ฟังคำของเด็กคนนี้จบ กล่าวตามตรง เฉินชางยังออกจะทึ่ง
นี่เป็นคำพูดที่เด็กอายุแปดขวบคนหนึ่งพูดออกมาได้เหรอ นี่จะรู้เดียงสามากเกินไปแล้วมั้ง!
อะไรก็คิดเผื่อแม่ อะไรก็นึกถึงแม่ อายุเจ็ดแปดขวบก็รู้จักนึกถึงความรู้สึกแม่แล้ว เด็กแบบนี้จะไม่ทำให้คนเอ็นดูได้ยังไง
เด็กหญิงตัวน้อยเช็ดน้ำตาจนแห้งแล้วฉีกยิ้มขึ้นมาทันที ฟันหน้าหายไปหนึ่งซี่ จึงมีรูรั่วให้ลมเข้าอยู่บ้าง
“พ่อหนูเป็นฮีโร่ เขาสละชีวิตตอนไปไล่จับผู้ร้าย พวกคุณอาตำรวจไปบ้านหนูประจำ พวกเขาต่างเป็นพ่อเล็กของหนู!”
พูดไปพูดมา เด็กหญิงก็เริ่มเบิกบานขึ้นแล้ว
“หนูมีพ่อเล็กอู๋กัง แล้วยังมีคุณลุงจางคนโหด…”
พอฟังถึงตรงนี้ เฉินชางก็ผงะไปครู่หนึ่ง คนรู้จักงั้นเหรอ
“พ่อหนูเป็นสารวัตรเหรอ”
เด็กหญิงตัวน้อยแหงนหน้าขึ้นอย่างภูมิใจ ทำความเคารพเลียนแบบพ่อของตน “หมายเลข 81793 รายงานตัวครับผม!”
“หนูเป็นตำรวจน้อย โตไปก็อยากเป็นตำรวจ คุณลุงจางบอกว่ารอหนูจบมหาวิทยาลัยก็จะให้หนูไปสถานีตำรวจ มอบชุดตำรวจให้หนู แล้วให้หนูไปจับคนชั่ว!”
จู่ๆ เฉินชางก็แสบจมูก “เด็กพวกนั้นมาแกล้งหนู ทำไมหนูไม่บอกล่ะว่าพ่อหนูเป็นตำรวจ”
หนูน้อยทำเสียงฟ่อ “พ่อหนูบอกว่าตำรวจเป็นผู้คุ้มครองประชาชน ไม่ใช่ข่มขู่คนอื่น จะว่าไปพ่อหนูก็สอนหนูชกมวยตั้งแต่เด็ก หนูไม่ได้สู้พวกเขาไม่ได้ หนูเป็นตำรวจ หนูแลยล่นงานคนอื่นไม่ได้ เล่นงานได้แต่คนชั่ว หนูกับพวกเขาเป็นเพื่อนกัน ต่อให้พวกเขาชอบแกล้งหนู แต่ก็ยังซื้อลูกอมให้หนูกินนะ”
หลัวโจวอดหันหลังไปไม่ได้แล้ว
เล่อเล่อก็รู้สึกเหมือนฝุ่นเข้าตา จะร้องไห้รอมร่อ
เฉินชางสูดหายใจลึกๆ เฮือกหนึ่งแล้วพูดกับหลัวโจวว่า “เหล่าหลัว คุณช่วยพาน้องไปเอกซเรย์ทรวงอกทีครับ”
หลัวโจวพยักหน้า กะพริบตาแล้วพาหนูน้อยออกไป
พอเห็นทุกคนออกมา หยางไคฮว่ากับลู่เจี๋ยก็รีบลุกขึ้น “หมอคะ เป็นยังไงบ้างคะ”
เฉินชางนิ่วหน้า ทรยศคำสัญญาของเขากับเด็กน้อยอยู่ดี “ลูกคุณอาจจะมีปัญหาหัวใจนิดหน่อย เมื่อกี้ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG ไม่ค่อยเหมือนกับคนทั่วไปเท่าไร แต่…เจ็ดแปดขวบแล้ว ต่อให้ความเป็นไปได้แบบนี้จะน้อย แต่…ผมแนะนำว่าให้ไปตรวจให้ครบหน่อยดีกว่าครับ”
“ผมให้น้องไปเอกซเรย์ทรวงอก จากนั้นก็ตรวจคลื่นไฟฟ้า Echo ถ้าไม่มีปัญหาอะไรแล้วค่อยว่ากันครับ”
“อีกอย่าง น้องบอกผมว่าแน่นหน้าอกเป็นประจำ หายใจลำบาก แล้วก็ค่อนข้างเจ็บ”
ลู่เจี๋ยได้ยินแล้วหน้าเปลี่ยนสี “ลูกคนนี้ ทำไมเขาไม่บอกฉัน”
เฉินชางส่ายหัว “น้องบอกว่าน้องไม่อยากให้คุณเป็นห่วงครับ…”
ลู่เจี๋ยได้ยินแล้วตาแดงขึ้นมาทันที
มีลูกที่รู้เดียงสามากเกินไปก็ไม่ดี!
ลู่เจี๋ยหันไปมองหยางไคฮว่า “คุณหยางคะ คุณไปเถอะค่ะ ลูกสาวฉันไม่เป็นไรค่ะ นั่นเป็นโรคที่เป็นมานานทั้งนั้น!”
หยางไคฮว่าส่ายหัว “ผม…กลับบ้านไปก็ไม่มีธุระ ผมชอบเด็กคนนี้มากครับ ขอดูว่ามีอะไรช่วยได้บ้างเถอะ ถ้าเกิด…เมื่อกี้ผมก็ทำให้เกิดเรื่องอะไรเข้าล่ะ”
ลู่เจี๋ยพูดอยู่นานยังไล่หยางไคฮว่าไปไม่ได้ จึงทำได้เพียงยอมแพ้
ตอนนี้เอง หลัวโจวก็พาหนูน้อยเข้ามา เธอเบิกบานใจมาก
“คุณอาหมอคะ หนูไม่เป็นไรค่ะ!”
หลัวโจวก็ค่อนข้างประหลาดใจ “เหล่าเฉิน เอ้านี่ นี่เป็นใบรายงาน นี่เป็นผลเอกซเรย์”
เฉินชางดูรายงานเอกซเรย์ทรวงอก
เงาหัวใจขนาดปกติ ไม่พบความผิดปกติที่เด่นชัด
เฉินชางนิ่วหน้า หรือเราคิดผิด
เขาเอาฟิล์มเอกซเรย์ออกมาส่องกับแสงไฟดู
หลัวโจวเห็นเฉินชางขรึมไปขนาดนี้จึงเริ่มสงสัย
ทันใดนั้น เฉินชางก็เห็นมุมซ้ายบนของเงาหัวใจนูนขึ้นมาเล็กน้อย!
เขานิ่วหน้าทันที!
นี่มันไม่ใช่! ต้องไม่ปกติแน่ ฟิล์มนี่ไม่ดี
เฉินชางพลันขมวดคิ้ว เอ่ยกับหลัวโจวว่า “วันนี้แผนกรังสีใครอยู่เวร”
หลัวโจวร้องอ๋อ “หัวหน้าจ้าว”
เฉินชางชะงักไป “จ้าวซิงเหรอ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ