ตลอดทาง ซือหยางชวนคุยประมาณว่าเมื่อคืนนอนหลับสบายหรือเปล่า บอกเล่าจุดเด่นบางอย่างของเมืองหลวงเหมือนเพื่อนทั่วไป ส่วนเรื่องงานกับเรื่องที่เฉินชางได้รางวัล เขาไม่พูดถึงแม้แต่คำเดียว
เฉินชางถามอย่างสงสัย “ผู้จัดการซือ ศูนย์ฉุกเฉินเมืองหลวงเป็นยังไงบ้างครับ”
ซือหยางนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งแล้วจึงพูดแบบนี้ “ศูนย์ฉุกเฉินเมืองหลวง ให้พูดตรงๆ ก็คือเป็นจุดรวมศูนย์ฉุกเฉินของเมืองหลวง เขาติดต่อร่วมมือกับโรงพยาบาลเป็นร้อย กลายเป็นเครือข่ายฉุกเฉินเครือข่ายหนึ่ง”
“เลือกโรงพยาบาลที่เหมาะที่สุดไปกู้ชีพตามอาการของผู้ป่วย ความรับผิดชอบใหญ่หลวง”
“ความสามารถเฉพาะทางเขาอาจจะไม่ได้เก่งที่สุดในเมืองหลวง แต่หน้าที่ของเขากลับเป็นสิ่งที่ทั้งเมืองหลวงขาดไม่ได้ ในขณะเดียวกัน ความสามารถในการกู้ชีพของเขาก็ไม่เป็นสองรองใคร!”
คำพูดของซือหยางทำให้เฉินชางมีแนวคิดเบื้องต้น รถของซือหยางมาถึงริมทางม้าลาย เขาชี้ให้เฉินชางดู “ตรงนั้นครับ ตึกสามหลังสิบแปดชั้น เห็นหรือยังครับ”
เฉินชางตั้งใจดู บนป้ายขนาดมหึมาเขียนไว้ว่าศูนย์ฉุกเฉินเมืองหลวง อาคารฉุกเฉินสามหลังตั้งเข้าหากันเป็นรูปสามเหลี่ยม ทำให้เฉินชางตกตะลึงอย่างห้ามไม่ได้ สร้างศูนย์ฉุกเฉินศูนย์หนึ่งใหญ่โตขนาดนี้ได้ มองจากแค่จุดเล็กๆ ก็เห็นภาพใหญ่!
พอลงจากรถ เพราะยังไม่ถึงเวลาที่กำหนดไว้ เฉินชางจึงตัดสินใจไปดูว่าห้องฉุกเฉินที่นี่มีลักษณะอย่างไร แต่เพิ่งเดินไปก็ได้ยินเสียงสัญญาณรถฉุกเฉินแสนรีบร้อนดังขึ้นลงเป็นจังหวะ หมอกู้ชีพผู้ป่วยไม่ขาดสายอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย มองพริบตาแรกอย่างกับตลาดสดสักที่หนึ่ง
แต่เฉินชางกลับรับรู้ได้ว่าความจริงแล้วแต่ละทีมต่างจัดการกู้ชีพอย่างเป็นระเบียบ ตั้งแต่รับการมาถึงห้องกู้ชีพ ช่วยตรวจดู ขอปรึกษาเคส จนเตรียมผ่าตัดในที่สุด
ทั้งกระบวนการทำให้เฉินชางดูแล้วรู้สึกตื่นเต้นมาก!
จนกระทั่งถึงตอนแปดโมง เฉินชางไปหาเจ้าหน้าที่เพื่อรายงานตัวตามการแจ้งเตือน ต่อมาก็ถูกพาไปยังกลุ่มกลุ่มหนึ่ง
“นี่คือเฉินชาง วันนี้เขาจะตามพวกคุณไปดำเนินการกู้ชีพ…” เจ้าหน้าที่แนะนำเฉินชาง บอกเรื่องที่ต้องระวังในวันนี้ให้ฟัง ทุกคนต่างก็มาจากแผนกศัลยกรรมหัวใจ ต่างรู้เรื่องพวกนี้
“สวัสดีครับ ผมหลี่เหว่ยเยี่ยนครับ เป็นหัวหน้าทีมทีมนี้ ทีมพวกเรามีสมาชิกทั้งหมดสี่คน หลักๆ แล้วรับผิดชอบงานกู้ชีพศัลยกรรมหัวใจ วันนี้อาจจะค่อนข้างลำบาก”
หลี่เหว่ยเยี่ยนเป็นชายอายุเกือบสี่สิบคนหนึ่ง รูปร่างสูงปานกลาง ใส่แว่นตากรอบดำ ไม่เหมือนหมอแต่เหมือนโปรแกรมเมอร์ ดูไปแล้วก็เข้มงวดดี
ทีมกู้ชีพก็เริ่มปฏิบัติงานใหญ่น้อยต่างๆ ไม่หยุดเหมือนสปริงที่ขันเกลียวแน่นเส้นหนึ่ง
ตั้งแต่แนะนำตัวเสร็จตอนแปดโมง หลี่เหว่ยเยี่ยนก็ได้ยินเสียงแว่วมาจากเคาน์เตอร์พยาบาล: ทีมสามสิบสองถนนเฉาหยางเกิดอุบัติเหตุรถยนต์…รีบจัดการกู้ชีพ
เฉินชางติดรถออกไป สถานการณ์ผู้ป่วยยังดีอยู่ บาดแผลภายนอก สัญญาณชีพคงที่ ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ ทั้งห้าคนต่างยุ่งไม่ได้หยุดตลอดเช้า
ตอนเที่ยง หลี่เหว่ยเยี่ยนเลี้ยงข้าวกล่องเฉินชาง นี่เป็นข้าวกล่องที่พวกเขาได้เป็นพิเศษ ปริมาณมากพอกินอิ่ม แต่ขนาดแพทย์หญิงคนเดียวในทีมอย่างถังหลิงหลิงยังกินไปสองกล่องเต็มๆ
งานที่มีความกดดันสูงผลาญพลังงานอย่างมหาศาล
พอเฉินชางเห็นศูนย์ฉุกเฉินแห่งนี้แล้ว จู่ๆ ก็รู้สึกว่างานของโรงพยาบาลอันดับสองออกจะเงียบสงบจริงๆ
ไม่ได้เป็นการบอกว่าทีมสามสิบสองที่เขาอยู่เหนื่อยกว่า ตรงกันข้าม เฉินชางก็รู้สึกได้ว่าตอนที่แบ่งหน้าที่ศูนย์ฉุกเฉิน สิ่งที่ทีมสามสิบสองทำได้และไปกู้ชีพ หลักๆ แล้วต่างเป็นเคสคงที่ ผู้ป่วยอาการไม่หนัก การผ่าตัดเพียงครั้งเดียวในตอนเช้าเป็นผู้ป่วยที่เอออร์ตาส่วนลงเลือดออกเพราะอุบัติเหตุรถยนต์
อย่างกับทีมสามสิบสองนี้ไม่ได้เป็นทีมกู้ชีพที่ฉุกเฉินอาการสาหัส แต่คิดไปก็ใช่ ทีมกู้ชีพที่ด่วนเป็นพิเศษพวกนั้น เราอาจจะ…เข้าไปยุ่งไม่ได้อยู่แล้ว
และเช้าวันนี้ ความสามารถของเฉินชางก็ถือว่าทำให้หลายคนทึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ