คำพูดของต้วนโปทำให้เฉินชางชะงักไป!
ขอให้ผมรับงานนอก?
ผมเป็นแค่หมอเล็กๆ คนหนึ่งก็รับงานนอกได้แล้วหรือ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หัวใจดวงน้อยๆ ของเฉินชางก็เต้นหนักหน่วงขึ้นหลายส่วน เนื่องจากการขอให้คุณรับงานนอกเช่นนี้ แสดงว่าต้องเชื่อมั่นในความสามารถของคุณมาก
สำหรับศัลยแพทย์แล้ว นี่เป็นเกียรติอย่างหนึ่ง!
ทว่าเมื่อเฉินชางใจเย็นลงแล้ว ก็รีบพูดขึ้นว่า “นี่…หัวหน้าต้วน ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากรับงานนะครับ แต่ตอนนี้ความสามารถผมมีจำกัด ถ้าให้ผ่าตัดไส้ติ่งยังพอได้ แต่อย่างอื่น…”ต้วนโปรีบกล่าวขึ้นทันที “ผู้เชี่ยวชาญเสี่ยวเฉิน พวกเราก็ต้องการเชิญคุณมาทำการผ่าตัดไส้ติ่งนี่แหละครับ ยิ่งไปกว่านั้น…พวกเราต้องการแค่การผ่าตัดไส้ติ่งด้วยแผลเล็กเท่านั้น! ครั้งหนึ่งมีค่าผู้เชี่ยวชาญให้สองพันหยวน รวมค่าอาหารที่อยู่หรือค่าเดินทางด้วยนะครับ ค่าบรรยายหนึ่งคาบสองพันหยวน ส่วนเรื่องอื่นค่อยคิดกันทีหลัง คุณว่าเป็นยังไงครับ?”
ต้วนโปเป็นผู้ช่ำชองคนหนึ่ง เขาไม่ได้ถามเฉินชางว่าทำไม แต่พูดถึงราคาออกมาโดยตรง!
หนึ่งครั้งมีค่าผู้เชี่ยวชาญสองพันหยวน!
บรรยายหนึ่งคาบได้เงินสองพันหยวน!
เยอะหรือเปล่า?
ไม่น้อยเลย!
สำหรับเฉินชางถือว่าเยอะมากแล้ว ปกติหมอเล็กๆ คนหนึ่งจะมีรายได้และสวัสดิการแบบนี้ที่ไหนกัน ไม่ต้องพูดถึงรับงานผ่าตัดภายนอกคนเดียวเลย แค่การผ่าตัดในโรงพยาบาลตัวเองยังมาไม่ถึงคุณด้วยซ้ำ
เงินนี้สำหรับหมอเล็กๆ แล้วไม่น้อยเลยจริงๆ
และสำหรับต้วนโปก็ไม่ถือว่าน้อย!
เงินเหล่านี้คิดจากค่าใช้จ่ายในแผนก ไม่ได้คิด “ค่าผู้เชี่ยวชาญ” จากผู้ป่วย
สิ่งที่ต้วนโปต้องการก็คือการเรียนรู้เทคนิค หวังว่าเฉินชางจะทิ้งทักษะ “การผ่าตัดไส้ติ่งด้วยแผลเล็ก” เอาไว้ให้คนในแผนกได้เรียนรู้กัน
เมื่อถึงตอนนั้น หากคนในแผนกทำให้การผ่าตัดไส้ติ่งด้วยแผลเล็กเป็นที่แพร่หลายจนกลายเป็นจุดเด่นของโรงพยาบาลได้ เงินเท่านี้ก็ไม่นับว่าเยอะอะไรเลย
ไม่กล่าวไม่ได้ว่าต้วนโปมีความสามารถจริงๆ ทั้งยังมีความกล้าหาญและมีสายตากว้างไกลด้วย!
จริงดังคาด เมื่อเฉินชางได้ยินจำนวนเงินก็พิจารณาครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพยักหน้าตอบรับ “ได้ครับ แต่เรื่องเวลาพวกเราค่อยหารือกันอีกทีนะครับ”
ต้วนโปรีบตอบทันที “แน่นอนอยู่แล้วครับ เอาตามความสะดวกของหมอเสี่ยวเฉินเลยครับ คุณสะดวกเมื่อไหร่พวกเราค่อยนัดแนะกัน”
“ใช่แล้ว หมอเสี่ยวเฉิน คุณขับรถได้หรือเปล่า?”
เฉินชางชะงักไป ยิ้มเขินๆ “ขับได้ครับ แต่ผมไม่มีรถ”
ต้วนโปได้ยินก็ยิ้มชมเชย “ผู้เชี่ยวชาญเสี่ยวเฉิน คุณมีทักษะแบบนี้ เรื่องซื้อรถก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นไม่ใช่หรือครับ? ถ้าตอนนี้คุณไม่มีรถ วันหลังจะมาที่นี่ก็ให้โทรหาผมโดยตรงเลยนะครับ ผมจะส่งคนไปรับคุณเอง”
……
……
หลี่เป่าซานขับรถค่อนข้างเร็ว มีชีวิตชีวาเหมือนกับนิสัยของเขา
ปกติหลี่เป่าซานยิ้มน้อยมาก มักมีใบหน้าเคร่งขรึมอยู่ตลอด รูปร่างไม่สูงนัก สูงไม่ถึงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร รูปร่างกลางๆ ใบหน้าเหมือนจางอี้[1]ไม่น้อย แม้จะหัวล้านไปมากแล้ว แต่ดูรวมๆ กลับมีชีวิตชีวามาก แววตาคล้ายมีรังสีเอ็กซ์ที่มองเพียงปราดเดียวก็มองทะลุทุกอย่างได้ และมองทะลุจิตใจคนได้ด้วย!
เสาหลักของแผนกฉุกเฉินแห่งโรงพยาบาลอันดับสองผู้นี้ หากใช้คำพูดของฉินไท่ซานผู้เป็นหน่วยรักษาความปลอดภัยมาบรรยายก็คือ ทั่วทั้งแผนกฉุกเฉิน ขอเพียงมีหัวหน้าหลี่อยู่ก็จะไม่มีปัญหาอะไร
ขณะที่อยู่บนรถ หลี่เป่าซานมีท่าทีคล้ายกำลังใคร่ครวญอะไรบางอย่าง จากนั้นจึงพูดขึ้นว่า “เสี่ยวเฉิน ผมอยากให้คุณอยู่ต่อจริงๆ!”
เฉินชางยิ้ม “หัวหน้าครับ ผมเองก็อยากอยู่ทำงานกับคุณนะครับ”
หลี่เป่าซานส่ายหน้า “ผมแก่แล้ว วันนี้พอเห็นคุณผ่าตัดเสร็จผมก็รู้สึกปลงอนิจจังจริงๆ คนหนุ่มก็เหมือนกับคุณ มีความกล้าหาญ กล้าทำในสิ่งที่คนอื่นไม่กล้า! ตอนผมอายุเท่าคุณผมเองก็เป็นแบบนี้ แต่ตอนนี้…ความกล้าเหมือนจะลดลงเรื่อยๆ แล้ว!”
ทั้งสองสนทนากันไปมา ไม่รู้สึกเบื่อหน่าย
[ติ๊ง! ภารกิจประจำวันสำเร็จ ได้รับรางวัลพิเศษ: ทักษะภาษาอังกฤษทางการแพทย์ (ระดับสูง)]
[ทักษะภาษาอังกฤษทางการแพทย์ระดับสูง คุณสมบัติพิเศษ: พูดคล่อง]
หลังจากภารกิจเสร็จสิ้น ข้อมูลจำนวนมหาศาลก็ไหลเข้าสู่สมองเฉินชาง พริบตาเดียวเขาก็ได้ครอบครองความทรงจำมากมาย…คําศัพท์ภาษาอังกฤษ…ศัพท์เฉพาะด้านยาในภาษาอังกฤษ…
ภาษาอังกฤษทางการแพทย์และภาษาอังกฤษทั่วไปแตกต่างกันอย่างเดียว นั่นก็คือมีศัพท์เฉพาะมากกว่า!
เฉินชางเคยอ่านวารสาร The Lancet [2]เป็นครั้งเป็นคราว ปกติบทความหนึ่งจะต้องใช้เวลานาน เนื่องจากคำศัพท์ในนั้นค่อนข้างซับซ้อน เขารู้ไม่หมด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ