บทที่ 480 อย่าทิ้งขยะมั่วซั่ว
จูเซวียนเหวินไม่นึกเลยว่าพยาบาลน้อยคนนี้จะกล้าเถียงตน เขารู้สึกเหมือนได้รับความอัปยศอดสูอย่างใหญ่หลวง สีหน้าจึงเปลี่ยนไปโดยพลัน ถึงกับยกนิ้วชี้ขึ้นมาชี้เสี่ยวหลิน “กฎระเบียบหรือ นี่คุณพูดเรื่องกฎระเบียบกับผมเหรอ”
จูเซวียนเหวินกล่าวขึ้นว่า “คุณรู้หรือเปล่าว่าเวลาของผมมีค่าเท่าไหร่! คุณคิดว่าผมเหมือนคุณหรือไง ยืนอยู่ตรงนี้ก็ไม่มีประโยชน์ เป็นงานที่ใครก็ทำได้ไม่ใช่หรือ”
“คนหลายร้อยคนรอกินข้าวกับผมอยู่นะครับ โรงพยาบาลของพวกคุณต้องเกรงใจผมสิ ยังกล้ามาพูดเรื่องกฎระเบียบกับผมอีก”
สีหน้าเสี่ยวหลินเปลี่ยนไปทันที
งานที่ฉันทำจะไม่มีความหมายได้อย่างไร อะไรคือเป็นงานที่ใครๆ ก็ทำได้
ดูถูกกันแล้วยังโจมตีเรื่องฐานะอีกหรือ
มีเงินแล้วเก่งนักหรือไง!
มีคนหลายร้อยคนรอกินข้าวกับคุณ ถ้างั้นคุณก็ไปหาพนักงานของคุณสิ!
เสี่ยวหลินถูกคำพูดของชายคนนั้นทำเอาโกรธจนหน้าแดงก่ำ!
เธอมาจากหมู่บ้านเล็กๆ ตอนนี้เธอโกรธขึ้นมาแล้ว คำพูดของชายคนนี้ทำร้ายความภูมิใจในตัวเองของคนอื่นเกินไป
เดิมทีเสี่ยวหลินก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจอยู่แล้ว คำพูดนี้ยิ่งทำให้เสียวหลินโกรธจนแสบจมูกไปหมด
พยาบาลที่ยืนอยู่ข้างๆ เสี่ยวหลินรีบดึงมือเสี่ยวหลินที่อยู่ใต้โต๊ะ พยายามส่งสัญญาณเตือนไม่ให้เธอทะเลาะกับเขา
เสี่ยวหลินพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไรอีก
ทะเลาะกับผู้ชายแบบนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์! แต่เธอคิดไม่ถึงว่าชายคนนั้นจะระเบิดอารมณ์ใส่
เฉินชางเห็นดังนั้นก็รีบเดินเข้ามา “มีเรื่องอะไรกันครับ”
พยาบาลที่ยืนอยู่ข้างเสี่ยวหลินเห็นเฉินชางก็พูดขึ้นว่า “หมอเฉิน คนนี้เขาแซงคิวค่ะ”
ชายคนนั้นได้ยินคำพูดของพยาบาลก็ถลึงตาใส่ “อย่างผมจะเรียกว่าแซงคิวได้ยังไง แผนกฉุกเฉินให้บริการเร่งด่วนไม่ใช่หรือ ตอนนี้ผมเร่งด่วนที่สุดแล้ว จะเรียกว่าแซงคิวได้ยังไง”
เสี่ยวหลินแค่นเสียงเย็นออกมา กล่าวอย่างไม่เห็นด้วยว่า “มีคนที่อาการหนักกว่าคุณเยอะแยะค่ะ พวกเราจัดคิวตามความสาหัสของอาการค่ะ”
เป็นจริงดังนั้น แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลอันดับสองมีคิวอยู่สามประเภท ได้แก่สีดำ สีแดงและสีเขียว
โดยปกติสีดำหมายถึงมีอันตรายถึงชีวิต จะต้องเร่งช่วยเหลือก่อน สีแดงคืออาการค่อนข้างสาหัส จะต้องรีบรักษาด่วน ส่วนสีเขียวไม่ค่อยเร่งด่วน รอไปก่อนได้ ซึ่งคิวที่ชายคนนี้ถืออยู่ก็คือคิวสีเขียวเบอร์สาม
เมื่อครู่เขาได้ยินคิวสีแดงเบอร์สี่ถูกเรียกเข้าไปจึงโกรธขึ้นมาทันที จะเอาคำอธิบายจากเสี่ยวหลินให้ได้
จูเซวียนเหวินได้ยินเสี่ยวหลินกล่าวเช่นนี้ก็พูดขึ้นว่า “คนไข้คนอื่นไม่เห็นว่าอะไรเลย แล้วเธอจะมายุ่งวุ่นวายทำไม เดี๋ยวผมรักษาเสร็จก็ไปแล้ว จะต้องไปพบแขกสำคัญอีก! ถ้าเรื่องนี้ทำให้ผมล่าช้า คุณมีปัญญาชดใช้หรือไง เงินเดือนชั่วชีวิตของคุณยังไม่พอชดใช้เลยด้วยซ้ำ”
ชายคนนั้นกล่าววาจาหยาบคายขึ้นเรื่อยๆ
เดิมทีเฉินชางไม่ได้โกรธ แต่เมื่อได้ยินอีกฝ่ายตำหนิเสี่ยวหลินเช่นนี้ก็โกรธขึ้นมาบ้างแล้ว
คุณมาโรงพยาบาลเพื่อมาโชว์เหนือหรือไง
ไม่ลองไปส่งเสียงดังหน้าประตูสถานีตำรวจดูหน่อยล่ะ
เฉินชางอดพูดไม่ได้ว่า “เสี่ยวหลิน เรียกคนต่อไปเลยครับ”
เสี่ยวหลินพยักหน้า “สีแดงเบอร์ห้าค่ะ”
จูเซวียนเหวินเห็นดังนั้นก็รู้สึกเหมือนถูกตบหน้า โทสะพลุ่งพล่านพล่านขึ้นมาทันที เขามองเฉินชางแล้วพูดว่า “ดี ดี ดี! ได้! พวกคุณไร้เดียงสาจริงๆ ถ้าผมไปธนาคารขนาดผู้จัดการธนาคารก็ยังต้องออกมาต้อนรับผม ไม่จำเป็นต้องต่อคิว ไม่นึกเลยว่าพวกคุณจะทำให้ผมเสียเวลาขนาดนี้ คอยดูเถอะว่าผมจะจัดการพวกคุณยังไง!”
“ถ้าวันนี้ผมไม่ได้ไปพบลูกค้า ผมจะมาจัดการพวกคุณ จะไปพบหัวหน้าพวกคุณ!”
คำพูดของเขาทำให้เฉินชางตกตะลึง!
คุณแม่งปัญญาอ่อนหรือไงวะครับ
เอาโรงพยาบาลไปเทียบกับธนาคารเนี่ยนะ
ทำไมไม่เอาไปเทียบกับหอฌาปนกิจศพเลยล่ะ!
ลองไปดูสิ ดูว่าต้องต่อคิวหรือเปล่า บางทีอาจได้รับการต้อนรับแบบ vip เลยก็ได้ ผู้จัดการอาจมาเผาศพให้คุณเองก็ได้
เฉินชางมองชายตรงหน้าด้วยสายตานิ่งเรียบ “รบกวนคุณอย่ามาโวยวายที่ห้องโถงแผนกฉุกเฉินด้วยนะครับ หากคุณยังไม่หยุด ผมจะให้ รปภ.มาเชิญคุณออกไป!”
ชายคนนั้นมองเฉินชาง ถลึงตาใส่อย่างดุดัน!
“อ้อ เชิญผมออกไปหรือ โรงพยาบาลเป็นบ้านคุณหรือไงถึงต้องเชื่อฟังคำสั่งคุณ”
เฉินชางหันไปพูดกับฝ่ายรักษาความปลอดภัย “ถ้าเขาส่งเสียงดังอีกก็ไล่เขาออกไปได้เลยนะครับ”
เดิมทีฝ่ายรักษาความปลอดภัยก็ไม่พอใจชายขี้อวดคนนี้อยู่แล้วจึงพากันเดินเข้ามาทันที
ชายคนนั้นสีหน้าเปลี่ยนไปโดยพลัน สุดท้ายก็นั่งลงไม่พูดอะไรอีก
ขณะนี้ ภายในห้องโถงของแผนกฉุกเฉิน ผู้ป่วยที่กำลังต่อคิวอยู่หลายคนมองชายคนนั้นราวกับเป็นเรื่องสนุก
โลกนี้มีคนอยู่ทุกประเภทจริงๆ!
คุณเป็นเจ้านายคนก็ต้องได้ตรวจก่อนหรือไง
นี่คือแผนกฉุกเฉิน! ไม่ใช่บ้านคุณ!
เฉินชางแค่นเสียงเย็นออกมาครั้งหนึ่ง จากนั้นจึงเดินนำผู้ป่วยไปรักษา
ผู้ป่วยคนนั้นพูดขึ้นยิ้มๆ “มาโรงพยาบาลทำให้ฉันได้เห็นโลกจริงๆ โลกนี้มีคนทุกประเภทเลยนะคะ!”
เฉินชางพยักหน้า เป็นเช่นนั้นจริงๆ มีพวกบ้าอำนาจมาโรงพยาบาลไม่ใช่น้อย หากเป็นคนที่มีไหวพริบเสียหน่อยจะกระทำเงียบๆ แต่หากเป็นพวกขี้โอ่ก็จะชอบเอะอะโวยวาย
มีเงินหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ขี้โม้มาก! แถมยังชอบดูถูกเรื่องเงินเดือนของพวกเรา…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ