เกินไปจนไปกดทับหลอดเลือด ทำให้เลือดไปเลี้ยงมือไม่พอ!
ทว่า…เมื่อเห็นแววตาล้อเลียนของเฉินชาง เมิ่งซีก็โกรธจนเลือดลมตีกลับ ขนาดชุดผ่าตัดหลวมๆ เมื่อครู่นี้ก็ยังทำให้เธอรู้สึกว่าจู่ๆ เสื้อก็รัดแน่นขึ้นมา
ไม่กล่าวไม่ได้ว่าหมอของโรงพยาบาลตงต้าล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งสิ้น ไม่ว่าคุณเมิ่งจะคิดทำอะไร พวกเขาก็จะไม่ว่อกแว่ก จดจ่ออยู่กับกับการผ่าตัดตรงหน้าเท่านั้น!
หากหวังเชียนอยู่ตรงนี้ด้วย ไม่ทราบว่าเขาจะมองไปที่ไหน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ